หลังจากวางสายจากเพื่อนรัก โทมัสก็คอยจับตาดูหญิงสาวคนสำคัญไม่วางตา ชายหนุ่มให้ลูกน้องพามารดาที่บินมาจากประเทศอังกฤษกลับบ้านก่อน ส่วนเขาต้องทำหน้าที่เป็นนักสืบชั่วคราวให้แอรอน ที่คาดว่าตอนนี้คงจะรีบเหาะมาอย่างไว
“เธอไม่ได้มาคนเดียวนี่น่า…” โทมัสพึมพำเมื่อเห็นสตรีอีกคนเดินเข้าไปหาเจ้าสาวของแอรอนด้วยรอยยิ้ม
“คงเป็นเพื่อนกันสินะ” ชายหนุ่มได้ข้อสรุปกับตัวเอง ดวงตาคมคอยจ้องมองเป้าหมายไม่วาง กลัวว่าถ้าพลาดแม้แต่วินาทีเดียวร่างงามจะหายไปตลอดกาล
และเขาคงหนีไม่พ้นต้องตกเป็นจำเลยของเพื่อนรักจอมโหด
ทางด้านของเพียงฟ้ารู้สึกร้อนๆ หนาวๆ กับสายตาของฝรั่งร่างสูงใหญ่ หญิงสาวใช้ตัวเองบังน้ำรินเอาไว้
“รินๆ” เพียงฟ้าเรียกชื่อคนตรงหน้า น้ำรินเงยหน้าขึ้นมองผู้พูด ดวงตากลมโตสงสัยเมื่อเห็นแววตาตื่นตระหนกของอีกฝ่าย
“มีอะไรหรือเปล่าฟ้า?” น้ำรินเริ่มใจคอไม่ดี
“ฉันรู้สึกว่ามีคนกำลังมองพวกเราอยู่” เพียงฟ้าพูด น้ำรินชาวาบไปทุกส่วน ร่างกายเหมือนถูกแช่แข็ง
“ระ หรือว่าคนของเขา…”
“ไม่น่าจะ” เพียงฟ้ารีบค้าน ไม่อยากให้เพื่อนตื่นตระหนกจนเกินเหตุ “อาจจะเป็นแค่ฝรั่งโรคจิตชอบถ้ำมอง”
ร่างบางยังไม่กล้าฟันธงร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่หล่อนค่อนข้างมั่นใจว่าผู้ชายคนนั้นคงไม่ใช่ลูกน้องของแอรอนเป็นแน่ ลักษณะการแต่งกายดูดีมีราศีกว่ามาก
“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิริน เธอไม่ต้องกลัวไป” เพียงฟ้าพยายามปลอบใจ แม้ตัวเองจะลุ้นระทึกไม่ต่างกัน
แต่ถ้าหากเธอแสดงท่าทีกังวลออกมาให้น้ำรินเห็น เธอก็คงไม่สามารถปกป้องเพื่อนไปจนตลอดรอดฝั่งได้
“ท่าทางแปลกๆ แฮะ” โทมัสเองก็พยายามสังเกตหญิงสาวทั้งสอง โดยเฉพาะผู้หญิงผมสั้นคนนั้น ทำไมต้องยืนบังเจ้าสาวของแอรอนจนมิดราวกับกลัวจะมีใครแอบมองด้วย
ชายหนุ่มแกล้งเดินไปทางอื่นเพื่อไม่ให้ตัวเองเป็นที่น่าสงสัยสำหรับสตรีทั้งสอง เพียงฟ้าลอบมองปฏิกิริยาของเขาอยู่เนืองนิตย์ เมื่อเห็นว่าร่างสูงหายไปจากคลองสายตาเจ้าตัวก็เป่าปากโล่งอกพลางยิ้มบางเบา สงสัยเธอจะคิดมากจนระแวงไปเสียเอง
“ไม่มีอะไรแล้วล่ะริน ไอ้หมอนั่นมันไปแล้ว” เพียงฟ้าบอกกับน้ำริน คนตัวเล็กชะโงกมองตามคำบอกเล่าของเพื่อน
“จริงด้วย คงไม่มีอะไรแล้ว” คนพูดยิ้มกว้าง… เริ่มรู้สึกมั่นใจว่าครั้งนี้จะสามารถรอดพ้นจากคนใจร้าย
“บอกแล้วว่าขึ้นเครื่องดึกๆ แบบนี้อ่ะดี ไอ้พวกบ้านั่นป่านนี้คงตามหาที่อยู่ฉันมากกว่า เพราะแจ่มโทรมาบอกว่าเมื่อช่วงเช้าพวกมันไปที่บ้านใหญ่มา” เพียงฟ้ารายงานความคืบหน้าให้น้ำรินฟัง
“แล้วแจ่มบอกอะไรพวกเขาไหม?”
น้ำรินเป็นกังวล ด้วยตัวนั้นค่อนข้างคุ้นเคยกับแจ่ม สาวใช้ของเพียงฟ้าไม่น้อย รายนั้นเป็นสาวบ้านนาที่ไม่ค่อยทันผู้คน เธอกลัวว่าฝ่ายตรงข้ามจะจับพิรุธเอาได้
“ไม่มีอะไรจะให้บอกหรอกค่ะ เธอคิดเหรอว่าฉันจะบอกยัยแจ่มว่าไปไหนทำอะไร รู้ๆ กันอยู่ว่ารายนั้นเขาซื่อ”
เพียงฟ้าหัวเราะเมื่อนึกถึงแจ่ม แม้ปากจะพูดไปแต่ใจนั้นนึกเอ็นดูในความไร้เดียงสาของเด็กสาว
น้ำรินพยักหน้ารับ ทั้งสองจึงเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการออกเดินทาง โดยไม่รู้เลยว่าอันตรายกำลังจะมาเยือนในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า
โทมัสแอบมองทั้งสองสาวจากมุมหนึ่งของสนามบิน ชายหนุ่มหยิบมือถือเครื่องโปรดถ่ายรูปน้ำรินและผู้หญิงปริศนาอีกคนส่งให้กับแอรอน
ตี๊ดๆ
เสียงมือถือดังขึ้นระหว่างที่เจ้าตัวกำลังเหยียบคันเร่งจนมิดไมล์ ชายหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบวัตถุราคาแพงมากดเปิดอ่านข้อความทางไลน์ รูปภาพที่ปรากฏทำให้เขาต้องขบกรามแน่น ดวงตาวาวโรจน์ถึงขีดสุด
“นี่คิดจะหนีฉันจนสุดหล้าฟ้าเขียวเลยสินะ!”
เสียงเข้มตวาดกร้าว ให้มันรู้กันไปว่าคนอย่างเขาจะไม่สามารถลากผู้หญิงหยิ่งผยองคนนั้นมาลงโทษได้
“อย่าฝันไปเลยน้ำริน!” แอรอนว่าแล้วก็เร่งเครื่องยนต์ที่มีไม่กี่คันในประเทศให้เร็วขึ้นกว่าเดิม ชายหนุ่มใช้เวลาไม่ถึงสองชั่วโมงก็ถึงจุดหมายปลายทาง
“โทมัส นายอยู่ที่ไหน ฉันถึงสนามบินแล้ว” เสียงเข้มกรอกไปตามปลายสาย “โอเค แล้วเจอกันเพื่อน”
แอรอนเก็บมือถือเข้ากระเป๋ากางเกงอย่างลวกๆ แล้วรีบวิ่งไปยังจุดที่โทมัสบอก สายตาคมคอยสอดส่องบรรดาผู้คนไปตลอดทาง เวลานี้หัวใจของเขาร้อนรุ่มราวกับอยู่ในเปลวไฟ มันกำลังเรียกร้องที่จะพบหน้าเธอคนนั้น
ใกล้แล้วสวรรค์…
ต้องขอบคุณพระเจ้าที่ดลบันดาลให้มารดาของโทมัสกลับมาจากประเทศอังกฤษในคืนนี้ ความจริงกำหนดคือวันพรุ่งนี้แต่เพราะต้องการมาทำธุระส่วนตัวฝ่ายนั้นจึงมาก่อนกำหนดหนึ่งวัน และมันช่างประจวบเหมาะเหลือเกินที่น้ำรินกับเพื่อนเลือกมาเดินทางวันนี้ หรือไม่นี่ก็คงเป็นลิขิตจากสวรรค์ที่ต้องการให้เขาได้พบกับหญิงสาว
“น้ำรินอยู่ไหน!” มาถึงแอรอนก็ถามหาโจทย์ทันที โทมัสชี้นิ้วไปยังเบื้องหน้า ไม่ใกล้ไม่ไกลก็เห็นร่างบอบบางแสนคุ้นเคยกำลังยืนคุยกับเพื่อนอย่างยิ้มแย้ม
ยิ้มแย้มงั้นเหรอ?
แอรอนกำหมัดแน่น… ยิ่งเห็นคนตัวเล็กมีความสุขราวกับดีใจที่จะได้ไปจากเขามันก็ยิ่งเดือดดาล พอกันที เขาทนไม่ไหวอีกต่อไป ชายหนุ่มย่างสุมเดินเข้าไปหาหญิงสาวโดยมีโทมัสวิ่งตามไปด้วยเพราะกลัวว่าเพื่อนรักจะทำตัวบ้าระห่ำกลางสนามบิน
“เฮ้ๆ ไอ้แอรอน ใจเย็นๆ สิวะ โธ่เว้ย จะซวยกูไหมเนี่ย” โทมัสขยี้เส้นผมตัวเองไปมา
ดวงตาของซาตานร้ายจ้องมองร่างอรชรไม่วาง มันเร่าร้อนจนแทบเผาผลาญผู้เป็นเจ้าของให้ตายทั้งเป็น
เหยื่ออันโอชะของเขาช่างไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเสียเลย!
“ไงที่รัก… เตรียมจะหนีเจ้าบ่าวไปไหนครับ” น้ำเสียงเข้มข้นมาพร้อมกับรอยยิ้มโหดเหี้ยม
น้ำรินตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นชายหนุ่มปรากฏกายอยู่ตรงหน้า…