พวกเราสี่คนรีบเดินมาหารุ่นพี่ตามที่นัดหมายทางไลน์ ปรากฏว่าอาจารย์ภาควิชาภาษาญี่ปุ่นสั่งโอเบนโตะจากร้านดังมาเลี้ยงนักศึกษาปี 1 เป็นอาหารกลางวันแล้ว... ดีใจน้ำตาไหลพราก ใจดีอะไรขนาดนี้ ขอบคุณค่ะเซนเซย์
ฉัน พีช แก้มยุ้ยและเอม เดินเข้าไปรับโอเบนโตะจากรุ่นพี่ปี 2 ระหว่างทานข้าวก็ได้ทำความรู้จักกับพวกเพื่อนๆ ในเอกคนอื่นไปด้วย แล้วคือแต่ละคนเป็นกันเองมาก โดยเฉพาะเอมี่และลิซ่า... เพื่อนเก้งที่เรียกเสียงฮาจากทุกคนได้เป็นอย่างดี ฉันกับพีชทานข้าวไปหัวเราะสองคนนี้ไปไม่หยุด คือขำมาก ขำจริง จัง!
หลังทานข้าวเรียบร้อย เซนเซย์ทุกท่านก็มาให้โอวาทเด็กปี 1 อย่างใจดี จากนั้นรุ่นพี่ปี 2 ก็ให้พวกเราเฟรชชี่แนะนำตัวกันอย่างเป็นทางการ แถมตอนนี้ยังใจดีพาน้องๆ อย่างพวกเรามาเปิดโลกด้วยการแนะนำคณะต่างๆ ใน ม. ให้รู้จัก
โดยที่เอม แก้มยุ้ยรวมถึงเพื่อนเก้งรวมตัวอยู่ที่หัวแถวกับพวกพี่เอซึ่งเป็นประธานปี 2 หนำซ้ำพวกนั้นยังซักไซร้รุ่นพี่เรื่องหนุ่มฮ็อตใน ม. ไม่หยุด พวกรุ่นพี่ก็ยินดีเม้าท์มอยให้ฟังอย่างออกรส ส่วนฉันกับพีชเดินอยู่กลางแถว ทำความรู้จักเพื่อนกลุ่มอื่นอะไรไปตามประสาคนไม่สนใจหนุ่มๆ เท่าไหร่ แฮร่!
จนกระทั่งถึงคณะเด็ดที่สาวๆ และเก้งกวางต่างกรีดร้องในความหล่อของหนุ่มคณะนี้ นั่นคือวิศวะนั่นเอง
“ตึกใหญ่ข้างหน้าคือคณะวิศวะ ผู้หล่องานดีงานปังใน ม. ส่วนมากมาจากคณะนี้ แฟนพี่ก็เรียนที่นี่เหมือนกัน” พี่เอที่อยู่หัวแถวหันมาบอกพวกเรารุ่นน้องด้วยดวงตาระยิบระยับ หัวเราะอยู่คนเดียว
“หยุดมโนได้ละอีเอ มึงยังไม่มีแฟนค่ะ” พี่ลูกน้ำที่เดินข้างพี่เอมองแรงใส่เพื่อนตัวเอง
“ชะนี! ขัดได้ขัดดี ชาติที่แล้วเป็นฝอยขัดหม้อรึไงยะ” พี่เอจิ๊ปากใส่พี่ลูกน้ำ ดูทรงแล้วพี่สองคนนี้ต้องเป็นเพื่อนรักกันแน่ นอน เพราะนอกจากจะแซวกันไม่หยุด ยังเข้าขากันได้ดีด้วย
“น้องๆ อย่าไปฟังพี่เอมากนะคะ สติมันไม่ค่อยดีอย่างที่เห็นนี่แหละ” พี่ลูกน้ำทำเป็นไม่สนใจเพื่อน แต่หันมาคุยกับเด็กปี 1 อย่างพวกเราแทน เรียกเสียงหัวเราะได้เป็นอย่างดี
“เดี๋ยวตอนเดินผ่านลานเกียร์ลองส่องผู้ดูนะ รับรองว่า ฟินเว่อร์” รองประธานปี 2 อย่างพี่ชิชาเอามือป้องปากกระซิบบอก ทำเอาน้องปี 1 ที่อยู่หัวแถวทำตาโตตื่นเต้นกันใหญ่
“เข้าใจมั้ย!”
เฮือก! ฉันกับพีชสะดุ้งสุดตัว ตาโตหันมองกันอย่างหวาดผวาเมื่อได้ยินเสียงตะโกนถามดังลั่นไปทั้งบริเวณ รุ่นพี่ปี 2 รวม ถึงเพื่อนในเอกต่างเงียบกริบลงโดยไม่ได้นัดหมาย สรุปง่ายๆ สั้นๆ เอกญี่ปุ่นที่เฮฮามาตลอดทางเมื่อผ่านคณะวิศวะถึงกับตัวลีบกันหมด
ขวับ! ฉันแอบมองลานเกียร์ เห็นเพื่อนนักศึกษาใหม่ทั้งหญิงและชายนั่งเต็มไปหมด แล้วยังมีรุ่นพี่ใส่เสื้อช็อปยืนคุมเชิงอยู่ด้านหน้า
“คณะไร เอกไรวะ”
“ตรงนั้นคุยอะไรกัน! ผมอนุญาตให้พวกคุณพูดรึไง!”
เฮือก! เสียงตะโกนถามดังลั่นทำเอาฉันกับพีชที่เดินข้างกันสะดุ้งอีกรอบ
“...............” เงียบแฮะ ไม่มีใครกล้าพูดแม้แต่แอะเดียว
“ไม่ได้ยินรึไง เฮ้ดว้ากถามพวกคุณสามคน ทำไมไม่ตอบ! ลุกขึ้น!” หือ! นี่มันเสียงคล้ายพี่เดย์เลยแฮะ หรือฉันเข้าใจผิดไป?
ทันใดนั้นนักศึกษาชายสามคนก็ลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าหวาดกลัว เป็นฉันโดนว้ากขนาดนี้ก็ผวาเหมือนกันนะ
“ว่าไง พวกคุณคุยอะไรกัน!” เฮ้ย! จริงๆ นะ ฉันว่าเสียงพี่ว้ากคนนี้เสียงเหมือนพี่เดย์มาก
“ถ้าไม่ตอบ เพื่อนของพวกคุณทั้งหมดต้องโดนลงโทษด้วย! อยากลุกนั่งอีกห้าสิบใช่มั้ย!” น่าจะเฮ้ดว้ากรึเปล่าที่ตะโกนถาม เพราะเสียงของเขาดุดันขั้นสุดจนหนึ่งในสามคนที่ยืนอยู่ถึงกับลนลาน
“ตะ ตอบแล้วครับ! พวกผมคุยกันเรื่อง เอ่อ เพื่อนคณะอื่นที่กำลังเดินผ่านหน้าคณะเราครับ”
พรึ่บ! ประชากรชาววิศวะที่อยู่ลานเกียร์ทั้งหมดต่างหันมองมาทางนี้โดยพร้อมเพรียง
“พี่เฮ้ดว้ากหล่อมากเลยอ่ะแก เกินต้านชะมัด” เพื่อนในเอกญี่ปุ่นตาโตซุบซิบกันอย่างตื่นเต้น
“โอย! เบ้าหน้าฟ้าประทานเว่อร์ หล่อแบบออลคิลโคตร”
“พี่ว้ากคนอื่นก็ใช่ย่อย! นั่นหล่อพรีเมียมแบบตี๋ๆ นี่หล่อโลกละลาย โน่นหล่อแบบละสายตาไม่ได้ แต่ละคนงานดีเหมือนที่พี่เอเคลมเลย”
พอได้ยินพวกเพื่อนในเอกพูดกัน ฉันก็แอบเหล่มองพี่ว้ากคณะวิศวะด้วยความอยากรู้อยากเห็น จนกระทั่งสายตาโฟกัสเข้ากับร่างสูงของผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังยิ้มมุมปาก... วินาทีนี้ฉันตาโตด้วยความตกใจ
ผู้ชายหล่อเหลารอยยิ้มโลกละลายอย่างพี่เดย์คือหนึ่งในพี่ว้ากคณะวิศวะที่ขึ้นชื่อเรื่องความน่ากลัวและดุดัน
มิน่า! เมื่อคืนเพื่อนของไอ้โรคจิตที่เข้ามาลวนลามฉันถึงดูลนลานเมื่อเห็นพี่เดย์เข้า
ไม่น่าเชื่อว่าพี่ว้ากที่ใครเห็นเป็นต้องกลัวจะชวนฉันไปทานข้าว ทำไงดี จากที่ไม่อยากไปอยู่แล้ว... ยิ่งไม่อยากไปมากกว่าเดิม แต่ถ้าปฏิเสธ... ไม่โดนว้ากแย่เหรอ ถ้าให้ตกลงก็คงไม่ไหวเหมือนกัน จะยะจะใดดี วินาทีนี้น้องมืดไปแปดด้านแล้วจ้าว จ่วยฝันหวานคนนี้กึดเหตุผลกำเตอะ ฮือออ!