ความสัมพันธ์ชักแปลกเกินไปแล้ว

1444 Words
“นั่งแป๊บเดียวครับ เดี๋ยวพี่เจมี่ก็ลง” เสียงของพี่เดย์ทำให้ฉันเงยหน้ามองเจ้าตัวด้วยอารมณ์กระวนกระวาย ก่อนจะกระซิบถามร่างสูงที่กำลังเอื้อมมือไปยังประตูรถ “พี่เจมี่ดุมากมั้ยคะ” “ไม่ดุครับ แต่เป็นเฮ้ดว้ากปีที่แล้ว” คำตอบสบายๆ ของพี่เดย์ทำเอาฉันเบิกตาโตอย่างหวั่นเกรง ว่าแล้วว่าพี่เจมี่มีรังสีดุดันเหมือนพี่เทมส์ ที่แท้ก็เป็นเฮ้ด ว้ากเหมือนกันแต่คนละปี! เกิดฉันทำอะไรไม่ถูกใจจะไม่ว้ากใส่แย่เหรอ จุดจบไม่สวยเลยยะนั่น แง! “คือหนูขอไปเอง...” ยังไม่ทันที่จะพูดจบประโยค ปิ๊น! เสียงแตรรถที่จ่อด้านหลังดังขึ้นเล่นเอาฉันสะดุ้ง พี่เดย์รีบเปิดประตู วางกระเป๋าของฉันไว้ระหว่างเบาะ ก้าวขาเข้าไปนั่งอย่างรวดเร็ว “มาครับ” พี่เดย์พยักหน้าให้กันเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาสามัญของโลก แต่สำหรับฉันแล้ว...มันไม่ใช่เลย! เด็กผู้หญิงที่ในชีวิตแทบไม่มีเพื่อนผู้ชายเพราะเรียนสตรีล้วนมาแต่เด็ก มีเหตุจำเป็นต้องไปนั่งตักรุ่นพี่ผู้ชาย! มันทำใจไม่ได้จริงๆ!! ฉันยืนเม้มปาก สองมือกำกระโปรงไว้แน่น มองตักพี่เดย์แล้วอยากร้องไห้ ถึงจะบอกตัวเองว่าแค่แป๊บเดียวแต่อารมณ์หลายขั้วกำลังตีกันไม่หยุด เข้าไปนั่ง หรือวิ่งไปเรียกแท็กซี่ที่หน้าปากซอย... ถ้าทำงั้นพี่เจมี่ได้หมายหัวฉันแน่ เวลาเข้ารับน้องต้องโดนลงโทษล้านเปอร์เซ็นต์ แต่จะให้นั่งตักพี่เดย์ก็ทำใจไม่ได้อีก มันตะขิดตะขวงปนเขินจนแทบดิ้นตาย ฮือ! ปิ๊นนนน! เฮือก! เสียงแตรรถดังยาวนานทำเอาฉันสะดุ้งสุดตัว “เร็วสิครับน้อง ข้างหลังมันด่าพ่อพี่ละ!” น้ำเสียงหงุดหงิดของพี่เจมี่ที่ดังในเวลาเดียวกันทำเอาฉันหวาดผวา ขนลุกไปทั้งแขนด้วยความกลัว หมับ! เฮ้ย! รู้ตัวอีกทีคือขึ้นมานั่งบนรถโดยพี่เดย์เอื้อมมือเข้ามาจับแขน ดึงร่างฉันที่กำลังทำตัวไม่ถูกเข้ามานั่งบนเบาะแถมปิดประตูอย่างไว หนีไม่รอดแล้วฝันหวาน ไว้อาลัยให้ตัวเองได้เลย! แง! “เรียบร้อยนะ” พี่เจมี่ถามเหมือนเป็นเรื่องปกติ คณะนี้เค้าเห็นผู้หญิงนั่งตักผู้ชายเป็นเรื่องเบสิกรึไง? แล้วทำไมฉันต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์ไม่ปกตินี้ด้วย! “เรียบร้อยพี่” พี่เดย์ตอบง่ายๆ เช่นกัน กระดึ๊บ! ฉันถือโอกาสตอนที่รถยังไม่ออกตัวรีบขยับออกห่างจากพี่เดย์ โชคดีที่เบาะกว้างแถมคนนั่งเบาะเดียวกันก็อ้าขา เราสองคนเลยไม่แนบชิดกันมากเกินไป ฟู่ว! ค่อยยังชั่ว! ปิ๊นนนน! เสียงแตรรถจากด้านหลังดังขึ้นอีกครั้ง “เร่งหาพ่อง รอแค่ห้าวิมึงจะตายรึไง ควาย!” พี่เจมี่บ่นอย่างหัวเสียพร้อมกับเร่งเครื่องเต็มสูบ ออกรถอย่างรวดเร็วทำเอาฉันที่ไม่ทันระวังตัว กระเด็นมาโดนพี่เดย์ที่นั่งเบาะเดียวกันเต็มที่ หมับ! เฮือก! พี่เดย์ใช้มือรองรับร่างฉันไว้อย่างไวเล่นเอาฉันสะดุ้งตาเหลือก กลายเป็นว่าฉันตกอยู่ในอ้อมกอดของพี่เค้าอย่างสมบูรณ์แบบ วินาทีนี้ใจดวงน้อยเต้นรัวราวกับจะหลุดออกนอกอก เราสองคนใกล้กันมากจนรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นร้อนของอีกฝ่ายแถวแก้มข้างขวา “ขอโทษครับ พี่กลัวน้องฝันหวานจะได้รับบาดเจ็บ” พี่เดย์กระซิบบอกกันที่ข้างหูพร้อมกับคลายอ้อมกอดออกทำเอาฉันหายใจโล่งขึ้นมานิดนึง... นิดนึงจริงๆ “ขะ ขอบคุณค่ะ” ฉันตะกุกตะกักบอกด้วยใจที่สั่นรัว ขยับตัวออกจากพี่เดย์อย่างรวดเร็ว ใจเย็นฝันหวาน เดี๋ยวพี่เดย์ก็ได้ยินเสียงหัวใจเธอหรอก! “เบาหน่อยดิพี่ น้องกระเด็นละ” พี่เดย์หันไปบ่นใส่พี่เจมี่ที่ตอนนี้พารถออกมาจากซอยแล้ว “เออ! กูขอโทษ ลืมตัวไปหน่อย” พี่เจมี่บอกด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด “โทษทีนะน้องฝันหวาน” “ไม่เป็นไรค่ะ” ฉันตอบเบาๆ ตามมารยาท นั่งตัวแข็งเพราะกลัวร่างกายจะสัมผัสตัวพี่เดย์มากกว่าเดิม ตอนนี้ขาทั้งสองข้างของพี่เดย์แนบสนิทกับสะโพกและขาของฉันแล้ว ฮือ! ฉันพยายามทำตัวให้ลีบที่สุด ใช้มือจับคอนโซลด้านหน้ารถไว้แน่น ตามองนอกถนน พี่เดย์คุยอะไรกับพี่เจมี่แทบไม่เข้าหูเนื่องจากได้ยินแต่เสียงหัวใจตัวเองที่กำลังเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง ในที่สุดสิ่งที่ฉันภาวนามาตลอดทางก็เป็นผล พี่เจมี่เลี้ยวรถเข้าหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่ง ขับเข้าซอยแรกก่อนจะจอดยังบ้านหลังบิ๊กเบิ้ม... ฉันไม่ต้องนั่งเบียดกับพี่เดย์ให้ใจเต้นผิดจังหวะแล้ว! สาตุ๊! “ขอบใจมึงมาก” พี่เจมี่หันมาบอกพี่เดย์พร้อมกับปลดเข็มขัดออก “เล็กน้อยน่า พี่ช่วยผมจนไม่รู้จะหาทางตอบแทนไงแล้ว” พี่เดย์บอกด้วยน้ำเสียงรื่นเริงแปลกๆ “หึ” พี่เจมี่หัวเราะในลำคอ ก่อนจะบอกว่า “มึงก็เลี้ยงเหล้ากูดิ” “ไม่มีปัญหา” ระหว่างที่พี่รหัสน้องรหัสคู่นี้กำลังคุยกัน ฉันรีบเปิดประตูรถ ขยับตัวออกมายืนด้านนอกอย่างไว ในที่สุดก็หลุดพ้นจากความใกล้ชิดที่โคตรอันตรายสักที! พี่เดย์ขยับตัวออกจากเบาะข้างคนขับตามมาติดๆ ก่อนจะลาพี่เจมี่ที่ตอนนี้เดินมาอยู่หน้าประตูบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “งั้นผมไปนะ” “ขับรถดีๆ อ้อ! น้องฝันหวาน” “ค่ะ...คะ” ฉันรีบเงยหน้าตอบรับอดีตเฮ้ดว้ากคณะวิศ วะอย่างไว “คราวหน้าถ้าพวกพี่นัดเลี้ยงสายรหัส น้องก็มากับไอ้เดย์มันล่ะ” พี่เจมี่บอกอย่างง่ายๆ แต่ทำเอาฉันกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะตอบเสียงเบาว่า “แต่หนูไม่ได้เรียนวิศวะ แล้วหนูก็ไม่ได้เป็นฟะ...” ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบ พี่เจมี่ก็แทรกขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจัง น้ำเสียงเรียบนิ่งแต่ทำเอาฉันขนลุกเพราะตาของพี่เค้าที่มองมาโคตรดุ “ถึงไม่ได้เรียนคณะเดียวกันแต่น้องเป็นแฟนไอ้เดย์ มาแนะนำตัวกับสายรหัสไว้ มีไรจะได้ช่วยเหลือกัน... เข้าใจมั้ย!” ท้ายประโยคถามดังกว่าเดิม 3 ระดับทำเอาฉันสะดุ้งเผลอตอบอย่างไว “เข้าใจค่ะ” “ดีมาก แล้วไม่ต้องกลัวพี่ขนาดนั้น พี่ไม่กัดน่า” พี่เจมี่พูดเสียงกลั้วหัวเราะ แววตาดุดันเปลี่ยนเป็นขี้เล่นในชั่ววินาทีทำเอาฉันเบิกตางง อะไรเนี่ย? สรุปตัวตนเฮ้ดว้ากวิศวะปีที่แล้วเป็นไงกันแน่ โคตรโหดหรือขี้เล่น? “หึ” เสียงหัวเราะในลำคอของพี่เดย์ทำให้ฉันหันไปมองเจ้าตัว พี่เดย์ปรับสีหน้าจากกลั้นขำเป็นปกติอย่างรวดเร็ว เดี๋ยวนะ! ฉันว่ามันแปลกๆ ... “มึงรีบไปเหอะ ป่านนี้ไอ้บาสมันพาหมาไปถึงนานแล้วมั้ง” เสียงของพี่เจมี่ทำให้ฉันเพิ่งรู้สึกตัว ใช่แล้ว! ฟูฟูไม่ได้มากับเรา! “ไปเถอะครับ” พี่เดย์พยักหน้าให้ฉัน “ค่ะ” ฉันพยักหน้าตอบก่อนจะยกมือไหว้ลาพี่เจมี่อย่างเด็กมารยาทดี “งั้นหนูลาแล้วนะคะ สวัสดีค่ะ” “ดีครับ ไว้เจอกัน” พี่เจมี่ยักคิ้วแถมยังเหล่มองพี่เดย์ด้วยสีหน้าระรื่น ขวับ! ฉันหันหลังเพื่อเข้ามานั่งฝั่งข้างคนขับ พี่เดย์เอื้อมมือมาปิดประตูให้ ก่อนจะเดินอ้อมไปขึ้นฝั่งคนขับ พอรถเคลื่อนตัวฉันก็ออกปากถามถึงน้องหมาทันที “แล้วฟูฟูอยู่ที่ไหนคะพี่เดย์” มัวแต่กลัวพี่เจมี่ ลืมไปหมดว่าจะพาน้องไปฉีดวัคซีนแต่น้องดันไม่มาด้วย “เพื่อนของพี่เอาน้องไปก่อนแล้วครับ บ้านมันเป็นคลินิกรักษาสัตว์ พี่เลยจะพาเจ้าฟูฟูไปฉีดวัคซีนที่นั่น” พี่เดย์หันมาตอบกันด้วยรอยยิ้มก่อนจะหันไปตั้งใจขับรถ ฉันพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะเงียบ หันมองนอกกระ จกพลางคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ถ้ามีคนรู้ว่าฉันนั่งเบาะเดียวกับพี่เดย์จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน แล้วไหนจะเรื่องที่พี่เค้าบอกนอนหลับฝันดีเมื่อคืนรวมถึงพูดต่อหน้ากล้องว่าเราเป็นแฟนกันอีก ความสัมพันธ์ของเราสองคนชักแปลกเกินไปแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD