บทที่ 3.2 – ตักเตือนสวาท (หลงใหลตั้งแต่แรกพบ)

1215 Words
“แค่สั่งสอนเท่านั้น” อีกครั้งที่เขาย้ำประโยคเดิม พิมพ์ชนกส่ายหน้าทั้งน้ำตา ไม่ใช่แค่สั่งสอน เขาปลดกระดุมออกหมดแล้ว แหวกสาปเสื้อออกทั้งสองด้าน เนื้อขาวนวลผุดผ่องปรากฏแก่สายตา บราเซียสีชมพูลายลูกไม้ทำให้ลมหายใจของอีกฝ่ายติดขัด จมูกโด่งสูดดมกลิ่นสาบสาว ดวงตาคมคายหลับพริ้ม ริมฝีปากพรมจูบเนินอกอิ่ม แม้สัมผัสเพียงเล็กน้อยแต่มันก็ทำให้ร่างบางสติแตก ลูเซียโน่ช้อนสายตาขึ้นมองแม่กวางน้อย หล่อนเบนหน้าหนีหลับตาปี๋ ลมหายใจสั่นสะท้านส่งผลให้ทรวงอกขึ้นลงตามจังหวะ ยิ่งเสริมให้ความงามแห่งธรรมชาติเร่าร้อนในสายตาราชสีห์ “ได้โปรด… อย่าทำแบบนี้เลยนะคะ” พิมพ์ชนกร้องบอกอีกครั้ง ลูเซียโน่ย้ายริมฝีปากสัมผัสข้างซ้ายบ้าง เจ้าหล่อนกลมกลึงน่าไล้เลียเหลือเกิน แต่เขายังทำเช่นนั้นไม่ได้ เขาสัญญากับเธอแล้ว แม้ต่อให้ทำได้เขาก็ไม่คิดผิดคำพูดกับผู้หญิงที่ปรารถนาทั้งตัวและหัวใจเช่นเธอคนนี้ “เงียบซะ” เขาหยัดกายลุกนั่ง พิมพ์ชนกรีบคว้าผ้านวมผืนใหญ่มาคลุมตัว หญิงสาวเขยิบกายถอยห่างซาตานร้าย กอดเข่าสะอื้นไห้พิงหัวเตียง ลูเซียโน่ถอนหายใจพลางส่ายหน้า “น้ำตาไม่ได้ช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นหรอกนะ เธอโตพอที่จะรู้ว่าโลกใบนี้ไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิด” พิมพ์ชนกเม้มปากสนิทเป็นเส้นตรง คนไร้ศีลธรรมอย่างเขามีสิทธิ์อะไรมาสั่งสอนเธอ “อายุเธอก็บรรลุนิติภาวะแล้ว อย่าเอาแต่ร้องไห้เป็นเด็ก ๆ” “แต่ยังไงฉันก็เด็กกว่าคุณ” แม้ใบหน้าของเขาจะหล่อเหลาคมคาย แต่มองปราดเดียวก็รู้ว่าผู้ชายคนนี้เข้าขั้นเป็นหนุ่มใหญ่เต็มตัว เพราะแบบนี้ไงหล่อนถึงหวาดกลัว รู้สึกเหมือนตนถูกซื้อตัวมาเพื่อบำเรอผู้ชายแก่ตัณหากลับก็ไม่ปาน “ใช่… เธอเด็กกว่าฉันหลายปีเชียวล่ะ” ร่างน้อยอ้อนแอ้นมองเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ ยิ่งมองยิ่งหลงใหล ยิ่งรู้สึกอยากครอบครอง หล่อนไม่เคยรู้เลยว่าตกเป็นเป้าสายตาของเขามานานกว่าสามปีเต็ม สามปีที่เฝ้ามอง เฝ้ารักแต่เธอเพียงผู้เดียว… 3 สามปีก่อนหน้านี้ “นายครับ คนของเรารายงานมาว่าเกิดเหตุทะเลาะวิวาทที่กาสิโน และคาดว่าน่าจะเป็นพวกคู่แข่งที่ต้องการมาทำลายภาพลักษณ์ของเรา” เจมส์บอกกับเจ้านายหนุ่ม สันกรามแกร่งบดเข้าหากันแน่น สองมือกำหมัดจนเส้นเลือดปูดขึ้นเรียงราย “จัดการขั้นเด็ดขาด แล้วส่งคำเตือนไปที่หัวหน้าของพวกมัน ถ้าไม่ยอมเลิกราเดี๋ยวฉันลงมือเอง!” น้ำเสียงโหดเหี้ยมสั่งการ คำว่า จัดการขั้นเด็ดขาด เป็นที่ทราบโดยทั่วกันว่าความรุนแรงจะอยู่ในระดับใด ซึ่งแน่นอนว่าครั้งนี้พวกเขามีงานต้องทำหลายกระบวนการทีเดียว เพื่อไม่ให้กลิ่นคาวเลือดสาวถึงตัวนายใหญ่ “ครับนาย” รถลีมูซีนคันหรูโลดแล่นไปตามท้องถนนในระดับความเร็วตามมาตรฐาน สายตาของผู้ครองอณาจักรพันล้านมองข้างทางตลอดเวลา เขาชอบดูวิถีชีวิตของคนเมือง พวกเขาต่างต่อสู้กัดฟันและดิ้นรนเพื่อให้ตัวเองและครอบครัวมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ได้มองก็ชวนให้คิดถึงสมัยก่อนตอนที่เขามีแต่ตัว ลูเซียโน่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อผลักดันตัวเองให้มีทุกวันนี้ เงินทองและความสำเร็จแลกมาด้วยหยาดเหงื่อ เขาลงทุนกับกาสิโนมากเหลือเกิน ฝ่าฟันยืนหยัดมาได้อย่างถูกกฎหมาย ไม่เพียงแต่ต่อสู้กับพวกนักธุรกิจรายอื่นที่มั่งคั่งมาตั้งแต่ชาติกำเนิดเท่านั้น หากพวกเงามืดที่จ้องทำลายก็มากโข เพราะฉะนั้นแค่ความเก่งทางสมองอย่างเดียวไม่เพียงพอ จิตใจต้องเด็ดเดี่ยวและแข็งดุจหินผาเช่นกัน สองมือของเขาแปดเปื้อนมานักต่อนัก แม้ไม่ได้ทำเพราะความคึกคะนองแต่ก็ถือว่าจุดที่ยืนอยู่สูงชันเกินกว่าจะถอยหลังกลับ ระหว่างที่รถติดไฟแดงอยู่นั้น ลูเซียโน่กลับเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างเข้าอย่างจัง เด็กสาวหน้าตาน่ารักในชุดนักเรียนมอปลายถักเปียสองข้างกำลังยืนแจกใบปลิวด้วยรอยยิ้มสดใส ผิวกายขาวเนียนละเอียดชวนมอง ดวงตากลมโตเป็นมิตร เธอพูดคุยยิ้มแย้มเป็นกันเองกับผู้คนที่เดินขวักไขว่ไปมา “เจมส์” “ครับนาย” “ตีขวาแล้วจอดเทียบริมฟุตบาทให้ฉันที” เขากล่าวโดยไม่ละสายตาออกห่างจากสาวน้อยน่ารัก เจมส์งุนงงแต่ก็ไม่กล้าถามอะไร นอกจากทำตามคำสั่งของนาย รถลีมูซีนจอดใกล้ในระดับที่เขามองเห็นใบหน้าสวยหวานชัดเจน ไม่น่าเชื่อว่ายังเป็นนักเรียนอยู่ รูปร่างหน้าตาหากจับมาแต่งกายหรูหราก็คงไม่ต่างอะไรกับสตรีสูงศักดิ์ในสังคมชั้นสูง รอยยิ้มที่ไม่เคยมีปรากฏขึ้นยามทอดมองสาวน้อยปริศนา หัวใจที่ด้านชาเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ เขายกมือกุมอกซ้ายแล้วพิจารณาความรู้สึกข้างใน นี่เขาเป็นอะไรไป เพียงเสี้ยววินาทีก็หลงใหลสาวน้อยหน้าหวานถึงเพียงนี้เชียวหรือ “เจมส์” “ครับนาย” “ถ่ายรูปเด็กผู้หญิงคนนั้นไว้” เขาชี้ไปทางสาวน้อย “แล้วไปสืบมาให้ทีว่าเธอเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ฉันต้องการรู้ข้อมูลให้เร็วที่สุด!” หลังจากวันนั้นลูเซียโน่ก็ได้รู้ประวัติของพิมพ์ชนกอย่างละเอียด… เด็กสาววัยเพียงสิบเจ็ดปีที่เขาหลงใหล เธอเป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่อายุเก้าขวบ เมื่อสิ้นบุญบิดา มารดาก็พาย้ายมาอยู่กับนงลักษณ์ผู้ซึ่งมีศักดิ์เป็นป้าแท้ ๆ ก่อนที่แม่จะหนีหายสาปสูญ นงลักษณ์ไม่ได้รักใคร่หลานสาวคนนี้ แต่ที่ยอมเลี้ยงไว้เพราะหวังใช้พิมพ์ชนกเป็นที่รองมือรองเท้าบุตรสาวทั้งสองเท่านั้น เธอต้องทำงานบ้านทุกอย่างตัวเป็นเกลียว หนำซ้ำยังต้องหางานพิเศษทำหลังเลิกเรียนอีกต่างหาก เงินที่ได้ก็ยกให้ป้าจนหมด ประวัติของเธอทำให้หัวใจแกร่งปวดหนึบอย่างไร้สาเหตุ ลูเซียโน่รู้สึกสงสารและเจ็บแค้นสามแม่ลูกนั่นแทนเธอ และจะถือว่าเป็นโชคดีของเขาก็ว่าได้ เมื่อนงลักษณ์หญิงวัยกลางคนติดเล่นการพนันเป็นที่สุด หล่อนเป็นลูกค้าของกาสิโนเขามานานหากลูเซียโน่ไม่เคยคิดใส่ใจ จนกระทั่งได้พบกับพิมพ์ชนก เขาจึงคอยสังเกตพฤติกรรมของนงลักษณ์เพื่อหาลู่ทางในการทำเรื่องบางอย่าง ระหว่างที่รอให้สาวใหญ่พลาดท่าเสียทีเป็นหนี้พนัน ชายหนุ่มก็หมั่นไปแอบดูพิมพ์ชนกตามสถานที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะหลังเลิกเรียน เขาคอยสอดส่องหาร่างบางที่เฝ้าคิดถึง เพียงได้เห็นหน้าหวานหัวใจที่เหนื่อยล้าก็สดชื่นราวกับได้รับน้ำทิพย์จากสวรรค์ มันพองโตจนต้องเผยรอยยิ้มออกมานับครั้งไม่ถ้วน ไม่เคยมีใครได้เห็นมุมอ่อนไหวของเขา ทุกครั้งที่เขามาแอบมองเธอ เขามักจะขับรถมาคนเดียวเสมอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD