ตอนที่10 ยิ่งใกล้ ยิ่งกลัว

1962 Words
ตอนที่10 ยิ่งใกล้ ยิ่งกลัว หลายเดือนต่อมา อิงฟ้าทำงานใกล้ตัวเมกะตลอด รับผิดชอบในส่วนของสต๊อกเครื่องดื่มและบัญชีรายวันของร้าน ก่อนจะส่งให้ภัทรตรวจความเรียบร้อยอีกรอบหนึ่ง “นายครับ วันนี้นายจะลงตรวจความเรียบร้อยด้านล่างไหมครับ” คำถามที่อิงฟ้าได้ยินแทบทุกวัน เธอได้แต่เก็บความสงสัยไว้ว่าข้างล่างนั้นเป็นอะไรกันแน่ แต่ยิ่งมาอยู่ใกล้ตัวมาเฟียหนุ่มแบบนี้ยิ่งยากที่เธอจะหาโอกาสลงไปที่นั่น “อิงฟ้าวันนี้เธอลงไปกับฉันด้วยนะ” เหมือนกระแสไฟช็อตร่างกายชาชั่วขณะเมื่อได้ยินแบบนั้น “คะ” อิงฟ้าทำหน้าเลิ่กลักทำอะไรไม่ถูก แต่ก็เผลอพยักหน้าตอบกลับชายหนุ่มไปเรียบร้อย “เตรียมตัว อีกสิบนาทีฉันจะลงไปข้างล่าง” ไม่เพียงแค่อิงฟ้างงกับการกระทำของมาเฟียหนุ่ม ภัทรเองก็งงกับสิ่งที่คนเป็นนายกำลังทำอยู่ตอนนี้ “ค่ะ” “นายครับ สินค้าในสต๊อกกับในรายการบัญชีไม่ตรงกัน ผมจะให้อิงฟ้าลงไปเช็กของข้างล่างดูอีกที เธอน่าจะไม่ว่างลงไปกับเราวันนี้ครับ” ภัทรรีบพูดสวนขึ้น ไม่เข้าใจเจตนาของคนเป็นนายว่ากำลังคิดจะทำอะไรอยู่ ตอนนี้ยังหาตัวคนที่อีกฝ่ายส่งเข้ามาเป็นหนอนยังไม่ได้ ก็ไม่ควรไว้ใจใครทั้งนั้นถึงแม้คนนั้นจะเป็นอิงฟ้าก็ตาม “สต๊อกของค่อยเช็กวันหลัง” สิ้นคำตอบทุกคนต้องปฏิบัติตามอย่างเลี่ยงไม่ได้ แม้กระทั่งภัทรเองก็เช่นกัน “ครับนาย” ชั้นใต้ดิน เดินเข้าไปโซนแรกจะเป็นในส่วนของโซนแลกชิพ ผู้เล่น ต้องนำ เงินสด หรือ เครดิตการ์ด ไปแลกชิพ (เหรียญพลาสติก) จากเคาน์เตอร์แลกชิพ โดยแต่ละชิพมีมูลค่าแตกต่างกันไป เพื่อนำชิพนี้ไปใช้สำหรับการเล่นพนัน และหากเมื่อจบเกม หรือ เลิกเล่น ก็สามารถนำชิพเหล่านี้กลับมาขึ้นเงินได้อีกครั้ง เพื่อนำเงินสดกลับไป “ตรงนี้จะเป็นโซนแลกชิพ ถ้าจะเล่นก็ต้องแลกชิพจากตรงนี้ก่อน” เมกะอธิบายเมื่อเดินมาหยุดตรงเคาน์เตอร์ “โซนนี้จะเป็นโซนเล่นไพ่ทั้งหมดแล้วแต่ว่าลูกค้าแต่ละโต๊ะจะต้องการเล่นไพ่อะไร โป๊กเกอร์ แบล็กแจ๊ค ไพ่ป๊อก ดีลเลอร์จะหมุนเวียนเปลี่ยนกันไปเรื่อย ๆ จะไม่ได้ยืนประจำอยู่โต๊ะเดิมตลอด” “ดีลเลอร์ได้ทริปเยอะขนาดนี้เลยเหรอคะ” ดวงตากลมโตเหลือบไปมองเห็นโต๊ะด้านซ้ายที่ลูกค้าโยนทริปให้ดีลเลอร์ไปเมื่อสักครู่เกือบ 10 เหรียญ ถ้าตีเป็นเงินสดน่าจะเป็นหลักพันบาท “แล้วแต่ลูกค้าจะให้ แต่ส่วนมากก็ได้กันประมาณนั้น” เสียงเรียบตอบกลับ “หนูอยากทำงานแจกไพ่บ้างจัง” “ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถแจกไพ่ได้ ดีลเลอร์ในนี้ต้องเรียนและมีใบประกาศมาทุกคน” “คะ แจกไพ่ก็ต้องเรียนด้วยเหรอคะ แล้วต้องไปเรียนที่ไหน ในเมืองไทยมีโรงเรียนเปิดสอนด้วยเหรอคะ หนูจะได้รีบไปสมัครเรียน” “ขนาดกาสิโนยังไม่ถูกกฎหมาย โรงเรียนสอนแจกไพ่จะมีได้ยังไง ถามอะไรไม่คิด” “แล้วเขาไปเรียนกันที่ไหนคะ” คนอยากรู้ยังคะยั้นคะยอถามไม่หยุด ทั้งที่โดนดุด้วยน้ำเสียงไปแล้วหนึ่งรอบ “ดีลเลอร์ทั้งหมดเรียนและมีใบประกาศรับรองจากฮ่องกง” สิ้นคำตอบอิงฟ้าก็เข้าใจทุกอย่างแจ่มแจ้ง พนักงานทุกคนที่นี่ล้วนมีฝีมือกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการ์ดหรือพนักงานตำแหน่งอื่น ๆ พวกเขาล้วนมีความสามารถในตำแหน่งที่ทำจริง ๆ รายได้ดีย่อมต้องมีความสามารถเช่นกัน “ห้องพวกนั้นจะเป็นห้อง VIP ลูกค้าจะเล่นตาละแสนถึงหลักล้าน ดีลเลอร์ที่แจกไพ่จะได้ทริปวันละเป็นหมื่น แต่ถ้าเจอลูกค้าเล่นเสียก็อาจโดนลูกค้าปาชิพใส่หน้า แต่ก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนักเพราะจะมีการ์ดคอยดูแลความเรียบร้อยตลอดเวลา” เมกะอธิบายให้หญิงสาวฟังอย่างละเอียด จนภัทรที่เดินอยู่ด้านหลังถึงกลับคิ้วขมวด “ต้องรวยถึงขนาดไหนถึงกล้าเล่นไพ่ตาละเป็นล้านคะ” “รวยระดับต้น ๆ ของประเทศ เงินแค่นี้เป็นแค่เศษเงินของพวกเขา คนพวกนี้สามารถหาเงินได้ชั่วโมงละเป็นแสนเป็นล้าน มีธุรกิจมากมายทั้งสีขาวและสีเทา โลกใบนี้ยังมีอีกหลายด้านที่เธอไม่เคยเห็น” เมกะตอบทุกอย่างที่หญิงสาวถาม แม้แต่กลุ่มลูกค้าที่มาเล่นก็เปิดเผยแล้วว่าคือคนไทยที่รวยระดับต้น ๆ ของประเทศ ไม่ใช่ต่างชาติอย่างที่เธอเข้าใจ ถึงจะมีต่างชาติบ้างแต่ก็ไม่ทั้งหมด “เศรษฐีเมืองไทยสินะคะ” “ใช่ พวกเศรษฐีเมืองไทย รวยจนไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไร เลยต้องเอามาละลายกับบ่อนฉันนี่ไง” “คุณเลยรวยเอารวยเอา อย่างนั้นสินะคะ” “ฉันสนองความสนุกของพวกเขา พวกเขาก็ต้องจ่ายเงินแลก” “แต่มันผิดกฎหมายนะคะ” “ฉันไม่ได้เปิดให้คนทั่วไปเล่น ลูกค้าที่จะเข้ามาเล่นที่นี่ต้องมีรายได้เดือนละหลายสิบล้าน ถึงพวกเขาจะไม่มาเล่นที่นี่พวกเขาก็บินไปเล่นที่ฮ่องกง หรือไปเล่นบ่อนเถื่อนแถวปอยเปตเหมือนเดิม ฉันช่วยให้พวกเขาไม่ต้องเดินทางไกล” เสียงเรียบตอบกลับ ฟังดูสมเหตุสมผลแต่พอได้ยินประโยคสุดท้ายถึงกลับต้องเบะปากกลอกตามองบนอย่างหมั่นไส้ “มีอะไรอยากดูอีกไหม จำได้หมดแล้วใช่ไหมว่าอะไรอยู่ตรงไหน” คิ้วเรียวได้รูปขมวดเข้าหากันแหงนขึ้นมองหน้าเจ้าของคำถาม เจอกับสายตาคมมองมาอย่างจับผิด “ค่ะ” ตอบกลับแค่นั้นต้องรีบหลบสายตาเบือนหน้าหนีไปทางอื่น แต่ในใจก็ยังคิดอยู่ตลอดว่ามาเฟียต้องการที่จะทำอะไรกับเธอ “งั้นก็กลับขึ้นข้างบน” ทั้งสามเดินตามกำลังกันขึ้นมาจากชั้นใต้ดิน แต่อิงฟ้าขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ภัทรจึงเดินกลับเข้าห้องไปกับเจ้านายเพียงแค่สองคน เมื่ออยู่ในห้องกันแค่สองคนภัทรไม่รอช้าที่จะเอ่ยถามคนเป็นนายกับเหตุการณ์วันนี้ “ทำไมนายถึงพาอิงฟ้าลงไปข้างล่างด้วยครับ มันดูเสี่ยงไปหน่อยนะครับ” ถึงคนเป็นนายจะสนิทกับหญิงสาวมากแค่ไหนแต่ก็ไม่ควรไว้ใจใครในสถานการณ์ที่การเมืองเปลี่ยนขั้ว เพราะนั่นหมายถึงเป็นงานยากที่จะจัดการปัญหาทุกอย่างให้เรียบร้อย “อิงฟ้าก็แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง มึงเป็นคนบอกกูแบบนั้นไม่ใช่หรือไง” “แต่เราก็ไม่ควรไว้ใจใครตอนนี้ไม่ใช่เหรอครับ แม้แต่ผู้หญิงธรรมดาอย่างอิงฟ้า” “มึงกำลังสงสัยเธอ มีอะไรที่กูไม่รู้” “ไม่มีครับ” ก่อนหน้านั้น ‘ฉันกำลังพยายามหาข้อมูลให้อยู่ แต่ชั้นใต้ดินมีการ์ดยืนดูแลรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง และไม่อนุญาตให้พนักงานทั่วไป เข้าไปบริเวณนั้นด้วย คุณไม่ต้องโทรมาหาฉันอีกนะ ถ้าได้เรื่องยังไงฉันจะเป็นฝ่ายโทรไปเอง แค่นี้นะคะฉันต้องรีบวางสายแล้ว’ เสียงเล็ดลอดมาจากทางหนีไฟ เท้ายาวหยุดชะงักขยับเข้าไปใกล้ประตูมากขึ้นเงี่ยหูฟังจนแน่ใจ แล้วสาวเท้าเดินออกจากตรงนั้นทันที “อิงฟ้ามาหาฉันหน่อย” เสียงเรียบเอ่ยเรียกเมื่ออิงฟ้าเดินกลับเข้ามาในห้อง ใบหน้าสวยฉายแววกังวลอย่างเห็นได้ชัด ภัทรที่คอยจับตามองหญิงสาวอยู่ตลอดเวลายิ่งรับรู้ถึงความผิดปกติบางอย่าง “คะ” ร่างบางเดินไปหยุดตรงข้ามชายหนุ่ม “มานี่” ใบหน้าคมพยักหน้าเรียกให้เดินเข้ามาหาตนท่ามกลางสายตาของภัทรที่มองอยู่ตลอดเวลา “ดูรายการของใช้จำเป็นสำหรับเด็กแรกเกิดถึง 12 ปีว่ามีอันไหนที่ยังขาดอยู่ แล้วก็ดูพวกของเล่นเสริมพัฒนาการด้วยว่าอันไหนเหมาะสำหรับเด็กแล้วใสรายการเพิ่มเข้าไปจะได้รีบให้ภัทรไปจัดการซื้อมาให้ครบ สุดสัปดาห์นี่จะได้ทยอยส่งไปที่บ้านเด็กกำพร้า” ฝ่ามือหนาดึงร่างบางให้นั่งลงตรงพนักเก้าอี้สำหรับวางแขน นิ้วเรียวยาวชี้ไปที่รายการของใช้สำหรับเด็กมากกว่า 20 รายการพร้อมรายละเอียดบนหน้าจอแล็ปท็อป “คุณจะส่งของพวกนี้ไปบริจาคเหรอคะ” “อืม..รายการพวกนี้คือของที่ต้องซื้อทุกเดือน แต่ฉันคิดว่าอาจจะมีของจำเป็นบางอย่างที่อาจจะตกหล่นไป แล้วก็ของเล่นเสริมพัฒนาการสำหรับเด็กด้วยฉันคิดว่ามันจำเป็น” เป็นอีกด้านของมาเฟียหนุ่มที่อิงฟ้าได้เห็น “นายครับนมสำหรับเด็กในสต๊อกไม่เพียงพอเพราะมีปัญหาเรื่องการขนส่ง ทางนั้นแจ้งว่ารถเสียระหว่างนำของขึ้นไปส่งครับ ทางร้านแจ้งว่าอาจจะส่งของล่าช้าประมาณ 3 วัน ผมเช็กไปที่มูลนิธิ A แล้วครับ นมที่มีอยู่ตอนนี้น่าจะเพียงพอสำหรับแค่ 2 วัน แต่ถ้าลดปริมาณชงต่อคนลงน่าจะเพียงพอสำหรับ 3 วันครับ” ภัทรรายงานคนเป็นนายเมื่อได้รับอีเมลตอบกลับจากมูลนิธิต่าง ๆ มากกว่า 20 แห่งที่เมกะดูแลอยู่ “เรื่องแค่นี้แก้ปัญหาไม่ได้หรือไง หรือมึงต้องรอให้เด็กกินน้ำเปล่าแทนนมไปก่อน” “ผมจะให้คนของเราเอารถไปเปลี่ยนแล้วจะนำของขึ้นไปส่งที่มูลนิธิภายในคืนนี้ครับ” “ผู้ใหญ่สามารถอดได้ แต่เด็กไม่ควรอดแม้แต่มื้อเดียว” ความอบอุ่นอีกด้านที่อิงฟ้าไม่เคยเห็น จนเธอแทบมองข้ามสิ่งผิดกฎหมายที่มาเฟียหนุ่มทำทั้งหมด “คุณทำแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วคะ” “ตั้งแต่ฉันมีเงินเป็นของตัวเอง” คำตอบของชายหนุ่มยิ่งทำให้อิงฟ้าหลงรักเขามากขึ้น ผู้ชายคนนี้มีหลายอย่างที่ทำให้เธอหลงรัก ไม่เพียงแต่หน้าตาที่หล่อเหลาไร้ที่ติ แต่สิ่งที่เขากำลังแสดงให้เธอเห็นคือเขามีจิตใจดีคอยช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ด้อยโอกาสให้มีข้าวกิน มีที่ซุกหัวนอน ไม่ต้องออกไปเร่ร่อนเป็นภัยสังคมอยู่ข้างนอก “ขอบคุณนะคะ ขอบคุณแทนเด็กพวกนั้น” “ของเล่นอันนี้ฉันว่าดีนะ ลูกจะชอบหรือเปล่า เธอคิดว่ายังไง” อิงฟ้าถึงกลับหน้าแดงที่ได้ยินคำถามแบบนั้น “คะ” “ฉันถามว่าเด็ก ๆ จะชอบหรือเปล่า” “น่าจะชอบค่ะ เด็กทุกคนก็ชอบของเล่นกันทั้งนั้น” ใบหน้าง้ำงอจนเมกะถึงกลับหลุดยิ้มที่แกล้งอีกฝ่ายสำเร็จ “แล้วลูกเธอล่ะ เขาจะชอบของเล่นพวกนี้ไหม” เมกะยังยั่วโมโหหญิงสาวไม่หยุด “ฟ้ายังไม่มีลูกค่ะ ฟ้าเลยไม่สามารถตอบคุณได้” เสียงแข็งตอบกลับแสดงออกชัดเจนว่าเธอเริ่มไม่พอใจหัวข้อการสนทนานี้อีกต่อไป “แล้วอยากมีไหมล่ะ” “ฟ้ายังหาพ่อของลูกไม่เจอเลยค่ะ ไม่รู้ว่าเขามาเกิดยังหรือตายไปแล้ว” อิงฟ้าตอบประชดประชันกลับ ภัทรถึงกลับหลุดขำออกมา “หึ หึ” “ตาเธอคงปัญหาที่มองอะไรไม่ออกสักอย่าง”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD