รถยุโรปสีดำแล่นไปตามทางเพื่อมุ่งเข้าสู่คฤหาสน์หลังใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางพื้นที่กว่าสิบไร่ใจกลางกรุง อัคคีค่อยๆ ชะลอรถของตนเมื่อเข้าใกล้ตัวบ้านก่อนจะจอดสนิทที่บริเวณประตูใหญ่เพื่ออำนวยความสะดวกให้หญิงสาวคนรัก ตรงระเบียงเข้าบ้านมีคนรับใช้สองคนยืนรอต้อนรับอยู่ ธาราจึงส่งของขวัญของตนให้สาวใช้นำไปเก็บภายในบ้านก่อนจะหันไปทางร่างสูงที่เพิ่งดับเครื่องยนต์และเดินตรงมายืนข้างเธอ
“ขอบคุณนะคะพี่คี”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แต่ถ้าจะมีรางวัลให้พี่ก็เต็มใจนะ” ชายหนุ่มยื่นแก้มพร้อมกับใช้นิ้วเคาะเพื่อบอกใบ้ถึงรางวัลที่ตนอยากได้ ธาราจึงหันหน้าหนีพร้อมส่งค้อนให้อีกฝ่าย
“พี่คีก็”
อัคคีหัวเราะเมื่อเห็นท่าทางแง่งอนของหญิงสาวก่อนจะกวาดตามองบ้านหลังใหญ่ตรงหน้าด้วยความรู้สึกเป็นห่วงขึ้นมาเมื่อคิดได้ว่าคืนนี้คนตัวเล็กข้างๆ ต้องอยู่ที่นี่แค่เพียงลำพัง
“แล้วนี่อาธีจะกลับเมื่อไหร่คะ”
“อืม...คุณพ่อบอกว่าจะกลับพรุ่งนี้ค่ะ อาจจะช่วงเย็นๆ หน่อย คุณพ่อบอกว่าจะโทรบอกอีกทีค่ะ”
คำตอบของคนรักทำให้ชายหนุ่มคลายใจขึ้น มือใหญ่คว้ามือน้อยมากุมไว้
“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวพี่มารับน้ำไปรับท่านที่สนามบินด้วยกันนะคะ จะได้คุยกับท่านเรื่องของเราด้วย ดีไหมคะ”
“ค่ะ ตามใจสิคะ” ธาราตอบรับแต่ก็ก้มหน้างุด อัคคีจึงสวมกอดเธออีกครั้ง
“ขอบคุณนะคะน้ำ ที่ให้โอกาสพี่” อัคคีพึมพำกดจูบที่กลางกระหม่อมของหญิงสาว ธาราจึงเงยหน้าขึ้นสบตาอีกฝ่าย
“เราเป็นคนรักกันนะคะพี่คี ที่ผ่านมาพี่คีก็ดีกับน้ำตลอด น้ำจะไม่ให้โอกาสพี่คีได้ยังไงล่ะคะ”
“พี่ดีใจนะคะที่เราจะได้แต่งงานกันสักที เดี๋ยวพี่จะไปบอกคุณพ่อให้รีบมาคุยกับอาธีเร็วๆ เราจะได้หาฤกษ์ที่ใกล้ที่สุด หลังน้ำสอบเสร็จเลยเป็นยังไง ดีไหมคะ” อัคคีเริ่มวางแผนเมื่อคิดต่อไปว่าอีกไม่นานธาราก็จะเรียนจบแล้ว เวลานั้นจึงน่าจะเหมาะที่สุดเมื่อเขากับธารานั้นรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กหรือเรียกได้ว่าโตมาด้วยกันจนไม่จำเป็นต้องเรียนรู้กันและกันมากไปกว่านี้อีกแล้ว
“ตามใจพี่คีสิคะ”
“หืม...ตามใจพี่อีกแล้วเหรอ ถ้าอย่างนั้น...เราเข้าหอกันล่วงหน้าเลยไหม” อัคคียิ้มกรุ่มกริ่มยื่นหน้าเข้าหาทำท่าจะจูบ ธาราตกใจรีบดันตัวออกห่างทันที
“อย่าค่ะพี่คี” คนตัวเล็กโวยวายด้วยความตื่นตระหนก คนแกล้งจึงต้องรีบหยุดและอธิบายทันที
“พี่ล้อเล่นหรอกค่ะ พี่สัญญาว่าพี่จะไม่ทำให้น้ำเสียหายก่อนถึงวันของเราแน่นอน อย่ากลัวไปเลยนะคะ” อัคคีลูบศีรษะอีกฝ่ายเพื่อปลอบประโลม ธาราจึงวางใจยอมอยู่นิ่งๆ ในอ้อมแขนของเขาดังเดิม
“นี่ก็ใกล้จะดึกแล้ว น้ำขึ้นไปพักเถอะค่ะ พรุ่งนี้มีเรียนแต่เช้าด้วยนี่ ฝันดีนะคะ ฝันถึงพี่ด้วยนะ”
“จะพยายามนะคะ” ธาราเล่นแง่ปั้นเสียงแข็งใส่อีกฝ่าย อัคคีทำตาละห้อยมองคนรักด้วยท่าทางน่าสงสาร
“โธ่...น้ำ อย่าโกรธพี่เลยนะ” คนตัวโตทำหน้าหงอยให้รู้ว่ารู้สึกผิดจริงๆ ธารามองอยู่ไม่นานก็ยิ้มออกมาด้วยความใจอ่อนเช่นเคยเมื่อเธอเองก็ไม่เคยโกรธใครได้นานเช่นกัน
“แหม...ความฝันมันบังคับกันได้ที่ไหนล่ะคะ แต่ที่น้ำสัญญาได้คือ น้ำจะคิดถึงพี่คีทั้งตอนก่อนนอนและตอนตื่นนอนเลยค่ะ ดีไหมคะ”
อัคคีพยักหน้ารับ ธาราจึงนำมืออีกฝ่ายมากุมไว้
“พี่คีเองก็ขับรถดีๆ นะคะ ถ้าถึงบ้านแล้วอย่าลืมส่งข้อความมาหาน้ำหน่อยนะคะ น้ำเป็นห่วง”
“ได้เลยค่ะ คุณว่าที่ภรรยา” อัคคีเย้าส่งท้าย ธาราจึงได้แต่ทำท่าเอียงอายก่อนจะแกล้งงอนอีกรอบ
“พี่คีก็พูดอะไรก็ไม่รู้ น้ำเข้าบ้านแล้วดีกว่า” พูดจบร่างเล็กก็รีบดันตัวออกแล้วเดินเข้าไปในบ้านทันทีแต่ก็มิวายหันกลับไปมองคนข้างหลังอีกครั้ง อัคคีโบกมือให้หญิงสาวก่อนจะเดินขึ้นรถและขับออกไปเมื่อมองจนแน่ใจว่าธาราได้เดินขึ้นบ้านไปแล้ว
หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย ธาราก็เดินมานั่งบริเวณโซฟาปลายเตียงพร้อมกับกล่องของขวัญในมือ หญิงสาวกำลังจัดการแกะกล่องเหล่านั้นแต่ก็ต้องหันไปให้ความสนใจโทรศัพท์ที่ดังขึ้นมาเสียก่อน เธอยิ้มกว้างเมื่อเห็นชื่อของธีรัช...บิดาผู้เป็นดังเสาหลักหนึ่งเดียวที่คอยค้ำจุนและโอบอุ้มชีวิตของเธอ
“ค่ะคุณพ่อ”
“เป็นยังไงบ้างน้ำ งานเลี้ยงสนุกไหมลูก” น้ำเสียงของชายวัยกลางคนมีแววเสียใจอย่างเห็นได้ชัดที่ไม่ได้อยู่ร่วมงานวันเกิดของบุตรสาวที่เขารักดังในเช่นทุกๆ ปีที่ผ่านมา
“สนุกค่ะคุณพ่อ ทุกๆ คนดูมีความสุขมากเลยค่ะ”
“พ่อขอโทษนะที่คืนนี้กลับไปหาลูกไม่ทัน ทั้งๆ ที่วันนี้เป็นวันเกิดของลูกแท้ๆ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณพ่อ น้ำเข้าใจค่ะว่าช่วงนี้บริษัทของเรายุ่งๆ คุณพ่อไม่ต้องขอโทษน้ำหรอกค่ะ เอาไว้พรุ่งนี้พอคุณพ่อกลับมา เราค่อยกินข้าวด้วยกันก็ได้นะคะ” ธาราทอดเสียงปลอบใจบิดาของตนไม่ให้คิดมาก อีกฝ่ายจึงสบายใจขึ้น
“ขอบใจนะลูกที่เข้าใจพ่อ น้ำเป็นเด็กดีของพ่อเสมอ พ่อเองก็จะพยายามที่สุดเพื่อลูกนะ ว่าแต่ตอนนี้ลูกถึงที่บ้านหรือยัง”
“พี่คีมาส่งน้ำที่บ้านสักพักแล้วค่ะ”
“ดีแล้วล่ะ ถ้ายังไงฝากขอบคุณคีด้วยนะลูก การที่ได้เห็นว่ามีคนที่รักและคอยดูแลลูกอย่างนี้ ก็ทำให้พ่อหมดห่วงไปได้มากแล้วล่ะ”
ธารายิ้มอาย คิดลังเลขึ้นมาถึงการบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น จนเมื่อตัดสินใจว่าจะเอ่ยเรื่องนี้พร้อมกันกับอัคคีเธอจึงเย้าไปเรื่องอื่นแทน
“หืม...อะไรกันคะ นี่คุณพ่อเบื่อที่จะดูแลน้ำแล้วหรือคะเนี่ย” ธาราปั้นเสียงแง่งอน ธีรัชจึงหัวเราะออกมาอย่างเอ็นดู
“พ่อไม่เบื่อหรอกลูก ไม่มีวันเบื่อ แต่พ่อก็อยากมีคนที่พ่อวางใจให้ดูแลลูกต่อจากพ่อได้เหมือนกัน เข้าใจพ่อนะลูกนะ”
“ค่ะ น้ำเข้าใจค่ะคุณพ่อ น้ำแค่แกล้งงอนคุณพ่อเล่นหรอกค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นแค่นี้ก่อนนะลูกนะ เรื่องเวลาเดินทางกลับเดี๋ยวพ่อโทรบอกอีกที ไปพักผ่อนเถอะลูก พ่อรักลูกนะ”
“ค่ะคุณพ่อ น้ำก็รักคุณพ่อนะคะ” ธารากดวางโทรศัพท์ความอบอุ่นจากบิดาโอบล้อมไปทั้งจิตใจของเธอ หญิงสาววางเครื่องมือสื่อสาร คิดถึงเรื่องราวต่างๆ จนเริ่มสะเทิ้นอายถึงความอ่อนหวานของอัคคีอีกครั้งที่ได้ทำให้วันนี้กลายเป็นวันที่แสนประทับใจที่สุดในชีวิตของเธอ ดวงใจของธาราเต็มตื้น พลางบอกตัวเองยิ้มๆ ว่าให้เลิกฟุ้งซ่าน แต่รอยยิ้มของเธอยังคงกว้างขวางขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้เจ้าตัวจะพยายามเปลี่ยนไปให้ความสนใจกับบรรดากล่องของขวัญตรงหน้าแล้วก็ตามที