พ่อ/ลูก ผู้ไม่เคยลงรอยกัน

2226 Words
********************************************************************************* กริ๊งงงงง กริ๊งงงงงงง เสียงโทรศัพท์บ้านดังก้องไปทั่วโถงทางเดินบ้าน สวัสดีครับ'' เสียงเด็กชายผู้ที่เดินมารับสายเอ่ยขึ้น ''เอ่ออ ครับ ขอสายน้องครุฑครับ'' ''พูดอยู่ห๊ะ'' ''คือผมเป็นเพื่อนคริส พอดีว่าเขาออกเกมไม่ได้ ไม่ทราบว่าตอนนี้ที่เครื่่อง VR มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ'' ชายหนุ่มปลายสายเอ่ยถาม เด็กชายเงียบไปสักพัก เหมือนกำลังปะติดปะต่อ ''เอ่ออ ผมไม่เข้าใจครับ ตอนนี้พี่ผมไม่ได้เล่นเกมอยู่นะครับ พี่เขาไม่สบ....'' ขณะที่เด็กชายกำลังอธิบายกับปลายสายอยู่นั้น เสียงประตูบ้านก็ถูกเปิดออก เด็กชายตกใจสะดุ้งโหยงจึงเผลอวางสายไป ผู้เป็นพ่อกลับเข้าบ้านมาด้วยความเหน็ดเหนื่อย พ่อเอามือมาขยี้หัวลูกชายไม่ได้พูดอะไร แล้วเดินผ่านเขาเพื่อขึ้นไปดูลูกสาวบนห้อง ''นี่มันอะไรกันเนี้ย เอาไอเครื่องบ้านี่มาสวมให้ลูกผมทำไม'' พ่อโวยวายเสียงดังใส่พยาบาลแต่ยังไม่ทันที่นางพยาบาลจะโต้ตอบ ครุฑที่เดินตามหลังก็พูดแทรกขึ้นมา ''ผมเป็นคนใส่ให้เอง'' ''แกเลิกรบกวนพี่เขาแล้วไปทำการบ้านสักที พรุ่งนี้ต้องไปเรียนนะ พรุ่งนี้เพื่อนของพี่เขาจะมาเยี่ยมด้วย ทำตัวให้มันดีๆ หน่อย'' พูดเป็นพ่อบ่นลูกชายด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยอารมณ์ ก่อนที่จะพยายามจะถอด VR ออกจากหัวลูกสาว แต่ครุฑก็เอามือน้อยๆ มาจับแขนพ่อไว้เพื่อให้ให้ขยับไปมากกว่านี้ ''พ่อไม่เข้าใจ พี่เขาชอบเล่นเกม เพราะพ่อไม่เคยรู้เลย'' เด็กชายตะโกนใส่ผู้เป็นพ่อด้วยอารมณ์เช่นกัน ''ตอนนี้พ่อก็ยังจะมาพรากสิ่งที่พี่ชอบไปอีก บางทีพี่เขาอาจจะแค่ขยับตัวไม่ได้ แต่ยังรับรู้ ยังได้ยิน ผมไม่อยากให้พี่เขาต้องเหงา พ่อหัดเข้าใจบ้างสิ!'' ''แล้วมันไม่ใช่เพราะไอเครื่องบ้านี่หรือไงที่ทำให้พี่เขาเป็นแบบนี้หน่ะหะ'' พูดเป็นพ่อตะคอกลูกชายเพื่อให้เขาเลิกขัดชืนสักที ''พ่อแค่พาลเกม แต่พ่อรู้อยู่แค่ใจ ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะผม'' เด็กชายก้มหน้าเถียงเสียงพ่อแข็ง แต่ก็ไม่ยอมปล่อยมือจากแขนพ่อ เขากลับบีบแน่นกว่าเดิม ผู้เป็นพ่อหลังได้ยินก็ถึงกับส่ายหัวหน่ายๆ แล้วลดมือลง ''งั้นก็ตามใจแก'' แล้วเขาก็เดินออกจากห้องด้วยความหงุดหงิด ส่วนเด็กชายได้แต่ก้มหน้ายืนนิ่งๆ อยู่ข้างเตียงพี่สาวแบบนั้นไม่ได้ขยับไปไหน *********************************************************************** ''เป็นไงบ้างคุณเหล็ก'' คริสถามด้วยความร้อนใจ ''เธอแน่ใจนะว่าให้เบอร์มาถูก'' ''แน่สิ ทำไมเหรอ'' ''มีเสียงเด็กผู้ชายรับ แล้วบอกว่าเธอไม่ได้เล่นเกมอยู่ แล้วก็ตัดสายไป'' คริสในร่างหญิงเอามือลูบคางราวกับพยายามปะติดปะต่อ จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่านะกับโลกข้างนอกนั่น ปกติเวลาฉันเล่นเกมครุฑมักจะมาดูฉันเล่นเสมอเลยนิ แต่ทำไมตอนนี้ถึงได้... ''เดี๋ยวฉันลองโทรหาศูนย์VR ให้เขาไปเช็คที่บ้านเธอเลยดีไหม'' เหล็กยื่นข้อเสนอ เขาสังเกตุเห็นความกังวลที่แสดงผ่านใบหน้าและท่าทีของเธออย่างชัดเจน ''เฮ้ยย ไม่เป็นไร ไว้ก่อนละกัน เล่นกันสักพักก่อน ถ้าไม่หายค่อยว่าลองดู นี่กี่โมงแล้วนายรู้บ้างไหม'' ''น่าจะ 3ทุ่มนะ '' ''โอเคงั้นเราเล่นกันก่อนดีกว่า ถ้าฉันพานายไปเมืองลับแล นายช่วยโทรหาอีกเบอร์นึงให้ฉันได้ไหม'' คริสรู้สึกเกรงใจเขาอย่างบอกไม่ถูก ไม่อยากรบกวนชายเบื้องหน้าไปมากกว่านี้ และไม่อยากทำให้มันกลายเป็นเรื่องราวใหญ่ต่อด้วย ''ฉันโทรให้เลยก็ได้นะ'' ''ไม่เป็นไร ฉันเกรงใจ ขอบใจมากเลย เรามาเล่นก่อนดีกว่า อีกอย่างยังไม่ดึกมากด้วย บางทีระบบอาจจะรวนอย่างที่นายบอกก็ได้เพราะ VR ของฉันก็รุ่นเก่า เล่นไปสักพักก็คงหาย'' คริสพูดแล้วผายมือออกด้วยทีท่าสบายใจ เพราะไม่อยากให้เขามากังวลเรื่องของเธอมากเกินไป เดียวจะเล่นเกมไม่สนุกเอาสะเปล่าๆ ต้องเรียกตความตื่นเต้นกลับมาให้ได้ ''ปะ ผจญภัยเมืองลับแลกัน'' แล้วคริสก็ทำท่าชูมือขึ้นด้วยความเริงร่าหวังกรบความกังวลที่เด็กชายมีต่อเธอ แล้วเดินไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจ เหล็กคว้าแขนคริสเพื่อเบรกไม่ให้คริสเดินมั่วไปไกลกว่านี้ ''จะเดินไปไหนของเธอ ในเมื่อเรามีช้าง'' พูดจบเขาก็พาเธอขึ้นหลังช้าง โดยที่เขาขึ้นไปก่อนแล้วยื่นลงมาเพื่อฉุดคริสขึ้นมาด้วยกัน เธอใช้สองมือจับแขนเขาแล้วเขย่งตัวกระโดดขึ้นอย่างง่ายดายราวกับเกมได้กำหนดไว้แล้วว่าถ้าตี้กันสามารถขึ้นหลังช้างของกันได้ สังคัปไม้ก็กว้างเกินกว่าจะใช้นั่งคนเดียวด้วย เธอจึงหย่อนก้นนั่งลงข้างเขา ให้เดาว่าช้างตัวนี้คงเป็นสกิลของตัวละครอัศวินแน่ๆ ''ว่าแต่เมืองลับแลนี่เราต้องไปหาอะไรนะ ทองคำเพื่อมาทำชุดกับอาวุทใช่ปะ'' คริสถามเหล็ก ขณะที่ตัวละครเอียงตามจังหวะการเดินของช้างไปด้วย แปลกที่เธอรู้สึกได้ถึงการเอียงไปเอียงมาจนต้องใช้มือหาอะไรจับ เกิดมาพึ่งเคยขี่ช้างเป็นครั้งแรก มันช่างเป็นการเดินทางที่น่าตื่นเต้นจริงๆ ''ใช่ๆ ฉันคิดว่าเป็นแมพแรกที่เราควรไปสำรวจก่อนจะดีที่สุดเพราะน่าจะไม่ค่อยมีมอสเตอร์โหดๆ แต่เน้น puzzle'' เหล็กตอบเธอ คริสสังเกตุว่าเขาดูจดจ่อกับการพยายามควบคุมช้างมากๆ ''ทำไมนายรู้เยอะจัง'' ''ฉันหาข้อมูลก่อนเล่นหน่ะ'' ''ขนาดนั้นเลยอ้อ นายนี่ดูตั้งใจเล่นจังเลยน้าา นอกจอตั้งใจเรียนงี้ด้วยป่าว'' คริสพูดแซวเขา ''แน่นอน เห็นงี้ผมก็เรียนเก่งนะ'' เหล็กหันมาตอบขิงคริสอย่างมั่นใจ ทำให้คริสแอบหมั่นไส้เล็กน้อย ''เอ้ออ ถ้าฉันจำไม่ผิด เมืองลับแลนี่เป็นตำนานตั้งแต่สมัยอยุธยาเลยนะ ตามตำนานทางเข้าถูกซ่อนอยู่ นายรู้วิธีเข้าไปเหรอ'' คริสเปลี่ยนเรื่องทันทีเพราะเธอเรียนแย่มาก ถ้าขืนพูดไปมากกว่านี้เขาจะดูออกว่าเธอไม่มีความรู้อะไรเลยในหัวนอกจากเกม ''ไม่ ฉันไม่รู้ แต่ฉันได้รับคำใบ้มาจาก NPC คนนึงจากตลาดในเมืองหน่ะ'' ''เยี่ยมเลยยยย แล้วคำใบ้ว่าไง'' ''มีข่าวลือว่ามักเจอชายประหลาดนุ่งจงกระเบน คาดผ้าขาวม้าสีแดงไว้ที่เอวมาตามหาของใช้บางอย่างในครัวอยู่บ่อยครั้งแต่ไม่มีเงิน แล้วมักเสมออย่างอื่นแทนเพื่อแลกเปลี่ยน'' แล้วทั้งคู่ก็มาถึงที่ๆ คริสคาดว่าเป็นเขตเมือง เพราะเบื้องหน้ามีกำแพงก่ออิฐสูงตระหง่าสีน้ำตาลอ่อนล้อมไว้ไม่ให้คนนอกเห็นด้านในเมืองได้เลย และดูเหมือนทางเข้าเดียวจะเป็นประตูเมืองสีดำมีลวดลายสีทองสวยงามวิจิตรประดับประดาตามขอบเหลี่ยมประตูไว้ เป็นประตูที่ดูใหญ่และแข็งแรง สูงพอๆ กับกำแพงเมือง ทั้งดูสวยและน่าเกรงขามในเวลาเดียวกัน เมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆ ประตูทำให้ได้รู้แม้ขี่ช้างก็สูงไม่ถึงครึ่งของประตูบานนี้เลยด้วยซ้ำ ทั้งสองพบกับ NCP สวมชุดทหารย้อนยุควิ่งมาดันประตูเปิดให้อัตโนมัติ เมื่อได้เห็นข้างในเมืองคริสก็ถึงกับอ้าปากค้างไปเลย เธอพบกับยอดเจดีย์สีทองตั้งสูงตระหง่าโดดเด่นมากยามสะท้อนแสงอาทิตย์อ่อนๆ ที่สะท้อนแสงเปร่งประกายราวกับเพรชน้ำงามที่ระยิบระยับยามต้องแสง แต่เมื่อมองลงมาก็พบว่าสิ่งก่อสร้างนี้ได้โผล่พ้นจากพื้นที่ด้านล่างที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย เพราะถูกตลาดรายล้อมไปทั่ว และผู้คนที่พลุกพล่าน จนไม่เห็นส่วนล่างของเจดีย์เลยแม้แต่นิดเดียว ก่อนจะถึงตัวตลาด ทั้งสองต้องเดินบนสะพานข้ามคลองที่โค้งขึ้นเล็กน้อย แต่กว้างมาก กว้างพอให้ช้างที่เหล็กและฉันขี่อยู่เดินเข้ามาได้อย่างสบายๆ เดินไปได้สักพักถึงเห็นว่าสะพานนี้ทอดยาวไปจนถึงอีกด้านของฝั่งที่เป็นตลาดบก พื้นที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยแม่น้ำที่ใสสะอาดที่ถูกขุดไว้รอบตลาด ตัดขาดจากฝั่งอย่างสิ้นเชิง มีกอดอกบัวสีชมพูลอยอยู่เต็มไปหมด และพืชแปลกตามากมาย แล้วในแม่น้ำก็จะเป็นตลาดน้ำ มีเรือสินค้ามาจอดเทียบท่าตรงจุดที่เหมือนเป็นสะพานไม้เล็กๆ ดูไม่แข็งแรงมากนัก ทอดลงมาจากริมตลิ่งสู่แม่น้ำ เป็นจุดเดียวที่เชื่อมให้ผู้คนได้สันจรไปมาระหว่างคนบนฝั่งและคนบนเรือ และมีเรืออีกหลายลำไม่อยู่ใกล้จุดเทียบท่าจึงเบียดเสียดกันแน่นติดกันไปเรื่อยๆจนกินพื้นที่ไปเกือบจะถึงกลางแม่น้ำ เรือแต่ละลำก็จะขายพวกผลไม้ ขนม และอาหารมากมายที่ฉันไม่รู้จัก แต่สีสันสวงามน่าทานมาก คริสได้เห็น NCP มีบางคนเดินข้ามกาบเรืออีกลำเพื่อไปดูสินค้าจากอีกลำ มีพ่อค้าจากเรือสินค้าบางลำได้ยื่นกล้วยหนึ่งหวีส่งต่อกันมาเรื่อยๆ จนมาถึงมือคนบนบก แล้วยังมีท่าน้ำเล็กๆ ที่อยู่ไม่สูงจากผิวน้ำมากนัก แต่กว้างพอสมควร จะมี NPC แม่ค้านั่งขายดอกไม้สดอยู่ ''ลงกันเถอะ ช้างใหญ่เกินไปที่จะใช้เดินในเมือง'' เหล็กลงมาก่อนเธอ คริสกำลังจะกระโดดลงเหมือนกัน แต่ฝั่งที่เธอจะลงมันติดกับริมสะพานมากไป ไม่มีพื้นที่ไว้ให้เธอยืนเลย มีหลังได้ลงคลองแหงๆ จึงต้องลงฝั่งเดียวกับเหล็ก จังหวะที่ลงจากช้าง คริสก้าวพลาดทำให้เสียการทรงตัว จึงเซแล้วหลังไปชนกับอัศวินเหล็กเข้าอย่างจัง เขาเอาแขนทั้งสองโอบตัวรับเธอไว้ ดีที่เขายันขาไว้ได้ไม่งั้นมีหวังล้มทั้งคู่แน่ ''ขอโทษที ฉันไม่ค่อยถนัดควบคุมการกระโดดในเกมเท่าไหร่'' หลังพูดเสร้จก็รีบจ้ำอ้าวเข้าไปในตลาดทันที เพราะกลัวเขาเห็นอาการอายของเธอ คริสสังเกตุว่าผู้คนรอบข้างมองเธอแปลกๆ แต่แล้วเธอก็นึกขึ้นได้ว่า เธอสวมบทบาทเป็นหมอผีนักคุณไสยอยู่นี่เนอะ ก็ไม่แปลกที่จะเป็นที่น่าหวั่งเกรงของผู้คนรอบข้าง กลับกัน เมื่อผู้คนมองไปที่เหล็ก กลับยิ้มทักทาย โบกมือ NPC บางคนยื่นผลไม้เพิ่มหลอดเลือดให้ฟรี นี่มันสังคมสองมารตฐานชัดๆ เหมือนเป็นเรื่องตลกที่เกมทั้งใจทำให้เห็นข้อแตกต่างที่สังคมปฎิบัติต่อคนดี และคนไม่ดี คริสกวาดตามองไปรอบๆ เธอสังเกตุว่าร้านละแวกนี้เต็มไปด้วยผลไม้ ของสด และขนมทั้งนั้น เธอจึงคิดถึงคำใบ้อีกครั้ง ''ชายแปลกหน้าตามหาของใช้ในครัว'' คริสพึมพำเบาๆ ''ใช่แล้ว เธอคิดอะไรออกงั้นเหรอ'' คริสที่หันไปตามเสียงก็ถึงกับต้องสะดุ้งอีกครั้ง เพราะจู่ๆ เหล็กยื่นหน้าเข้ามาหาเธอจากทางด้านหลัง โผล่มาที่ข้างหูของเธอ ทำเอาคริสรู้สึกถึงใบหน้าที่ร้อนผ่าวของตัวเองอีกครั้ง เพราะหน้าเธอใกล้เขาจนปากเกือบจะโดนแก้มเขาแล้ว ''คะ คะ คือว่าฉันคิดว่าเราน่าจะต้องไปส่วนอื่นของตลาด เช่นพวกที่ขายถ้วยชาม อุปกรณ์ทำครัวอะไรแบบเนี้ยเผื่อจะเจอเป้าหมาย'' คริสพูดแล้วหันหน้าหนีไปอีกด้านนึง ''ครั้งหน้าพูดดังกว่านี้หน่อยนะ ตลาดเสียงดังมาก ฉันแทบไม่ได้ยินเสียงเธอแล้ว'' เหล็กบอกก่อนจะจับแขนเธอให้มาใกล้ๆเขา ''แล้วก็อย่ารีบเดินด้วย คนเยอะเดียวพลัดหลงกันพอดี'' คริสพนักหน้าตอบรับก่อนจะชน NPC ผู้หญิงคนนึงแล้วโดนเธอหันมามองค้อนใส่สบถใส่ด้วยถ้อยคำที่เธอฟังไม่ออก จะสมจริงเกินไปแล้วนะ นี่ถ้าไม่ติดว่ามากับผู้ชาย เธอคงหันไปโจมตี NCP ตนนั้นไปแล้ว ไม่สนด้วยซ้ำว่าจะโดนหมายจับ หรือถูกทหารในเมืองล่าหรือเปล่าถ้าเข้าเมืองมาสร้างความเดือดร้อน ''เจอแล้ว ทางนั้นไง โซนขายถ้วยชาม'' เหล็กพูดจับมือคริสให้เกาะเขาไว้ที่แขนไม่ให้พลัดหลงกัน จากนั้นเขาก็ยื่นคอมองผ่าผู้คนอีกรอบเพื่อความแน่ใจ เพราะด้วยความสูงของตัวละคร ทำให้เขามองเห็นทัศนวิสัย ดีกว่าคริสแน่นอน คริสเกาะแขนเขาผ่าดงนักช้อปสมัยอยุธยาไปยังจุดดังกล่าวแล้วพยายามทำตัวให้เล็กที่สุด เพราะกลัวถูก NPC ด่า

Great novels start here

Download by scanning the QR code to get countless free stories and daily updated books

Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD