พิมพ์ชนกลงมาจากห้องในชุดเดรสสีชมพูแสนหวาน แขนตุ๊กตายิ่งส่งให้ร่างบางดูสวยน่ารักดุจเจ้าหญิงองค์น้อย ๆ ที่กำลังหยอกเย้ากับดอกไม้งามในป่าใหญ่ แววตาชายหนุ่มพึงพอใจกับเรือนร่างอรชร ขนาดตัวหล่อนยังเดินมาไม่ถึงโต๊ะอาหาร กลิ่นกายหอมละมุนยังตลบอบอวลไปทั่วบริเวณ เสน่ห์เหลือร้ายที่พิมพ์ชนกมีมากมายนัก แทบไม่ต้องทำอะไรเขาก็พร้อมยอมสยบอยู่ภายใต้แทบเท้าหล่อน!
“นั่งลงสิ”
ลูเซียโน่ผายมือเชื้อเชิญ หญิงสาวกวาดมองไปรอบ ๆ กาย บรรดาสาวใช้และชายแต่งสูทชุดดำกำลังยืนตัวตรงเอามือไขว้หลังเต็มไปหมด
แค่ทานข้าวทำไมต้องคุมเข้มกันเพียงนี้
“พวกเขาทำตามหน้าที่ เธออย่าไปใส่ใจเลย” เขารู้เท่าทันความคิดของอีกฝ่าย บอกกล่าวเสียงนุ่มทุ้ม
“วันนี้มีแต่ของโปรดเธอทั้งนั้น ฉันสั่งให้แม่ครัวเตรียมไว้เพื่อเธอโดยเฉพาะ” ลูเซียโน่ภูมิใจนำเสนอ
พิมพ์ชนกมองอาหารมากมายบนโต๊ะ จริงอย่างที่เขาว่า แต่ละเมนูล้วนแล้วแต่เป็นอาหารที่เธอโปรดปรานทั้งสิ้น เขารู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไร บางเมนูคนในครอบครัวยังแทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอชอบ
แต่ทำไมเขารู้
“ทานสิ หรือกำลังอึ้งที่ฉันรู้ว่าเธอชอบกินหรือไม่ชอบกินอะไรอยู่” เขาดักคออย่างรู้ทัน
“ฉัน เอ่อ” สาวเจ้าไปไม่เป็น ดูเหมือนว่าเธอจะคิดสิ่งใดเขาก็ล่วงรู้ไปเสียหมด “ทานแล้วนะคะ” ร่างบางตัดสินใจหยุดความสงสัยทั้งมวลแล้วเริ่มลงมือรับประทานอาหารตรงหน้า แม้ไม่ชอบความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น หากความหิวโหยที่เผชิญมาตลอดทั้งวันก็ส่งผลให้เธอทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย
“เติมข้าวให้นายหญิง” ลูเซียโน่หันไปสั่งสาวใช้คนหนึ่ง
“แค่ก ๆ” พิมพ์ชนกสำลักน้ำทันใด
“เป็นอะไรไหม ค่อย ๆ นะ” เขารีบลุกไปหา ลูบแผ่นหลังเธอไปมาอย่างอ่อนโยน ภาพตรงหน้าส่งผลให้บรรดาลูกน้องมองหน้ากัน ไม่เคยเลยสักครั้งที่เจ้านายจะให้ความสำคัญกับสตรีใดมากเท่านี้มาก่อน
“เมื่อกี้คุณเรียกฉันว่าอะไรนะคะ?”
“นายหญิง ทำไมเหรอ”
“ฉันไม่ใช่…”
“ใชหรือไม่ใช่ฉันคือผู้กำหนด ไม่ใช่เธอพิมพ์ชนก!”
ลูเซียโน่ไม่พอใจเมื่อเห็นสีหน้าไม่ยอมรับของอีกฝ่าย เธอไม่รับความจริงอะไรสักอย่างตั้งแต่ก้าวเท้าเหยียบถิ่นของเขา
“พอแล้วค่ะ” เอ่ยบอกสาวใช้ที่ตักข้าวสวยร้อน ๆ ใส่จาน ความหิวพลันทลายหมดสิ้น ไม่กล้าสบมองผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะ
“ทำไมไม่กินต่อ?” คนพูดเหลือบตามอง เจ้าหล่อนเอาแต่นั่งเขี่ยอาหารไปมา
“อิ่มแล้วค่ะ”
“ของหวานต่อเลยไหม มีกระท้อนลอยแก้วนะ”
ของโปรดเธออีกแล้ว ทำไมเขาถึงรู้เรื่องของเธอมากมายเพียงนี้ หรือว่าป้าจะเป็นคนบอก ไม่สิ… คนอย่างป้าไม่เคยใส่ใจเธอ สำหรับบ้านหลังนั้น พิมพ์ชนกแทบไม่ต่างอะไรกับคนรับใช้ที่นงลักษณ์เลี้ยงไว้คอยรองมือรองเท้าบุตรสาวทั้งสองเท่านั้น
“ไม่ค่ะ อิ่มแล้ว”
ลูเซียโน่วางช้อนลงบนจานข้าวอย่างไว
“ฉันก็อิ่มแล้ว” เขาตอบพลางหยิบผ้าสีขาวผืนเล็ก ๆ เช็ดริมฝีปาก
“ไป” เขาเอ่ยกับเธอ พิมพ์ชนกไม่เข้าใจ
“ปะ ไปไหนคะ?”
“พาเธอไปนอนไง”
เขาพูดราวกับเป็นเรื่องปกติ ผิดกับสาวน้อยที่ใบหน้าแดงระเรื่อ มองบรรดาลูกน้องของเขาแล้วอายแทบแทรกแผ่นดินหนี
“แต่คุณบอกให้เวลาฉันหนึ่งอาทิตย์ นี่ยังไม่ทันข้ามวันเลยนะคะ”
ลูเซียโน่หัวเราะในลำคอ ยิ่งสร้างความแปลกใจให้กับทุกคนในบ้าน เพราะปกติเจ้านายของพวกเขาไม่เคยแม้แต่จะยิ้มแย้มเลยด้วยซ้ำ
“ฉันไม่ได้คิดทำมิดีมิร้ายเธอเสียหน่อย แค่จะส่งเธอเข้านอนเท่านั้น ทำไมถึงคิดไปไกลนักล่ะ”
พิมพ์ชนกไม่กล้าสบตาใครรีบเดินหนีขึ้นห้องอย่างเร็ว ลูเซียโน่มองตามหลังแล้วยิ้มกว้าง ช่างไม่รู้บ้างเลยว่าตนกำลังตกเป็นเป้าสายตาของบรรดาลูกน้องชายหญิง
“มองอะไรกัน!” เสียงเข้มกระด้าง ดูเหมือนลูเซียโน่คนเก่าจะกลับมาแล้ว รอยยิ้มและเสียงหัวเราะคงมีให้กับนายหญิงเพียงคนเดียวเท่านั้น
“เจมส์” ชายหนุ่มเรียกชื่อมือขวาคนสนิท
“ครับนาย” อีกฝ่ายขานรับด้วยท่าทีสุภาพและหนักแน่น
“เรื่องที่ให้ทำเรียบร้อยแล้วใช่ไหม?”
“เรียบร้อยครับ ผมจัดการทุกอย่างตามที่นายต้องการ”
ลูเซียโน่ยิ้มมุมปาก พึงพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ยิน
“ดี ฉันไม่ต้องการให้ใครมาขวางทางฉันทั้งนั้น!” แววตายามเอ่ยทอประกายวาวโรจน์
สองวันก่อนมีพวกไม่หวังดีลอบทำร้ายเขาขณะกำลังเดินทางไปร่วมงานเลี้ยงฉลองครบรอบสิบปีกาสิโนที่โรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่ง ระหว่างทางเจอกลุ่มชายฉกรรจ์ขี่มอเตอร์ไซค์ไล่ยิง โชคดีที่รถของเขามีระบบป้องกันขั้นสูง และความที่เป็นคนระมัดระวังตัวตลอดเวลา ลูเซียโน่จึงก้มหลบกระสุนได้ทันท่วงที จากนั้นก็สั่งให้ลูกน้องขับรถเข้าเส้นทางลัดที่ตนคุ้นเคยและศึกษามาเป็นอย่างดี พวกโจรกระจอกตามไม่ทันจึงแตกกระเจิงไปคนละทิศละทาง
เหตุกาณณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ลูเซียโน่แค้นใจอย่างหนัก เขาจึงสั่งให้เจมส์ไปไล่ล่าพวกที่ลอบทำร้ายเขาในคืนนั้นมาลงโทษให้สาสม รวมถึงบีบเค้นเอาความจริงว่าใครอยู่เบื้องหลัง ได้ความว่าเป็นศัตรูทางธุรกิจ
ชายหนุ่มจึงจัดการตอกฝาโลงพวกที่ชอบลองของให้หลาบจำ โดยการถล่มกาสิโนของพวกมันและใช้อำนาจที่มีเหนือกว่าสั่งปิดธุรกิจมืดที่อีกฝ่ายแอบลักลอบทำโดยผิดกฎหมายอย่างถาวร
และปิดท้ายด้วยการมอบความเจ็บปวดทางร่างกายให้พวกมันได้สำนึกว่าไม่ควรมาลองดีกับผู้ชายที่ชื่อลูเซียโน่อีกต่อไป!
“แล้วคืนนี้อย่าลืมส่งของ ฉันจะรอที่ห้องรับรองเหมือนเดิม”