เป็นช่วงเย็นหลังเลิกเรียน นุ่มนิ่มจำต้องแยกย้ายกับเพื่อนทั้งสองซึ่งเริ่มสนิทกันมากแล้วเดินมาสอดส่องที่สนามกีฬาของมหาวิทยาลัยตามนัด ยอมรับเลยว่าตอนนี้อยากจะกลับห้องแล้วอาบน้ำนอนเสียมากกว่า อีกทั้งยังรับรู้ได้ถึงความไม่สบายตัวที่เริ่มจะเปียกชื้นขึ้นมาดื้อ ๆ
เป็นแล้วแน่ ๆ
ไม่คิดว่าเดือนนี้จะมาเร็วกว่าปกติ แต่ขอเอามือถือกับรุ่นพี่เสร็จก่อนไม่ได้หรือ เพราะกว่าจะเดินมาถึงที่นี่ได้มันก็ไกลจากคณะใช่เล่น เธอนัดกับเกียร์เอาไว้แล้วว่าจะมาเจอกันที่นี่ เนื่องด้วยวันนี้อีกฝ่ายไม่ได้มีเรียน แต่จะเอาโทรศัพท์เข้ามาคืนให้ ทว่ากว่าเธอจะเลิกเรียนเขาจึงเลือกมาเล่นฟุตบอลกับพวกเด็กคณะอื่นรอ
แบตเตอรี่แท็บเล็ตเธอก็ดันดับสนิทไปแล้วด้วย จะยกเลิกกลับก่อนก็ไม่รู้ว่าต้องบอกเขายังไงดี เลยรีบมาหาชายหนุ่มก่อนจะรู้สึกว่าวันนั้นของเดือนกำลังมา
เกิดเป็นนุ่มนิ่มมันจะโชคไม่ดีไปตลอดเลยหรือยังไงกัน
“อยู่ตรงไหนของสนามนะ”
“เฮ้ย! น้องครับ ระวัง”
ไม่ทัน...
“อึก!”
กว่านุ่มนิ่มจะรู้ตัวว่าเป็นตนเองที่รุ่นพี่ในสนามตะโกนมาเตือนก็เป็นตอนที่ลูกฟุตบอลหนัก ๆ นั้นกระแทกเข้าข้างเอวเล็กพอดี ประจวบเหมาะกับความแรงของลูกถึงแม้ว่าจะไม่ได้ล้มลงตรงนั้นเลยแต่มันก็จุกเจ็บเอาเรื่อง อีกทั้งที่เธอต้องตื่นตระหนกเมื่อสักครู่ก็ทำเอารู้สึกว่าเลือดช่วงกลางลำตัวคงจะไหลออกมาแบบหยุดไม่ได้แล้ว
“น้อง! ขอโทษ พี่ขอโทษครับ เจ็บมากไหม เดี๋ยวก่อนดิ ทำไมมีเลือด...”
“หุบปากแล้วหลบไป”
“ขอโทษมึง คนรู้จักเหรอ กูไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ ขอโทษด้วยว่ะ”
เธอที่รู้แล้วว่าถ้าขยับร่างกายมากกว่านี้ประจำเดือนคงจะไหลออกมาต่อหน้าพวกเขามากกว่าเดิมแน่นอน ทำได้แค่ก้มมองพื้นหญ้าแล้วขอบตาร้อนผ่าวเหมือนจะร้องไห้ออกมาตรงนี้ เวลาแบบนี้ได้แต่นึกถึงผู้เป็นพี่ชายอยู่ในใจ
จะทำอย่างไรดี นั่งลงที่ข้างสนามตอนนี้เลยก็ไม่ได้ จะติดต่อนายยังไง อยากกลับบ้าน เธอไม่อยากอยู่ตรงนี้แล้ว
“หนูคะ นุ่มนิ่ม ได้ยินพี่ไหม”
“ฮึก...”
เกียร์ที่กำลังจะเอื้อมมือไปสัมผัสไหล่บางเพื่อเป็นการเรียกสติน้อง จำต้องชะงักเมื่อรับรู้ได้ถึงการสั่นเทาพร้อมกับเสียงสะอื้นเล็ดลอดผ่านริมฝีปากเล็กออกมาให้ได้ยิน
นั่นทำเอาชายหนุ่มเผลอบดสันกรามเข้าหากันอย่างไม่รู้ตัว ตวาดสายตามองไปที่เพื่อนต่างคณะหลายคนซึ่งยังยืนมุงอยู่ด้านหลัง เข้าใจว่าเรื่องแบบนี้คงจะไม่มีใครอยากให้เกิด แต่มันก็อดที่จะโมโหไม่ได้ จนเป็นตินที่มาด้วยกันเพราะว่างนั้นรีบวิ่งไปหยิบเสื้อแขนยาวราคาแพงที่กองรวม ๆ กันอยู่ให้เฮดว้ากคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่ตอนนี้เดือดยิ่งกว่าตอนด่ารุ่นน้อง
“เกียร์มึง ใจเย็นก่อน ๆ เสื้อกูเพิ่งซื้อมาใหม่ แพงมากด้วย แต่เอาไปเลยเพื่อน ส่วนพวกมึงทุกคนเห็นอะไรก็เงียบปาก ห้ามพูด แยกย้ายกันไปได้แล้ว”
แน่นอนว่าต้องรวมถึงตินด้วย แต่ก็ไม่ได้ไปไกลนักหรอก เผื่อว่าเพื่อนมันมีอะไรให้ช่วย ไม่หันไปมองแค่นั้นก็คงจะพอแล้ว ทว่าบอกไอ้นายไปเลยไหม หรือรอให้เกียร์มันจัดการเองดี เอาเป็นว่าเขาจะอยู่เงียบ ๆ ก่อนก็แล้วกัน
“หนู พี่เอง พี่เกียร์ค่ะ”
“พี่เกียร์...” นุ่มนิ่มเหมือนคนเพิ่งจะได้สติกลับมา เนื่องจากไม่เคยพบเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน เธอยอมเงยหน้ามองคนที่เหลือเพียงหนึ่งเดียวพร้อมกับดวงตาที่แดงก่ำ
“เจ็บมากไหมคะ”
“มะ...ไม่ค่ะ แต่ว่า”
“ไม่เป็นไรนะคะ งั้นพี่ขออนุญาตนะ”
เธอสัมผัสได้ถึงการลูบที่หลังมือเบา ๆ ก่อนเขาจะโน้มตัวลงมาใกล้พร้อมกับกลิ่นตัวหอมเย็น ๆ ที่ช่วงนี้มักได้กลิ่นมันอยู่บ่อยครั้ง มันให้ความรู้สึกปลอดภัยจนเธอนั้นสามารถผ่อนคลายความตรึงเครียดเมื่อสักครู่ลงได้ในตอนที่เขาใช้เสื้อแขนยาวผูกเข้าที่รวบเอวเล็กเสร็จ
น่าขายหน้าเป็นที่สุด ทว่าพอเป็นเขา เธอกลับไม่ได้มีความกังวลหรือกลัวใด ๆ เช่นในตอนแรกเลย
“หนู ฮึก... ไม่คิดว่า ขอโทษค่ะ หนูไม่รู้ว่าจะเป็นวันนี้”
“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ร้องนะ ว่าแต่เดินออกไปที่รถพี่ไหวไหมคะ เรื่องอื่นเราค่อยว่ากัน” ชายหนุ่มรับเอากุญแจจากเพื่อนที่ค่อยสังเกตการณ์อยู่ไม่ไกล ก่อนตินจะบอกเป็นเชิงว่าจะอยู่เล่นฟุตบอลกับเพื่อนคณะอื่นต่อ ให้เขาไปทำธุระได้เลย
“หนูกลัวว่ามัน—”
“โอเคค่ะ พี่เข้าใจแล้ว งั้นขึ้นมาค่ะ เพราะถ้าให้อุ้มหนูตรงนี้คงจะดูไม่ดีเท่าไหร่” ปกติเขาก็ถูกจับตามองอยู่แล้ว ไม่เข้าใจเช่นกันว่าจะมาสนใจเรื่องของชายหนุ่มทำไมกันนักหนา แต่ก็ห้ามไม่เคยได้ คิดว่าเรื่องนี้ก็คงจะไม่พ้นสายตาคนพวกนั้นเหมือนกัน ฉะนั้นต้องนึกถึงอีกฝ่ายให้มาก
นุ่มนิ่มเม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง เข้าใจในสิ่งที่เขาจะสื่อสาร แต่ถ้าให้เธอขึ้นหลังเพื่อนพี่ชายไปตอนนี้มีหวังประจำเดือนคงจะได้ไหลเปรอะเปื้อนเสื้อบอลของเขาพอดี
อีกอย่างมันก็ไม่สมควรอย่างยิ่ง แต่ถ้าเธอจะเดินทั้งที่เลือดไหลอยู่แบบนี้ก็เห็นใจคนอื่นที่ต้องหันมามอง
“หนูเดินเองได้ค่ะ คงไม่มีใครมาสนใจขนาดนั้น”
“น้อยไปสิคะ ขึ้นมาค่ะ หนูอย่าดื้อกับพี่ในตอนที่หงุดหงิดเลย”
เกียร์ยังหัวเสียอยู่กับสถานการณ์ไม่กี่นาทีก่อนหน้าเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังรู้สึกได้ว่าน้องสาวเพื่อนนั้นเงียบสนิทมาตลอดทางในระหว่างที่รถยนต์ขับเคลื่อนมาถึงร้านสะดวกซื้อ เขาจำต้องผ่อนลมหายใจออกมาแล้วเลือกจอดยานพาหนะใกล้ห้องน้ำปั๊ม หยิบเสื้อแจ็คเก็ตราคาแพงมาสวมทับเสื้อบอลเพื่อลงไปเลือกซื้อของจำเป็นสำหรับผู้หญิงให้อีกฝ่ายที่ยังนั่งเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าเงียบ ๆ
เขาเอ่ยประโยคเชิงดุไปเหรอ หรือเพราะเธอยังขวัญเสียอยู่
งงตัวเองเหมือนกันที่ยอมทำถึงขนาดนี้ เพราะแฟนก็ไม่ใช่ ทว่าอีกฝ่ายก็เป็นถึงน้องสาวเพื่อน จะทิ้งให้แก้ปัญหาคนเดียวตรงนั้นก็คงจะไม่ได้ ถึงแม้ว่าวันนั้นของผู้หญิงจะเป็นเรื่องปกติ แต่มันจะมีใครมาเดินเตร่เลือดไหลให้คนอื่นมองบ้าง เกิดมาเขาก็ไม่เคยเห็น ก่อนมือหนาจะหยิบผ้าอนามัยมาสักยี่ห้อแล้วจ่ายเงินเพื่อกลับมาที่รถ
“อันนี้ใช้ได้ไหมคะ หรือหนูมีตัวอย่างให้พี่ดูไหม เมื่อกี้รีบลงไปซื้อค่ะ เลยลืมถาม ถ้าผิด เดี๋ยวพี่ไปถามกับพนักงานให้ใหม่ เพราะกลัวมันไม่พอดีกับหนู”
“พี่เกียร์...”
“คะ? เปลี่ยนได้ไหม เดี๋ยวพี่วิ่งไปซื้อให้ใหม่ได้จริง ๆ ค่ะ”
“ผ้าอนามัยน้องไม่มีไซซ์ค่ะ”
“อ่า ขอโทษค่ะ พี่ไม่รู้ เพราะไม่เคยซื้อให้ใครมาก่อน”
นุ่มนิ่มยิ้มขำ คลายความกังวลลงไปได้เป็นอย่างมาก ส่วนอีกฝ่ายนั้นใบหน้าแดงระเรื่อขึ้นไปถึงใบหู เบือนหน้าหนีกันราวกับไม่ได้เพิ่งจะดุเธอไปแบบตอนอยู่ที่สนาม
TBC.