ฟื้นจากความตาย

1672 Words
​ภาพของห้องพักคนไข้ในโรงพยาบาลค่อยๆ ชัดขึ้น ร่างเล็กๆ บนเตียงค่อยๆ ประคองตัวเองให้ลุกขึ้น มือเรียวยกขึ้นมาจับที่หน้าแล้วลูบลงมาที่ตัว เพี๊ยะ!! “โอ้ย” เสียงร้องของคนบนเตียงคนไข้ปลุกคนเฝ้าให้ตื่นขึ้นมาด้วยความดีใจ “หอม!!” เสียงเรียกจากคนเฝ้าทำให้น้ำหอมหันไปมองดูผู้ชายร่างกำยำที่ยืนทำหน้าดีอกดีใจอยู่ข้างเตียงอย่างประหลาดใจ “พี่นึกว่าพี่จะเสียหอมไปแล้วจริงๆ ซะอีก” อคิราห์โผลเข้ากอดร่างบางของภรรยาด้วยความดีใจ กว่า 3 คืนแล้วที่น้ำหอมหลับใหลอย่างไม่มีท่าทีจะฟื้นขึ้นมา โชคดีที่คนหาปลาช่วยเธอไว้ได้ทัน แม้ว่าหลังงมร่างขึ้นมาเธอจะหยุดหายใจไปแล้วก็ตาม “มึงแช่งให้กูตายเหรอ” มือบางผลักอกกว้างออกอย่างเต็มแรงพร้อมกับแสดงอาการโกรธเกรี้ยว “หอม พี่ไม่ได้หมายความแบบนั้น” “ก็มึงบอกว่านึกว่าเสียกูไปแล้ว ความหมายก็คือคิดว่ากูตายแล้วไม่ใช่หรือไง” “หอม…” อคิราห์จ้องมองคนตรงหน้าอย่างแปลกใจ แววตาของน้ำหอมตอนนี้ไม่ใช่แววตาไร้เดียงสา และอ่อนโยนอย่างที่เขาเคยเห็นเลยสักนิด ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกเหมือนว่าน้ำหอมตรงหน้าไม่ใช่น้ำหอมที่เขาเคยรู้จัก “หอมๆ หอมเหี้ยอะไร” “ก็ น้ำหอมชื่อเราไง จำไม่ได้เหรอ” หรือว่าจะความจำเสื่อม อคิราห์ดูจากท่าทางของเมียแล้วก็วิเคราะห์ไปต่างๆ นานา “กูชื่อหอมเหรอ ชื่อเหี้ยอะไรวะสลิดชิบหาย” “หอมเป็นอะไรหรือเปล่าทำไมถึงดูแปลกๆ ไป” อคิราห์พยายามใจเย็นกับเมียแม้จะเริ่มหงุดหงิดกับท่าทางที่แปลกไปแต่การที่เสียเธอไปสามวันมันก็ทำให้เขารับรู้แล้วว่า เขาไม่สามารถเสียเธอไปได้อีกแล้ว “เป็นเหี้ยอะไรล่ะ ปวดหัวชิบหาย นี่กูเป็นอะไรป่วยเนี่ย” “หอมไปกระโดดน้ำตาย แต่มีคนช่วยไว้ได้ ตอนแรก…หอมหยุดหายใจไปแล้ว แต่ระหว่างรอเรื่องเอกสารหอมก็ฟื้นขึ้นมาตอนอยู่ในห้องดับจิต จำได้มั้ย” เจ้าตัวพยายามนึกและลำดับเหตุการณ์ตามที่ชายแปลกหน้าบอก ภาพตัวเองกระโดดน้ำ ภาพที่มองเห็นผู้หญิงอีกคนถูกงมร่างขึ้นมาจากน้ำ ภาพที่ตัวเองตามรถกู้ภัยมาที่โรงพยาบาล ทุกอย่างค่อยๆ ชัดขึ้น “เหี้ย!!!” ร่างบางกระโจนลงจากเตียงแล้วลากสายน้ำเกลือวิ่งไปที่ห้องน้ำ ส่องมองดูหน้าตัวเองที่กระจก ภาพที่เห็นเป็นผู้หญิงรูปร่างหน้าตาสะสวย ผิวขาวเนียนผุดผ่อง ความรู้สึกเจ็บเมื่อตอนที่ตบหน้า “เป็นอะไร” อคิราห์ที่วิ่งตามมาประคองถามกับน้ำหอมท่าทางแปลกประหลาดทำให้เขาแปลกใจเหลือเกินว่าเมียของเขาเป้นอะไร “ทำแบบนี้ได้ ทำแบบนี้ได้จริงด้วย!!! กูได้กลับมาใช้ชีวิตแล้ว กูไม่ต้องเป็นวิญญาณแล้ว!!” น้ำหอมร้องลั่นพร้อมกับหันไปเขย่าตัวคนตรงหน้าด้วยความดีใจ “พูดอะไรวะ พี่ไม่เข้าใจ” “ช่างแม่งเหอะ ไว้จะเล่าให้ฟัง ไอ้เหี้ยดีใจชิบหาย” “กลับไปพักที่เตียงเถอะ รอหมอมาตรวจ” “เออ แล้วนี่กูจะกลับบ้านได้เมื่อไหร่อะ” “ยังไม่รู้ต้องรอหมอก่อน” “แล้ว…มึงกับกูนี่ เป็นไรกันวะ” “หอมเป็นเมียพี่ไง จำไม่ได้เหรอ” “จำได้กูจะถามเหรอ” อคิราห์ถอนหายใจพร้อมกับเดินตรงไปนั่งที่โซฟาเขาไม่ชินกับคำพูดคำจา ท่าทาง และแววตาของน้ำหอมคนนี้เลย ระหว่างรอหมอมาตรวจเขาไม่ได้พูดคุยะไรกับเธอเลยได้แต่นั่งจ้องท่าทางระริกระรี้ของน้ำหอมที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน เธอดูตื่นเต้นกับทุกอย่าง แสงแดด สายลม หรือแม้แต่แก้วน้ำโง่ๆ ที่หัวเตียง หลังจากหมอตรวจดูร่างกายแล้วพบว่าเธอแข็งแรงดี ไม่มีวี่แววของคนเพิ่งตายหลงเหลืออยู่เลย หมอจึงอนุญาตให้กลับบ้านได้ ตลอดเวลาบนรถอคิราห์ไม่ได้พูดอะไรกับน้ำหอมเลยปล่อยให้เธอโหวกเหวกโว้ยวายอยู่กับทุกอย่างที่พบเห็นตามท้องถนน เขาสังเกตดูตลอดทางจนกระทั่งถึงบ้าน ตอนหมอเรียกไปคุยก็ถามหมอแล้วว่าเธอความจำเสื่อมหรือเปล่า หมอก็ตอบว่าสมองไม่ได้รับการกระทบกระเทือนอะไร แล้วอะไรกันที่ทำให้น้ำหอมกลายเป็นแบบนี้ไปได้ หรือนี่จะเป็นการแก้แค้น คงจะโกรธอยู่ล่ะสิ คงอยากให้เราขอโทษใช่ไหม อคินคิดกับตัวเองในใจ “หอมเป็นไรวะ นี่ยังไม่หายโกรธพี่ใช่มั้ย” “ห้ะ” “ก็ที่เราทะเลาะกันก่อนที่หอมจะ…” “ก่อนมันไปฆ่าตัวตาย มึงทะเลาะกันเหรอ ทะเลาะกันเรื่องอะไรทำไมถึงขนาดต้องฆ่าตัวตาย” “นี่หอมจำอะไรไม่ได้เลยเหรอ” “โอ๊ย!!” อยู่ๆ ความรู้สึกเจ็บปวด สิ้นหวัง ความทรงจำร้ายๆ ของเจ้าของร่างก็ฉายขึ้นในหัวของน้ำหอมคนใหม่ “เป็นอะไร” ร่างบางทรุดตัวลงบนพื้นมือทั้งสองข้างยกขึ้นกุมที่ศีรษะด้วยความเจ็บปวด “หอม เป็นอะไร” อคิราห์ทรุดตัวตัวลงพยุงร่างของเมียด้วยความเป็นห่วง “กูเห็น” เพียงแวบเดียวทุกอย่างก็หายไป ภาพที่น้ำหอมได้เห็นเพียงแวบเดียวเป็นภาพความทรงจำแสนเจ็บช้ำของเจ้าของร่าง ความทรงจำที่พาให้ทุกอย่างดำดิ่งลงไปสู๋การฆ่าตัวตาย “เห็นอะไร” “เห็นความเหี้ยของมึงไง” “อะไรนะ” “มึงรักมันบ้างปะวะ กูไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมันถึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย” “หอมพูดเรื่องอะไรวะพี่งง” “ชีวิตนี้ทั้งชีวิตมันมีแค่มึง พ่อแม่หนีหายทิ้งมันไว้กับ…ญาติ อยู่ในบ้านที่มีแต่ญาติเหี้ยๆ จ้องจะข่มขืน เรียนก็ไม่ได้เรียนต้องมาหาทำงานรับจ้าง โดนหลอกให้ไปเป็นเด็กรับแขกดีที่มันได้กับมึง มึงทำให้มันรู้จักกับความรักแล้วมันก็รักมึงจนหัวปรักหัวปรำ อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่มึงเป็นลูกน้องเค้า จนตอนนี้เป็นเจ้าของกิจการความมั่งความมีบังตา สรรหาแต่ความสุขนอกบ้านจนมองข้ามเมียที่อยู่เคียงข้างมาตั้งแต่ลำบาก กูพูดถูกมั้ย” “หอมเป็นไรวะ พูดแปลกๆ พี่ร็นะเว้ยว่าพี่ทำเหี้ยกับหอมอะ พี่ขอโทษได้มั้ย เรามาเริ่มใหม่กันได้มั้ย” “เริ่มใหม่ ? ขอโทษ? ง่ายไปปะวะ มึงรู้มั้ยว่าอีหอมมันนอนร้องไห้รอมึงกลับบ้านทุกคืน แต่มึงแม่งก็พากะหรี่กับมาด้วย มาไล่ให้มันไปนอนที่อื่น แล้วมึงก็เอาเตียงของมึงกับมันไปทำเรื่องเหี้ยๆ เป็นกูก็ตายดีกว่า” “หอมอย่าพูดเรื่องตายอีกได้มั้ย พี่รู้ว่าหอมโกรธ หอมจะให้พี่ทำไงวะหอมถึงจะหายโกรธ บอกมาดิ พี่จะทำให้ทุกอย่างอะ” “ทุกอย่างเลยเหรอ” “ทุกอย่างที่พี่ทำให้หอมได้ พี่จะเลิกยุ่งกับคนอื่น พี่จะกลับบ้านมาหาหอม ไม่ทิ้งให้หอมอยู่คนเดียวพี่…” “ชู่ววว จุ๊ๆๆๆ” นิ้วเรียวยกขึ้นมาทาบที่ปากของคนตรงหน้า ความคิดสนุกๆ โลดแล่นอยู่ในหัวของน้ำหอมคนใหม่ “ไม่ต้องเปลี่ยนอะไรเพื่อหอมทั้งนั้น ถ้าอยากให้หอมหายโกรธ พี่ก็แค่….อืม…ลองกราบตีนหอมดูมั้ย” “อะไรนะ” อคิราห์ไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะพูดแบบนี้ออกมา อคิราห์ผู้ยิ่งใหญ่เนี่ยนะจะมาก้มกราบตีนผู้หญิง เสียศักดิ์ศรีชิบหาย “หอมว่าหอมพูดชัดนะ จะให้พูดอีกรอบเหรอ” “หอม มันไม่มีอย่างอื่นแล้วหรือไง” “เฮ้อ สุดท้ายพี่ก็รักศักดิ์ศรีตัวเองมากกว่ารักหอมอยู่ดีสินะ” น้ำหอมพูดพร้อมกับหมุนตัวหมายจะเดินหนีแต่มือหนาของอคิราห์ก็คว้าแขนเล็กๆ ของเธอไว้เสียก่อน “ถ้าหอมต้องการแบบนั้น….” ร่างสูงทรุดตัวคุกเข่าลงต่อหน้าภรรยา แววตาเปล่งประกายของน้ำหอมจ้องมองดูท่าทางแสนจะฝืนของคนตรงหน้าอย่างตื่นเต้น “พี่ทำให้ก็ได้” มือหนาสองข้างยกขึ้นประกบกันก่อนจะกราบลงที่ปลายเท้าน้อยๆ “ฮ่าๆๆๆๆ” เสียงหัวเราะร่วนทำให้อคิราห์ต้องเงยหน้าขึ้นมามองด้วยความโกรธเกรี้ยว ท่าทีเยาะเย้ย แววตาชั่วร้ายนั่น ไม่มีภาพของน้ำหอมคนเดิมแม้แต่น้อย “เอาจริงหรอเนี่ย กูนึกว่ามึงจะไม่ทำ ฮ่าๆๆๆ” “หอม!!!” “จุ๊ๆๆๆ โมโหเหรอจ๊ะ หอมหยอกน่ะ แต่ก็โอเคนะ ไม่คิดว่าจะได้เห็นภาพมาเฟียที่ยิ่งใหญ่ก้มกราบเมียแบบนี้” “หอม พี่ไม่ตลกนะเว้ย หอมอยากให้พี่กราบพี่ก็กราบแล้วไง ทำไมหอมยังไม่หยุดทำแบบนี้สักที” "กูทำอะไร” “ก็ทำเหมือน…หอมไม่ใช่น้ำหอมที่พี่รู้จัก” “แล้วถ้ากูบอกว่ากูไม่ใช่อีน้ำหอม มึงจะเชื่อกูป้ะ” อคิราห์ได้แต่ยืนจ้องคนตรงหน้าเงียบๆ ใจหนึ่งก็เชื่ออย่างที่เธอบอก ตั้งแต่เธอฟื้นขึ้นมาจนถึงตอนนี้ ไม่มีแม้เสี่ยววินาทีที่ทำให้เขารู้สึกถึงน้ำหอมของเขาเลย แต่ทุกอย่างมันก็เห็นกันชัดๆ ว่าผู้หญิงคนนี้คือน้ำหอม ถ้าไม่ใช่แล้วจะเป็นใครไปได้ “อีน้ำหอมมันตายไปแล้ว กูไม่ใช่มัน มึงเชื่อมั้ย” ประโยคสุดท้ายก่อนที่ร่างเล็กๆ จะเดินจากไปทิ้งความสับสนไว้ให้กับอคิราห์จนเขาทำอะไรไม่ถูก แววตาที่มองเห็น ท่าทาง คำพูด ความรู้สึก ไม่ใช่น้ำหอมคนที่เขารู้จักเลยจริงๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD