4 บทที่ 4 (1)

1069 Words
ธาราวิ่งไปตามทางเดินสีขาวที่ดูเหมือนจะทอดยาวไม่รู้จบในความรู้สึกของเธอ ใบหน้านวลยามนี้เผือดสี แววตาตื่นตระหนกและกังวลไปถึงข่าวร้ายที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันจนไม่อาจจะตั้งรับได้จนถึงตอนนี้ พ่อของเธอเข้าห้องฉุกเฉินและยังมีภาวะหัวใจหยุดเต้น... หญิงสาวยกมือขึ้นปาดน้ำตาออกจากใบหน้าอยู่หลายครั้งพร้อมกับพยายามปัดความคิดในแง่ร้ายออกไปให้พ้น พ่อของเธอจะต้องไม่เป็นอะไร... หญิงสาวได้แต่ภาวนา พ่อของเธอจะต้องอยู่กับเธอและจะไม่มีวันทิ้งเธอไว้แค่เพียงลำพังอย่างแน่นอน “น้ำ” อัคคีที่ยืนรอหญิงสาวอยู่กางแขนออกกว้างเพื่อรองรับร่างบางมาไว้ในอ้อมแขน ธาราสะอื้นกอดชายหนุ่มไว้แน่นก่อนจะเงยหน้าถามอีกฝ่ายด้วยความร้อนใจ “คุณพ่อเป็นยังไงบ้างคะพี่คี คุณพ่อเป็นยังไงบ้าง” “หมอยังไม่ออกมาเลยค่ะ แต่น้ำอย่าเพิ่งคิดมากนะคะ เจ้าหน้าที่ข้างในเขาต้องช่วยอาธีกันอย่างเต็มที่แน่” “แล้ว...แล้วมันเกิดขึ้นได้ยังไงคะพี่คี ทำไมจู่ๆ คุณพ่อถึงทรุดลงไปแบบนี้” “ไอ้ธีมันเครียดน่ะ” อรรถพลที่ยืนฟังอยู่รีบแทรกขึ้น “ไอ้ธีมันเครียดที่สุดท้ายลุงช่วยมันไม่ได้ ขอโทษนะหนูน้ำ แต่ลุงพยายามเต็มที่แล้วจริงๆ” “โธ่...คุณพ่อ” ธาราสะอื้นก่อนจะซบใบหน้าลงในอ้อมกอดของ คนรักใช้มือข้างหนึ่งลูบหลังของเธอเพื่อปลอบใจ สายตาของอัคคีเหลือบมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจและสำนึกผิดของคนเป็นพ่อก่อนจะเบือนหนีได้แต่กัดฟันข่มอารมณ์ไว้ ทั้งแววตาและคำพูดก่อนหน้านี้ของอีกฝ่ายยังคงฝังอยู่ในความทรงจำของเขา ไหนจะรอยแผลบนศีรษะของธีรัชนั่นอีก ถ้าเขาไม่เห็นสิ่งเหล่านั้นด้วยสายตาของตนมาก่อนก็คงจะเชื่อคำบอกเล่านี้อย่างสนิทใจแล้ว “อรรถ” ปราณที่เร่งฝีเท้ามาตามทางเดินเรียกเพื่อนสนิทของตน ด้านหลังของเขามีภูผาที่กำลังเดินตามมาและส่งสายตาแห่งความห่วงใยมาให้แก่ธารา “ไอ้ธีเป็นยังไงบ้าง” “หมอยังไม่ออกมาเลย นี่พวกฉันก็รออยู่” ปราณมองไปรอบๆ ก็เห็นอัณณาและนิภาที่นั่งรออยู่เช่นกันด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดีนัก ก่อนจะเดินเข้าไปหาเด็กสาวที่กำลังทุกข์ใจมากกว่าใครๆ ในที่นี้ “ทำใจดีๆ ไว้นะหนูน้ำ อย่าเพิ่งคิดมากไปนะหนูนะ” ธารายกมือไหว้ขอบคุณอีกฝ่ายแต่ก็ยังคงร้องไห้จนตัวสั่นคลอน ภูผามองภาพนั้นด้วยความเจ็บปวดใจได้แต่จับมือเพื่อส่งผ่านกำลังใจให้แก่คนที่เขารัก เวลาผ่านไปหลายนาทีและสร้างความทรมานใจให้แก่คนรอ ในที่สุดประตูห้องฉุกเฉินก็ถูกเปิดออกพร้อมกับการปรากฏตัวของเจ้าหน้าที่พยาบาลและแพทย์เจ้าของไข้ “คุณหมอคะ คุณพ่อเป็นยังไงบ้างคะ” ธาราวิ่งเข้าไปหาชายวัยกลางคนทันทีด้วยความหวัง แต่สายตาที่ส่งกลับมากระชากหัวใจของเธอให้ลอยคว้างก่อนที่คำตอบที่ได้ยินจะทำให้เธอแทบจะทรงตัวไม่อยู่อีกต่อไป “หมอเสียใจด้วยนะครับ ทางเราพยายามเต็มที่แล้ว” “คุณพ่อ...” ธาราครางแผ่ว ดวงตากลมสวยเริ่มเลื่อนลอยไร้จุดหมาย “ไม่จริง...ทำไมคุณพ่อทิ้งน้ำไปแบบนี้ คุณพ่อขาอย่าทิ้งน้ำไปแบบนี้นะคะ คุณพ่อ...” ธาราคร่ำครวญก่อนจะหมดสติไปเมื่อไม่สามารถแบกรับความเจ็บปวดใดๆ มากไปกว่านี้ได้อีกแล้ว... “น้ำ...น้ำคะ น้ำ” เสียงเรียกเบาๆ ที่ข้างหูทำให้คนที่นั่งฟุบหน้าลงตรงปลายเตียงค่อยๆ ขยับตัวลืมตาขึ้น ธารากระพริบตามถี่ๆ ค่อยๆ ลำคับความคิดจนจำได้ว่าเธออยู่ในห้องนอนของบิดาที่เธอแวะเข้ามานั่งพักด้วยความคิดถึงอดีตเจ้าของห้องก่อนจะเผลอหลับไปอย่างไม่ทันรู้ตัวแบบนี้ หญิงสาวมองไปตามเสียงเรียกจึงได้เห็นชายคนรักทรุดตัวลงนั่งข้างๆ และกำลังมองมาด้วยความห่วงใย เธอจึงเอนกายเข้าหาอีกฝ่ายและก่อนจะเริ่มสะอื้นไห้ในอ้อมแขนของเขา “น้ำคิดถึงคุณพ่อจังเลยค่ะพี่คี” “พี่รู้แล้วค่ะน้ำ พี่รู้แล้ว” อัคคีลูบศีรษะอีกฝ่ายที่ยังคงทำใจไม่ได้กับการจากไปอย่างกะทันหันของผู้เป็นบิดาแม้ว่าจะล่วงเลยมากว่าสามวันแล้ว ธารามักจะนั่งในห้องนอนใหญ่ห้องนี้ที่อบอวลไปด้วยความทรงจำของผู้เป็นพ่อ และมักจะผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อนเมื่อในช่วงเวลาที่ควรพักผ่อนหญิงสาวกลับไม่สามารถข่มตานอนได้อย่างสนิทใจ “น้ำ...น้ำกลัวไปหมดเลยค่ะพี่คี น้ำไม่รู้จะทำยังไงต่อไป มัน...มันสับสนไปหมด น้ำไม่รู้จะเดินต่อทางไหน จะมีชีวิตอยู่ยังไงเมื่อไม่มีคุณพ่อแล้ว น้ำ...น้ำ...” “น้ำยังมีพี่อยู่นะคะ น้ำยังมีพี่อยู่นะ” อัคคีกอดปลอบอีกฝ่ายแน่น เสียงของเขาเริ่มสั่นเครือด้วยความรู้สึกสงสารคนรักจับใจ ธาราซุกตัวอยู่ในอกกว้างราวกับต้องการยึดชายหนุ่มตรงหน้าไว้ให้เป็นหลักพึ่งพิงสุดท้ายของชีวิต “พี่คีอย่าทิ้งน้ำนะคะ อย่าทิ้งน้ำไปอีกคนนะ” ธาราละล่ำละลักอ้อนวอนจนคนมองยิ่งสะท้อนใจ อัคคีเช็ดคราบน้ำตาของหญิงสาวด้วยปลายนิ้วอย่างอ่อนโยนพร้อมกับสบตา “ค่ะ พี่ไม่มีวันทิ้งน้ำนะ อย่ากลัวไปเลยนะคะคนดี พี่จะอยู่ตรงนี้ อยู่ข้างๆ น้ำตลอดไปนะคะ” “พี่คีสัญญาแล้วนะคะ” “ค่ะ พี่สัญญา” ธาราซบใบหน้าเข้ากับอกแกร่งอีกครั้งและโอบกอดอีกฝ่ายแน่นยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ราวกับว่าเธอจะขอวางชีวิตและหัวใจไว้ในมือของชายหนุ่มผู้เป็นสุดที่รักคนนี้ ภูผาที่ยืนมองผ่านช่องประตูมองภาพนั้นด้วยหัวใจที่ บีบรัดและเจ็บปวดไปกับความสูญเสียของหญิงสาวตนรัก ดวงตาของเขาแดงก่ำก่อนจะละสายตาจากภาพตรงหน้าเพื่อให้เวลาคนทั้งคู่ได้อยู่กันตามลำพัง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD