น้องรหัส

1348 Words
นที "เฮ้ยไออิท ยังไม่เลิกเรียนเลยจะรีบไปไหน?!" อิทธิ "แดกเหล้า" นที "จะโดดซ้อมเชียร์เหรอ!! วันนี้พี่ประธานมาคุมเองเลยนะเว้ย พี่รหัสมึงไม่ใช่ไง?" อิทธิ "ใคร?" นที "เอ๊าาา นี่ไม่รู้จักพี่ลลิลประธานเชียร์ได้ไงวะ พี่เค้าเป็นถึงดาวมหาวิทยาลัยปีที่แล้วเลยนะเว้ย เป็นน้องรหัสจริงป๊ะเนี่ย" อิทธิ "ไม่เคยเจอ" นที "เออ..กูลืมไปว่ามึงเพิ่งย้ายกลับมา บทสนทนาของนักศึกษาเฟรชชี่ปี1คณะวิศวะกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังที่มีชื่อเสียงติดอันดับท๊อป3ของประเทศ อิทธินักศึกษาหัวกะทิระดับต้นๆเดิมทีเค้าศึกษาอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาแต่ด้วยเหตุผลส่วนตัวจึงย้ายกลับมาเรียนต่อมหาวิทยาลัยในประเทศไทย นิสัยส่วนตัวเป็นคนนิ่งๆเข้าถึงยาก พูดน้อยแต่ถ้าลองได้พูดออกมาแล้วจัดอยู่ในประเภทปากสุนัขเลยหละ ไม่รู้ทำไมสาวๆมารุมกรี๊ดคนปากเสียแบบนี้ อาจเป็นเพราะเบ้าหน้าฟ้าประทาน ความอัจฉริยะดั่งเทพบรรดาลให้ และที่สำคัญบ้านรวยดูจากนาฬิกาข้อมือที่เขาใส่ Jacob&Co.Astronomia Solar Planets – Zodiac ที่ในโลกมีแค่ไม่กี่เรือน เรียกได้ว่าโปรไฟรไม่ธรรมดา เข้าสูตร หล่อฉลาดบ้านรวยค..ยใหญ่(ขออภัยในความหยาบโลนก็น้องมันหล่อแบบตะโกนจริงๆมันต้องใช้คำนี้เท่านั้น^o^) แต่มีน้อยคนนักที่จะรู้ถึงประวัติส่วนตัวเขา ส่วนเด็กหนุ่มหน้าตาดี ยิ้มทีโลกละลาย เจมส์จิรายุยังต้องอาย หมากปริญชิดซ้ายไป พูดเลย เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของนายอิทธิ นที หลานชายคณะบดี "มีปัญหาใส่ชุดนักศึกษามาหาพี่เดี๋ยวเคลียร์ให้" คำติดปาก เป็นคนยิ้มมีเสน่ห์ เจ้าชู้ หล่อเท่ห์ สายเปย์ที่แท้ทรู บุคลิกตรงข้ามกับเพื่อนสนิทสิ้นเชิงไม่รู้คบกันได้ยังไง เห็นจะมีที่เข้ากันอย่างไม่ค้านสายตาคือความออร่าพุ่งกับหุ่นนักกีฬาสูง ยาว เข่าดี ดีกรีนักบาสเก็ตบอลมหาวิทยาลัยเดินคู่กันที่ไหนสาวๆใจละลายทันที ด้วยส่วนสูง189cmทั้งคู่ กร้าวใจไรท์ซะจริงๆ(หลงรักตัวละครของตัวเอง) พอรู้จักกันคร่าวๆแล้วโน๊ะ ไปต่อค่ะ... . .. พิมประภา "ไม่มาอีกแล้วค่ะพี่ลิน" ลลิล "ทั้งสองคนเลยเหรอพิม" น้องรหัสของฉันนี่มันยังไงสงสัยต้องเจอกันหน่อย ปล่อยมานานแล้ว ตอนประชุมสายรหัสก็ไม่เข้า เป็นถึงนักกีฬามหาวิทยาลัยแต่ไม่มีวินัยเอาซะเลย ยิ่งไม่มีความเคารพรุ่นพี่อย่างนี้ด้วยแล้วปล่อยไว้ไม่ได้ ยังไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันเลยทำตัวลึกลับเหลือเกิน เดี๋ยวได้เจอของจริง แล้วจะหาว่าสวยไม่เตือน.. ฉันผู้บ่นกับตัวเอง ลลิล "ไปกัน พิม" พิมประภา "ไปไหนคะพี่ลิล" ลลิน "ได้เวลาไปเยี่ยมเยียนน้องรหัสของฉันกันแล้ว" ฉันหันมาชวนลูกพี่ลูกน้องของฉัน เธอชื่อพิมประภา คือที่จริงเราเรียนปีเดียวกันแต่ยัยพิมเป็นเด็กเรียนเก่งสอบเทียบจบม.ปลายเร็ว เลยตามฉันเข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยตั้งแต่อายุ17เรียนคณะเดียวกันอยู่หอด้วยกันอีก เป็นทั้งญาติสนิทและเพื่อนสนิทของฉัน ว่าแต่แล้วฉันจะไปตามหาน้องรหัสของฉันได้ที่ไหนละเนี่ย.. . .. ขอใช้คำยุคพ่อขุนรามนิดหน่อยนะคะเพื่อเพิ่มอรรถรส ^..^ . .. ณ ชมรมบาสเกตบอลของมหาวิทยาลัย ตึง ตึง ตึง เอี๊ยด เอี๊ยด เสียงเคาะลูกบาสและรองเท้าผ้าใบเสียดสีกับพื้นดังก้องในโรงยิมของชมรมบาสเก็ตบอล ชายหนุ่มรูปร่างกำยำกล้ามเป็นมัดๆพร้อมซิกแพคแน่นนับสิบคนกำลังฝึกซ้อม บ้างก็วิดพื้น บ้างซ้อมชู๊ตสามแต้ม บ้างแบ่งทีม3:3แข่งกันครึ่งสนาม "ขอโทษค่ะ มีใครเห็นนายอิทธิวิศวะปี1บ้างคะ?!?" เสียงหวานใสดังขึ้นที่หน้าประตูทางเข้าโรงยิม ทุกสายตาหันมามองที่ต้นเสียงแล้วต้องตะลึงดั่งถูกสะกดเวลาให้หยุดนิ่ง ต้องมนต์ของคนที่เพิ่งมา คนหน้าหวานชะงักเท้าไม่กล้าเดินต่อด้วยเพราะบรรยากาศในตอนนี้ ตึง ตึง ตึงงงง ลูกบาสเกตบอลกระเด้งพื้นโดยไม่มีผู้เล่นคอยเลี้ยงบอลไม่ช้าก็กระดอนต่ำลงจนกลิ้งไปหยุดที่เท้าของคนงาม "มีไร!!?" เสียงทุ้มห้าวกร้าวใจดังมาจากด้านหลัง ร่างขาวรีบหันกลับไปโดยไม่ทันระวังหน้านวลชนเข้ากับแผงอกแกร่งทิ้งรอยลิปติกสีชมพูบางเบาไว้ที่อกเสื้อของคนมาใหม่ที่ทำให้ตกใจ "ว๊ายยย" เธอเซถอยหลังเหยียบเข้ากับลูกบาสที่กลิ้งเข้ามาเมื่อสักครู่ทำให้กำลังจะล้มหงายหลัง มือหนาของคนตัวสูงรีบเอื้อมคว้าเอวร่างบางโดยอัตโนมัติ โคร้มมมม!!! ปากนุ่มประกบเข้ากับปากของคนตัวสูงในองศาที่พอดิบพอดี คนสวยตกใจรีบผละออกสองแขนยันพื้นทะลึ่งตัวรีบลุกขึ้นยืน "ขอบคุณ เอ่ออ ขอโทษ เอ่ออ ขอบคุณค่ะ" คนสวยรีบพูดอย่างละล่ำละลัก "อืม โอ้ยย!!!" คนตัวสูงพยายามจะลุกขึ้นแต่เจ็บแปร๊บที่ไหล่คงเพราะที่ล้มเมื่อกี๊ตอนเค้ารีบคว้าเอวคนตัวเล็กแล้วเอี้ยวใช้ตัวเองรองเป็นเบาะให้เธอล้มทับโดยใช้ไหล่ลง "เป็นอะไรวะไออิท" นทีรีบเข้ามาประครองแล้วถามอาการเพื่อน "ไหล่เคลื่อน" อิทธิตอบกลับเพื่อนสั้นๆ นักบาส2-3คนวิ่งมาช่วยพยุ่งคนตัวสูงที่ตอนนี้ไหล่เจ็บ "ไปห้องพยาบาลดีกว่านะครับ กัปตัน " "พี่ลิลโอเคมั้ยคะ?" พิมประภาถามขึ้นเมื่อเห็นว่าลลิลยืนเงียบแก้มแดงก่ำตัวสั่นเทิ้ม คนแก้มแดงหันมาส่งยิ้มส่ายหน้าเล็กน้อยให้ญาติผู้น้องทำนองว่าไม่เป็นอะไร แต่ในใจสั่นไหวก็นั่นมันจูบแรกของเธอแถมมันน่าอายที่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นต่อหน้าทุกคน "หมดกันจูบแรกของฉั้น แต่เอ..นั่นเรียกว่าจูบเหรอแค่ปากชนปากไม่นับ" คนแก้มแดงคิดเองตอบเองในหัว เธอมองประเมินอาการของอิทธิ "ก็ลุกยืนได้ ดูแล้วอาการก็ไม่น่าห่วง" เธอจึงพูดขึ้น "ไม่เป็นไรมากใช่มั้ยคะ? งั้นฉันไปก่อนนะ" คนแก้มแดงตัดจบแล้วหันหลังเพื่อจะก้าวออกไปจากสถานการณ์นี้โดยไม่รอคำตอบ เป็นเพราะตอนนี้เธออายมากอยากจะรีบออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด "เดี๋ยว!! รับผิดชอบ" คนไหล่เจ็บพูดห้วนตอบ ทำให้คนแก้มแดงหยุดกึ๊กแล้วหันกลับมามองเขา "รับผิดชอบเหรอ คืออะไร เค้าให้เรารับผิดชอบยังไง" เธอพูดกับตัวเองอีกแล้ว "ทำไมเราไม่ถามออกไป ทำไมปากมันหนัก ทำไมใจสั่น" "ไปห้องพยาบาล" เสียงทุ้มสั่งอย่างเอาแต่ใจ นทีกำลังจะประคองเดิน คนเสียงทุ้มกร้าวใจก็พูดขึ้นอีก "เธอ" แล้วจ้องมองมาที่ลลิล สายตาบ่งบอกเป็นเชิงออกคำสั่งให้อีกฝ่ายเข้ามาประคองเดาได้ไม่ยาก เพื่อนซี้เก็ตทันทีไม่ต้องให้พูดมากเพราะเป็นเพื่อนกันมานาน เขาหันมาฝากฝังคนแก้มแดงให้ช่วยพาคนไหล่เจ็บไปห้องพยาบาล ทำทีหันมาพูดกับคนเจ็บ "กูต้องรีบไปเอาของที่ล็อคเกอร์ไปส่งอาจารย์เดี๋ยวไม่ทันแกจะกลับซะก่อน" แล้วหันไปหาพิมประภา "คุณไปช่วยผมถือโมเดลหน่อยได้ไหมครับ ต้องถือสองคน นี่ไออิทก็ไหล่เจ็บต้องรีบไปห้องพยาบาล" พิมประภาหันมองหน้าลลินเป็นเชิงถามว่าเอาไงดี ลลินจึงบอกญาติผู้น้องให้ไปช่วยนทีถือของ ส่วนตัวเธอก็เข้ามาประคองอิทธิแล้วพาเดินมุ่งหน้าไปห้องพยาบาล ลืมจุดประสงค์ที่มาตามหาเค้าในทีแรกไปซะสนิท.. . .. ... คอมเมนท์ติชมมาได้เลยนะคะ ไร้ท์อยากอ่าน^..^
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD