บทที่ 03
ไม่อยากเป็นคนน่ารัก [2]
16.58 น.
คอนโด ทริปเบิ้ลลักซ์
“ลงมา”
กระทั่งข้ามภพเดินลงจากรถแล้วแต่นรินดาก็ยังไม่แม้แต่จะขยับ จนเขาต้องเดินมาเปิดประตูรถให้
“ผมสั่งให้ลงมา”
“ฉันจะกลับ”
“ทำไม กลัวผมเหรอ”
“ทำไมฉันต้องกลัว”
“ถ้าอย่างนั้นก็ลงมา” ข้ามภพกระชากข้อมือเล็กๆ ของนรินดาจนติดมือ ดึงเธอลงจากรถได้สำเร็จก็ปิดประตูรถลงเสียงดังแล้วลากเธอเข้าไปด้านในทันที
“ปล่อยฉันนะ ไม่งั้นฉันจะร้องให้คนช่วยจริงๆ ด้วย”
“เอาสิ ร้องเลย แต่ถ้าเกิดว่าคุณเป็นคนทำให้เรื่องผัวเมียกลายเป็นเรื่องใหญ่แล้วไม่ได้แต่งงานกับผม คุณจะมาเสียใจทีหลังไม่ได้นะนรินดา”
คำปรามาสของเขาทำให้นรินดากำหมัดแน่น เรี่ยวแรงต่อต้านเขาเมื่อครู่หายวับไปในฉับพลัน กลายเป็นถูกเขาพาตัวเข้าไปในลิฟต์อย่างง่ายดาย
ที่ผ่านมาใช่ว่าข้ามภพจะดูไม่ออกว่าทำไมนรินดาถึงได้อยากจะแต่งงานกับเขานัก แต่ที่เขาไม่พูดก็เพราะเกรงใจคุณลุงรวมถึงคุณตาของเธอ แม้จะไม่เต็มใจ แต่จะว่าไปแล้วนรินดาก็ถือว่าเป็นผู้หญิงที่เขารู้สึกสนใจ เธอเป็นคนสวยมากคนหนึ่ง บวกกับฐานะดี สติปัญญาและการศึกษา หน้าตาทางสังคมหรือแม้แต่ไลฟ์สไตล์ของเธอก็ถือว่าดีและค่อนข้างตรงกับเขามาก เพียงแต่มันติดอยู่เรื่องเดียวที่เขาเป็นกังวลมาตลอดนั่นก็คือเรื่องความร้ายกาจของเธอ เพราะเมื่อไรที่ได้เอาแต่ใจขึ้นมาก็ดูเหมือนใครก็เอาไม่อยู่
ปัง!
หลังจากที่เหวี่ยงนรินดาเข้าไปด้านในเรียบร้อยข้ามภพก็เหวี่ยงประตูห้องปิดลงด้วยความหงุดหงิด สายตาของนรินดาดูหวาดหวั่น แต่พยายามจะเก็บอาการ
“ฉันจะฟ้องคุณตา”
“เหอะ” ข้ามภพได้ยินแล้วแค่นหัวเราะ สองเท้าก้าวตรงไปหาเธออย่างใจเย็น ถอดเสื้อสูทตัวนอกโยนไปที่โซฟาก่อนจะปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีเข้มออกทีละเม็ดๆ
“คุณภพ”
“อะไร”
“คุณเป็นบ้าไปแล้วหรือไง เรายังไม่ได้แต่งงานกันนะ”
ฟุ่บ!
ได้ยินแล้วข้ามภพรู้สึกหัวร้อน ถอดเสื้อเชิ้ตออกแล้วปามันลงพื้น แกล้งเหยื่อที่กำลังกลัวเขาจนตัวสั่นแต่ยังไม่เลิกอวดดี
ท่าทีเกรี้ยวกราดของเขาทำให้นรินดารู้สึกคอแห้ง ตั้งแต่รู้จักเขาจนหมั้นกันมาได้สามปี เพิ่งเคยเห็นแผงอกของเขาเต็มตาก็วันนี้
“คุณเป็นคนหัวโบราณตั้งแต่เมื่อไร”
น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำ ตั้งใจจะเดินต้อนเธอให้ถอยไปจนสุดทาง ยืนทำตัวลีบ แผ่นหลังแนบชิดไปผนังด้านหลัง
“เมื่อครู่ที่ร้านอาหาร คุณประกาศตัวเป็นเมียผมปาวๆ ทำไมพอจะให้ทำหน้าที่เมียถึงได้ตัวสั่นนัก”
นรินดาเม้มริมฝีปากแน่นจนเจ็บ พยายามจะหลบสายตาของเขาแต่เพียงแค่ปลายคางถูกบีบเบาๆ พร้อมกับดึงกลับมา เธอก็หันหน้าหนีเขาไปไหนไม่ได้เสียแล้ว
“อ้อ ลืมไป คงเป็นอาการปกติของคนที่อยากได้ผมเป็นสามีจนตัวสั่น”
“คุณภพ อื้อออ”
ข้ามภพถือโอกาสที่นรินดาอ้าปากเถียงทาบริมฝีปากลงไปพร้อมกับสอดลิ้นเข้าโพรงปากที่ดีแต่ยั่วโมโหเขาทุกครั้งที่เจอ กวาดเอาความพยศและความดื้อรั้นของเธอที่ไม่รู้ว่าเอามันมาจากไหนนักหนาถึงได้หาเรื่องมาทำให้เขาปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน
สองมือของนรินดายกขึ้นผลักอกเขาออกไป แต่เรี่ยวแรงของเธอสู้เขาได้เสียที่ไหน แค่เขาบดขยี้ริมฝีปาก แขนขาของเธอก็พลันอ่อนแรง กลายเป็นต้องยกขึ้นเกาะเกี่ยวบ่าหนาของเขาเอาไว้เพื่อประคองตัวเอง
ข้ามภพยอมละริมฝีปากออกเพราะเสียงลมหายใจถี่กระชั้นของคนตรงหน้า ใบหน้าแดงซ่าน เสียงหัวใจของเธอเต้นดังจนน่ากลัว
“เพิ่งจะมีจูบแรก ทำไมถึงได้ทำตัวกร้านโลกนัก” ข้ามภพถามเสียงเรียบพลางยกมือขึ้นซับเหงื่อที่ล้อมกรอบใบหน้ารูปไข่ของเธออย่างอ่อนโยน ทว่าเธอกลับปัดมือของเขาออก จากที่กำลังจะใจอ่อนก็กลายเป็นรู้สึกหงุดหงิดจนต้องกระชากข้อมือของเธอทั้งสองข้างขึ้นไปตรึงไว้เหนือหัวอีกรอบ เธอยิ่งดิ้น เขายิ่งกดแรงจนเธอต้องยอมอ่อนลงด้วยตัวเอง
“ขอโทษผม แล้วผมจะยกโทษให้”
“ทำไมฉันต้องขอโทษคุณ”
“คุณก้าวร้าวกับผม ไม่รู้ตัวหรือไงว่าทุกคำพูดที่ออกจากปากของคุณมันไม่น่าฟัง และมันทำให้คุณไม่น่ารัก”
“ฉันไม่ได้อยากเป็นคนน่ารัก” นรินดาเถียงเสียงแข็ง สายตาที่เธอมองเขาแข็งกระด้างเสียจนน่าตี
“แต่ผมอยากมีเมียน่ารักๆ”
นรินดากำหมดแน่น ทุกคำพูดของเขาเองก็ไม่ได้น่าฟังเหมือนกันเพราะมันเป็นการยืนยันว่าเขาอยากได้ยัยธิชาเป็นเมีย
“เมื่อไรคุณจะไล่ผมไปหาเมียน่ารักๆ เหมือนที่ไล่พี่ชายคุณไปหาน้องสาวแสนดีกันนะนรินดา”
นัยน์ตาของนรินดาสั่นระริก แม้แต่ข้ามภพก็ยังตกใจ เมื่อครู่นี้ปากเขาพาซวยเหมือนเพียงคุณเข้าแล้ว
“นริน”
“เอาเลยไหม”
“อะไรของคุณ” เป็นข้ามภพที่ตกใจจนต้องรีบผละตัวออกเมื่ออยู่ๆ นรินดาก็ยื่นหน้ามาใกล้เขาเหมือนจะจูบ
“ก็คุณอยากได้เมียน่ารักๆ ไม่ใช่หรือไง”
“นรินดา!”
พอเธอพยายามรุกใส่ เขากลับรีบปัดป้องตัวเองทำเหมือนรังเกียจ สุดท้ายก็กดเธอเอาไว้กับผนังห้องอีกรอบ เพียงแต่ระยะห่างระหว่างใบหน้าไม่ได้ใกล้ชิดแบบเมื่อครู่อีกแล้ว
“คุณจะบ้าไปแล้วหรือไง”
“ฉันบ้ามาตั้งนานแล้วคุณไม่รู้เหรอ”
“นี่คุณ...”
“เอาสิ จะเอาหรือไม่เอา หรือว่าเพิ่งเอากับ โอ๊ย”
“อย่าก้าวร้าวกับผมเป็นครั้งที่สองนะนรินดา” ข้ามภพบีบริมฝีปากของเธอแรงๆ เพราะต้องการให้เธอหยุดพูด พยายามแล้วที่จะใช้ไม้อ่อนกับเธอแต่เหมือนจะไม่ได้ผล ไม่รู้จะดื้อด้านอะไรกันนักหนา
“ขอโทษผม แล้วสัญญากับผมว่าคุณจะไม่พูดหรือไม่ทำอะไรแบบที่ทำที่ร้านอาหารวันนี้อีก”
“ไม่”
เส้นเลือดในสมองของข้ามภพเหมือนจะระเบิด
“ถ้าจะเอาก็เอา ไม่เอาก็ไม่ต้องเอา แต่อย่าคิดว่าฉันจะปล่อยให้คุณไปเอากับอีลูกเมียน้อยนั่น แล้วยอมให้คุณยกย่องเชิดชูมันขึ้นมาเทียบฉันเพราะมันไม่มีวัน!” นรินดาประกาศกร้าว
ข้ามภพจ้องเข้าไปในดวงตาของเธอที่แม้จะสั่นระริกและเหมือนจะมีน้ำตาเอ่อคลออยู่ภายในแต่กลับไม่มีสักเสี้ยววินาทีที่จะยอมลดราวาศอกลงเลย
สุดท้ายข้ามภพก็จำต้องปล่อยมือแล้วก้าวถอยออกมา
“ถอดเสื้อผ้าของคุณสิ”
คำพูดของเขาทำให้เธอตัวสั่นเทิ้ม สองมือที่เขาเพิ่งปล่อยทิ้งเมื่อครู่กำแน่น
“เช็ดน้ำตาของคุณซะ คนอย่างผมไม่บังคับใครขึ้นเตียง”
“แล้วอี...”
“อย่าให้ผมได้ยินคำหยาบหลุดออกมาจากปากของคุณอีก จำเอาไว้ว่าคุณจะหยาบคายกับใครก็ได้แต่ไม่ใช่กับผม”
น้ำเสียงของข้ามภพดุดันจน นรินดาจำต้องกลืนทุกคำที่เธอตั้งใจจะพ่นออกมากลับลงลำคอ
“จะถอดไหม”
เมื่อเห็นเธอยอมสงบปากสงบคำเขาจึงถามต่อ ในเมื่อตกลงกันดีๆ ไม่ได้ ก็ต้องหาวิธีที่ดูจะเหมาะกับคนอย่างเธอ ซึ่งถ้าพูดกันถึงความเป็นสามีภรรยาที่เขาคงหนีไม่พ้นแล้ว ก็คงไม่มีวิธีไหนดีเท่ากับนอนคุยกัน
นรินดาถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกทั้งที่มือไม้สั่น ถอดผิดถอดถูกเพราะสายตาที่เขาจับจ้องไม่ละไปไหน แต่ต่อให้จะต้องเสียอะไรมากกว่านี้ เธอก็ยินดี แต่จะไม่มีทางยอมแพ้ให้กับลูกเมียน้อยอย่างธิชาเด็ดขาด
อะไรที่มันจะทำให้ธิชาทุกข์ทรมาน ต่อให้เธอจะต้องทุกข์ทรมานด้วยเหมือนกันเธอก็จะทำ
“อยากได้ผมเป็นผัว ต่อให้ชื่อนรินดาก็ต้องเหนื่อยเหมือนกัน”