เพียงฟ้าตัดสินใจจะพาน้ำรินหนีไปอยู่ต่างประเทศเมื่อแหล่งข่าวของเธอรายงานมาว่าฝ่ายนั้นสั่งคนให้ออกตามหาเพื่อนรักราวกับเป็นผู้ร้ายต้องโทษ หญิงสาวห่วงน้ำรินกลัวเจ้าหล่อนเป็นอันตราย ทางเดียวที่จะทำให้จำเลยมีชีวิตที่สดใสได้คือต้องอยู่ให้ไกลจากคนพวกนั้นให้ได้มากที่สุด เพียงฟ้าจัดการจองตั๋วเครื่องบินและเลือกประเทศเอาไว้ให้กับน้ำริน ตั้งใจจะให้หญิงสาวเป็นคนเลือกที่อยู่ด้วยตัวเองอีกที
“อังกฤษ อเมริกา หรือแคนนาดา เลือกมาเลยริน สามประเทศนี้ฉันมีเพื่อนสนิทอยู่ เราไปขอความช่วยเหลือเขาก่อนได้ หลังจากนั้นเธอค่อยหางานทำที่โน่น” น้ำเสียงเป็นกังวลเห็นได้ชัด
น้ำรินกลัวจนตัวสั่น… จ้องใบหน้าสวยคมของเพื่อนสาว
“ฟ้าแน่ใจใช่ไหมว่าทางออกนี้คือดีที่สุด”
“ฉันไม่รู้…”
เพียงฟ้ายอมรับตรงๆ มาถึงตอนนี้เธอเองก็ประจักษ์แก่อำนาจของแอรอนแล้วว่ามากล้นเพียงใด ระยะเวลาแค่ไม่กี่วันเขาใกล้ตัวน้ำรินเข้ามาทุกที หากไม่รีบพาหนีมีหวังได้ถูกจับได้อย่างแน่นอน
“แต่มันก็ต้องลองเสี่ยงไหมริน ตอนนี้ไอ้บ้านั่นสั่งคนออกล่าเธอไม่ต่างอะไรกับนายพรานล่าเหยื่อ ถ้าขืนมัวแต่แอบอยู่ที่นี่สักวันเขาก็ต้องตามเจอ เชื่อฉันเถอะริน เราต้องเสี่ยงที่จะออกไป”
เพียงฟ้าจับมือเพื่อนรัก
“ฉัน… กลัว” น้ำรินร้องไห้ หล่อนไม่เคยกลัวอะไรแบบนี้มาก่อนในชีวิต ผู้ชายคนนั้นน่ากลัวเหลือเกิน
“ถ้ากลัวก็ต้องเสี่ยง!” เพียงฟ้ายืนยันคำเดิม ดวงตาของหล่อนมุ่งมั่นกับภารกิจครั้งนี้เหลือเกิน เป็นตายร้ายดียังไงก็ต้องพาน้ำรินออกไปจากวังวนคนเลวให้ได้
“ได้ ฉันจะเสี่ยง” น้ำรินพยักหน้ายอมทำตามคำแนะนำของเพียงฟ้า “ฉันเลือกประเทศอังกฤษแล้วกัน”
เสียงหวานบอกกับคนเบื้องหน้า ที่หล่อนเลือกเมืองผู้ดีเนื่องด้วยว่าเคยบินไปที่นั่นบ่อยครั้งและค่อนข้างคุ้นชินกับสภาพแวดล้อม รวมไปถึงความเป็นมิตรของผู้คน
“โอเค ฉันจะโทร. บอกเพื่อนฉันเดี๋ยวนี้เลย แล้วฉันจัดการจองไฟล์บินให้แกเรียบร้อยแล้วตอนตีสอง”
“ทำไมดึกจังเลยฟ้า” น้ำรินเอ่ยถาม
“ดึกสิดีแล้ว ไอ้พวกบ้านั่นคงไม่คึกคะนองตามหาเธอยามวิกาลหรอก” เพียงฟ้าบอกกับร่างบาง แม้ในใจจะแอบหวั่นอยู่ลึกๆ ก็ตาม
น้ำรินพยักหน้าเห็นด้วยอีกครา หญิงสาวเตรียมเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าบางส่วนของตัวเอง เธออยู่ที่นี่เกือบจะอาทิตย์หนึ่งแล้ว ช่วงมาแรกๆ ก็ไม่มีข้าวของเครื่องใช้ใดๆ ติดตัวมาแม้แต่ชิ้นเดียว มีเพียงชุดเจ้าสาวแสนชังที่หล่อนไม่อยากได้ เพียงฟ้าก็ช่างแสนดีเหลือเกิน เธอซื้อเสื้อผ้ารวมไปถึงของใช้จำเป็นให้กับน้ำรินด้วยเงินของตนเอง
บางครั้งเจ้าหล่อนก็อดคิดไม่ได้ว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้เพื่อนดีๆ อย่างเพียงฟ้าต้องพลอยลำบากไปด้วย
“ฉันเก็บของเรียบร้อยแล้วฟ้า” น้ำรินบอกกับคนตรงหน้า น้ำตารินไหลอาบแก้มนวลอย่างห้ามไม่อยู่
“เธอจะร้องทำไมริน… อย่าร้องสิยะเดี๋ยวฉันก็ร้องตามหรอก” เพียงฟ้าลูบใบหน้าเล็กของเพื่อนรัก ทั้งสองกอดปลอบซึ่งกันและกัน
“ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะฟ้า แล้วก็ขอโทษด้วยที่ทำให้ต้องลำบาก”
“พูดอะไรแบบนั้นริน เราเป็นเพื่อนกันนะเว้ย เพื่อนกันก็ต้องช่วยเหลือกันเป็นของธรรมดาอยู่แล้ว” เพียงฟ้าเอ่ย จับมือทั้งสองข้างของน้ำรินแนบแน่น
“เธอดีกับฉันเหลือเกินฟ้า” น้ำรินร้องไห้… หล่อนเป็นคนเก็บตัวไม่มีเพื่อนเฉกเช่นคนอื่น จะมีก็แต่เพียงฟ้าคนเดียวที่รักและไว้ใจ
“อย่าร้องไห้สิริน ต่อจากนี้เธอต้องเข้มแข็งนะ เธอกำลังจะไปมีชีวิตที่สดใสมีอนาคตที่ดี เธอต้องยิ้มให้กับความสุขที่มันกำลังรอเธออยู่ เชื่อฉันเถอะริน พระเจ้าไม่รังแกคนดีๆ ให้ต้องทุกข์ใจนานหรอก พระองค์จะต้องเปิดทางให้เธอได้พบอิสระที่แท้จริง ฉันเชื่อแบบนั้น”
ถ้อยคำของเพียงฟ้าเปรียบเป็นแรงผลักดันให้น้ำรินเลิกขังตัวเองอยู่ในความรู้สึกปวดร้าว ตลอดชีวิตของหญิงสาวมีแต่ความทุกข์กายและใจ ไม่เคยมีวันไหนที่จะได้ยิ้มหรือหัวเราะได้อย่างไร้ความกังวล นาฬิกาชีวิตของร่างบางมีแต่คำว่างานและเงิน สองสิ่งนี้ที่ทางครอบครัวกำมะลอฝังรากลึกให้เธอจดจำขึ้นใจ เพราะเงินเท่านั้นที่จะบันดาลให้พวกเขาได้ในสิ่งที่ต้องการ และเครื่องจักรอย่างเธอมีหน้าที่ก้มหน้าก้มตาทำตามความต้องการที่คนเหล่านั้นปรารถนา แม้ว่าต้องฝืนใจตัวเองสักร้อยครั้งพันครั้ง เธอก็จำต้องยอม…
ให้กับคำว่า ‘บุญคุณ’ เพียงคำเดียว!
แอรอนได้รับรายงานจากมือขวาคนสนิทว่าได้ที่อยู่ของเพื่อนสาวเพียงหนึ่งเดียวของน้ำรินเรียบร้อยแล้ว วันนี้เขาจึงไม่เข้าบริษัทฯ และยกหน้าที่การประชุมสำคัญให้กับเลขาฯ ส่วนตัวแทน ใบหน้าคมคร้ามยิ้มร้ายกาจยามมองที่อยู่ในมือ วันนี้เขาจะลากแม่สาวจอมพยศให้มารับโทษทัณฑ์ให้สาสมกับที่หักหน้าผู้ชายอย่างเขา
“อยากจะรู้เหลือเกินว่าถ้าเธอเห็นฉัน เธอจะทำหน้ายังไงน้ำริน…” เสียงเข้มพูดกับตัวเองเพียงลำพัง
“ขับเร็วๆ หน่อย!”
เจ้านายหนุ่มสั่งเสียงเข้ม ทุกสรรพสิ่งช่างดูเชื่องช้าสำหรับเจ้าตัว ความจริงถ้าทำได้เขาอยากจะฝ่าไฟแดงทั้งหลายให้รู้แล้วรู้รอด แต่ไม่… แม้เขาจะมีกิตติศัพท์ความร้ายกาจเป็นที่ประจักษ์ไปทั่ว แต่เรื่องกฎระเบียบของสังคมแอรอนไม่เคยปล่อยให้ตัวเองต้องตกเป็นจำเลย ภาพลักษณ์ของเขาต้องสุขุม น่าค้นหา และสะอาดไร้มลทินเท่านั้น!
“ถึงแล้วครับนาย” สารถีเอ่ยกับชายหนุ่ม ร่างสูงยิ้มมุมปาก ในที่สุดเขาก็จะได้ตัวผู้หญิงคนนั้นเสียที
“อืม…” แอรอนจัดการเช็คเสื้อผ้าหน้าผมของตัวเองผ่านกระจกบานใสเล็กๆ อีกครั้ง สองเท้าหนาทรงพลังก้าวลงจากรถด้วยจังหวะหนักแน่น ใบหน้าคมคร้ามมีความสุข คฤหาสน์หลังนี้สินะที่จะนำพาให้เขาไปพบกับร่างบาง ผู้หญิงที่คิดหนีผู้มีอิทธิพล