จันทร์เจ้าในชุดเสื้อแขนยาวตัวใหญ่มีฮู้ที่เธอพกติดกระเป๋ามาเพื่อใส่อำพรางชุดแสนเซ็กซี่ที่เธอใส่ไว้ด้านใน หญิงสาวเดินเท้าไปตามถนนของเมืองที่ไม่เคยหลับไหลอย่างกรุงเทพเวลาตี4คนบางกลุ่มเริ่มออกที่จะทำมาหากิน และบางกลุ่มพึ่งจะเลิกงานและแม่ของเธอก็อยู่ในกลุ่มนั้น ประมาณตี5แม่ของเธอก็จะเลิกงานกะดึกเพื่อกลับบ้านและที่ทำงานของแม่ไม่ได้อยู่ไกลจากนี้เท่าไหร่
เธอโทรบอกแม่ว่ากำลังจะไปหาเพื่อกลับบ้านพร้อมกัน กวินทร์ขับรถหรูของตนตามเธอมาเรื่อยๆด้วยความเป็นห่วงเพราะเธอเป็นผู้หญิงต่อให้จะแข็งแกร่งแค่ไหนถ้าเจอพวกคนไม่ดีที่มันมีอาวุธหรือว่ามากันหลายคนเธออาจจะเป็นอันตรายได้
"ทำไมฉันต้องมาเป็นห่วงยัยเพี้ยนนี้ด้วย ตี4ยังมาเดินเตร่เตร่ข้างถนนอยู่ได้" แม้จะบ่นแต่เพลย์บอยสุดหล่อก็ยังขับรถตามเธอมาเรื่อยๆอยู่ดีจนเธอมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าโรงแรมหรูแห่งหนึ่งและกดมือถือโทรหาใครบางคน
"นี้มันโรงแรมไอ้แดนนี้หว่า คงไม่ใช่นัดผู้ชายไว้หรอกนะ ''
กวินท์รีบหยิบมือถือของตนขึ้นมาเพื่อเก็บภาพทันที เพื่อไม่แน่นจันทร์เจ้าอาจจะมีเสี่ยเลี้ยงอยู่แล้วก็ได้เธอถึงชอบปฏิเสธและต่อต้านเขานัก กวินทร์มโนไปเป็นตุเป็นตะ
"ขอดูหน้าไอ้ผู้ชายของเธอหน่อยดิ ถ้าเป็นคนที่ฉันรู้จักหรือมีเมียมีลูกอยู่แล้วล่ะก็ ฉันจะแบล็คเมล์เธอให้หนักเลย หึๆๆๆ"
เพลย์บอยหนุ่มใจจดจ่อเป็นอย่างมากจนกระทั้งคนที่จันทร์เจ้ารอก็ปรากฎตัวขึ้น
หญิงสูงวัยอายุราวๆสี่สิบกลางๆในชุดยูนิฟอร์มแม่บ้าน เธอหน้าตาคล้ายจันทร์เจ้ามาก หญิงสาวพอเห้นแม่ก็กระโดดหอมแก้มอย่างอ้อดอ้อนทันทีเพราะไม่อยากให้ผู้เป็นแม่บ่น
"โอ๊ยอีนี้ โตเป็นควายอยู่แล้ว เลิกมากระโดดกอดกระโดดหอมกูเป็นเด็กสิบขวบซะที ไปกินเหล้ามาอีกแล้วสิเนี๊ยกลิ่นหึ่งเชี่ยว"นางรำเพยส่ายหัวด้วยความเคยชินกับพฤติกรรมของลูกสาวเพียงคนเดียวของตน
"แฮร่ๆๆ แต่ก็ไม่เมาหนิเห็นมะ เดินมาถึงแบบชิลๆเลย อุ๊บ!!!จันทร์เจ้ารีบเอามือปิดปากตัวเองทันทีเมื่อเผลอตัวบอกผู้เป็นแม่ว่าเดินมา
"เดินมา ตาเถร่!!!มึงเดินมาจากไหนเนี๊ย แม่บอกกี่ครั้งแล้วจันทร์เจ้าว่านี้ไม่ใช่แถวบ้านมันอันตรายแกจะเดินคนเดียวแบบนี้ไม่ได้นะ ทำไมไม่นั้งแท็กซี่ห๊ะลูก เป็นอะไรมามันคุ้มกันมั๊ย!!!!"
"มันก็ใกล้ๆเองอ่ะแม่ แค่นี้เองเนี๊ย ตึกสูงๆตรงนั้นเอง"จันทร์เจ้าชี้ให้ผู้เป็นแม่ดูพรางเอาหน้าไปถูไถอ้อดอ้อนผู้เป็นแม่
"เอ่อๆคราวหลังก็ระวังตัวดีๆแล้วกัน ไปๆรีบกลีบเดี๋ยวไม่ทันใส่บาตรพระ แล้วกลับถึงบ้านเนี๊ยนะอาบน้ำสระผมก่อนเลยนะค่อยนอน"
"เจ้าค่ะ"
สองแม่ลูกคุยหยอกล้อกันเดินผ่านรถสปอร์ตคนหรูของกวินทร์ที่เปิกกระจกแง้มๆไว้เพื่อฟังบทสนทนาของทั้งคู่มาสักพักแล้ว
"ลูกแม่บ้านโรงแรม แต่ใช้ของแบรนเนมทั้งตัว แถมเที่ยวแต่ที่เฟริสคลาส ผับVVip เรียนมหาลัยภาคอินเตอร์ที่ค่าเทอมแพงกว่าเงินเดือนแม่บ้านธรรมดาหลายสิบเท่า หึ ถ้าไม่มีเสี่ยเลี้ยงหรือคนอุปถัมส์ จะเอาปัญญาที่ไหนมาทำอย่างนี้ว่ะ ชักน่าสนใจแล้วสิ ฉันต้องรู้ให้ได้จันทร์เจ้าว่าใครดูแลเธออยู่"
กวินทร์คิดเองเอ่อเองเสร็จสรรพพร้อมกับกดเซฟคลิปและภาพของจันทร์เจ้ากับแม่เก็บไว้ทันที
ร่างอรชรสมส่วนในชุดนักศึกษารัดรูปเดินกรีดกรายออกจากบ้านเพื่อมาขึ้นวินมอไซส์ขาประจำที่มารอรับเธอ
"เมื่อคืนเจ๊ไปเมาไหนมา" ธนาวินมอไซส์หน้าหล่อที่แอบหลงรักหญิงสาวมาหลายปีเอ่ยถามขึ้น
"คอนโดรุ่นน้องปี1อ่ะดิ แม่งเอ็งรู้ป่ะธนา มีแต่คนคออ่อน แปปๆนะ สายเข้าว่ะ" ขณะกำลังจะเมาส์เรื่องเมื่อคืนให้วินมอไซส์ประจำตัวฟังก็มีสายเรียกเขาสั่นระรัวส์มาจากสมาร์โฟนเครื่องหรูทันที
"ข้าวหอมนี้หว่า ฮัลโหลว่ายังไงน้องรัก......แกร้องไห้ทำไม ใครทำอะไรใจเย็นๆนะพี่จะไปเดี๋ยวนี้ส่งโลเคชั้นมา'' น้ำเสียงจันทร์เจ้าฟังดูร้อนรนและตกใจมากหลังจากวางสายญาติผู้น้องเสร็จ หญิงสาวรีบสั่งให้วินมอไซส์หน้าหล่อแว๊นไปส่งเธอที่คอนโดแห่งหนึ่งทันที โดยที่จันทร์เจ้าไม่รู้เลยว่ากวินท์นั้นแอบมาซุ้มดูเธออยู่แทบจะตลอดเวลา เพลย์บอยหนุ่มขับรถตามไปจนถึงคอนโดแห่งหนึ่งไม่ใกล้ไม่ใกล้มหาลัยเห็นจันทร์เจ้าเธอลงมอไซศ์ได้ก็วิ่งหายเข้าคอนโดนั้นไปทันที
"หึ ทำเป็นแต่งชุดนักศึกษา คงจะหลอกแม่ว่าไปเรียนสินะแต่ที่แท้ก็แอบมาหาผู้ชาย"กวินท์รู้สึกรู้สึกฟัวเสียอย่างมากเพราะจันทร์เจ้านั้นหายเข้าไปในคอนโดนั้นนานหลายชั่วโมงแล้ว
คอนโดข้าวหอม
ปึ่ง!!!!
เสียงกำปั้นหนักทุบลงบนโต๊ะอย่างแรงด้วยความโมโห
"พี่จะไปฆ่ามัน จะไปฆ่าให้ตายเลย ไอ้ชั่วเอ้ย!!!"' ทั้งน้ำเสียงทั้งแววตาของจันทร์เจ้ามีแต่ความโกรธความแค้นเมื่อได้ฟังเรื่องที่ญาติผู้น้องเล่าให้ฟัง เธอคิดว่าน้องไปมีชีวิตที่ดีเจอคนดีๆอุปถัมส์แต่ที่ไหนได้ คนที่น้องไปอยู่ด้วยกลับเป็นเพื่อนสนิทของกวินทร์คู่แค้นเก่าที่เธอเกลียดแสนเกลียด
"พี่จันทร์อย่าไป พี่ไม่มีทางทำอะไรเขาได้หรอก ไม่มีใครทำอะไรเขาได้ อึกๆๆ ฮื้อๆๆๆ"ข้าวหอมเด็กสาวใบหน้าสวยหวานราวตุ๊กตากำลังกอดรั้งผู้เป็นพี่สาวไว้ ตามร่างกายเธอมีแต่รอยฟกช้ำ
"มันชื่ออะไรนะ แดลเนียลใช่มั๊ย พี่จะไปแจ้งความ แกไม่ต้องอายนะข้าวหอม ไม่ต้องอายเราไม่ผิด มันต่างหากที่ผิด มันต่างหากสมควรต้องอาย มันหน้าตัวเมีย มันทำแกแบบนี้ได้ยังไงอึกๆๆ ฮื้อๆๆ"จันทร์เจ้าเห็นสภาพร่างกายของญาติผู้น้องน้ำตาที่เธอพยายามกลั้นไว้ก็กั้นไม่อยู่อีกต่อไป ข้าวหอมเป็นเด็กดีและน่าสงสาร เธอไม่สมครต้องมาเจออะไรแบบนี้
"พี่จันทร์ ข้าวขอร้องนะอย่าไปยุ่งกับเขาอีกเลย ข้าวไม่อยากไปยุ่งอะไรกับเขาอีกแล้ว ไม่มีใครจะทำอะไรผู้ชายคนนั้นได้ มีแต่ครอบครัวเราจะเดือดร้อนไปกันใหญ่ ทั้งพี่ ทั้งป้า ทั้งพ่อแม่ของข้าวอาจจะถูกเขาส่งลูกน้องไปฆ่าทิ้งก็ได้ ถ้าเรายังไปวุ่นวายกับเขาอยู่ ให้มันจบลงแค่นี้ข้าวจะรับไว้คนเดียว อึกๆๆฮื้อ ข้าวขอแค่พี่จันทร์อยู่เป็นเพื่อนข้าวอยู่กับข้าวในช่วงเวลานี้ก็พอ ข้าวเหนื่อย ข้าวไม่ไหวแล้วพี่จันทร์ ข้าวอยากตาย ข้าวอยากตาย อึกๆๆ ฮื้อๆๆ"
ข้าวหอมร้องไห้พรั่งพูออกมาอย่างน่าสงสาร
"ห้ามตายนะ พี่ไม่ให้ข้าวตายหรอก ห้ามตายอย่าคิดแบบนั้น พี่จะอยู่กับข้าวหอม ไม่ทิ้งน้องไปไหน แต่ข้าวหอมต้องสัญญากับพี่นะว่าห้ามทำอะไรโง่ๆ สัญญานะข้าวหอม ข้าวหอมยังเด็ก ยังสาว และข้าวหอมก็ยังสวยมากๆเลยนะ อนาคตที่ดียังรอข้าวหอมอยู่ เราจะสู้ไปด้วยกันนะ"
จันทร์เจ้าดึงญาติผู้น้องที่เธอรักดั่งดวงใจเข้ามากระชับกอดไว้จนแน่น จากที่เธอเกลียดกวินทร์มากอยู่แล้วเธอยิ่งเกลียดเขาไปอีก
'ไอ้กวินทร์ ไอ้แดลเนียล กูจะจำพวกมึงไว้ สักวันกูจะเลือดพวกมึงมาล้างตีนน้องกู'
หญิงสาวคิดในใจและภาพเหตุการณ์ในวันแรกที่ได้เจอแก๊งของกวินท์ยังชัดเจนแจ่มแจ้งตอนนี้เธอได้เหมารวมไปแล้วว่าแก๊งค์นั้นเลวทั้งกลุ่ม