ทีเคซีนีเพล็กซ์ เวลา 9:00 นาฬิกา
‘เช้านี้ที่โรงภาพยนตร์ใหญ่ครบวงจรกลางกรุงได้เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ของทีเคซีนีเพล็กซ์ ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นลูกสาวคนสวยของเพื่อนสนิทเจ้าของทีเคฯ และห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ที่มีนายปริตร ธีรการณ์เป็นผู้กุมบังเ**ยนใหญ่ อย่างน้องคะน้า คณานางค์ อนันตทรัพย์มหาศาล นางแบบขึ้นปกของนิตยสารหลายเล่ม ฮอตที่สุดในชั่วโมงนี้ก็ว่าได้ แว่วมาว่าสองบ้านนี้เขามีนอกมีในกัน แต่จะอะไรยังไง กอไผ่จะมีข่าวมงคลแอบแฝงอยู่รึเปล่า สงสัยสต้าสตาร์นิวส์คงต้องขอตัวไปมุด เอ๊ย ! ไปสืบก่อนนะเจ้าคะ’
หญิงสาวเปิดอ่านเนื้อหาข่าวออนไลน์ผ่านๆ ไม่ได้คิดแยแสข่าวพวกนี้สักเท่าไร เพราะความที่เป็นลูกคุณหนูและค่อนข้างเอาแต่ใจตัวเอง ถึงแม้จะเป็นคนเก่งและมีเสน่ห์แพรวพราวขนาดไหน แต่เมื่อมองไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องทำอะไรฝืนใจตนเอง หญิงสาวเลยเลือกการไม่ทำการใดๆ ที่ตนเองไม่อยากจะทำ จนบางครั้งความชัดเจนมากๆ ของเธอ ทำให้ข่าวที่ออกมาค่อนข้างไปในแนววิพากษ์วิจารณ์ความเหวี่ยงและไม่แคร์สื่อของเธอซะเป็นส่วนใหญ่
และนั่นก็เป็นสาเหตุหลักที่ลูกชายคนโต ผู้รับช่วงดูแลกิจการที่เกี่ยวกับโรงภาพยนตร์ทั้งหมดของบริษัท คัดค้านผู้เป็นพ่อเรื่องที่จะเอานางแบบคุณหนูคนนี้มาร่วมทำงานใหญ่ และขึ้นป้ายหน้าโรงหนังทุกแห่งของทีเคซีนีเพล็กซ์ ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงอีกหนึ่งปีข้างหน้า... ถึงจะมีเหตุผลอีกอย่างรวมอยู่ด้วยก็เถอะ
“เธอนี่โชคดีนะ อาศัยอำนาจพ่อเพื่อให้ได้งานเกรดดีๆ”
“ทำไม ? อิจฉาเหรอ รับไม่ได้หรือไง”
“ทำไมคนอย่างฉันจะต้องไปอิจฉาเธอด้วย งานฉันก็เยอะกว่า ผู้คนก็รู้จักฉันมากกว่าเธอเป็นไหนๆ”
“งานที่ต้องใช้เต้าไต่เนี่ยเหรอ ที่เธอภูมิใจนักหนา” ไม่พูดเปล่า แต่คนพูดยังยักยิ้มมุมปาก ให้อีกคนเห็น
“นี่แก !”
เธอละไม่เข้าใจผู้หญิงนางนี้เลยจริงๆ ไม่รู้ว่ายาย ‘เมอลาดิท’ จะมาหาเรื่องระรานอะไรเธอนักหนา ถึงแม้จะพอเข้าใจได้ว่าเจ้าหล่อนอยากได้งานนี้จนตัวซีดตัวสั่น แต่ที่งานนี้ตกมาถึงมือเธอก็ด้วยฝีมือล้วนๆ ไม่ว่าใครที่ได้อยู่ร่วมแคสติ้งงานในวันนั้นก็ต้องเห็นว่าเธอหรือแม่เมอลาดิทนี่ ที่เป็นมืออาชีพกว่ากัน
“ฉันพูดความจริง” มีหรือที่คนอย่างคณานางค์ อนันตทรัพย์มหาศาล จะยอมลดราวาศอกให้ใคร
“อย่ามาผยองคิดว่าฉันไม่กล้าตบแกกลางงานนะ !” นางแบบสาวกัดฟันเค้นเสียงแห่งความเกลียดชังที่สั่งสมมาเป็นแรมปี นับตั้งแต่คณานางค์เริ่มเข้าวงการใหม่ๆ
เธอเชื่อเหลือใจว่าเมอลาดิทกล้าทำอย่างที่ปากพูดแบบไม่ต้องสงสัย เพราะก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะรับงานที่ต้องเจอกัน หรือชิ้นเดียวกัน ผู้หญิงคนนี้ก็มักจะหาเรื่องท้าตีท้าตบกับเธอเสมอ ถึงบางทีจะเหนื่อยหน่ายใจอยู่มิใช่น้อยที่ต้องรบราฆ่าฟันกับพวกไม่มีเหตุผล แต่ก็เพราะความสนุกจากการได้ยั่วโทสะคนตรงข้าม และความดังกระฉ่อนจากเรื่องอื้อฉาวในแต่ละครั้ง ทำให้ชื่อคณานางค์ติดสื่อฯ ได้แบบไม่ต้องรับงานเยอะแยะให้เหนื่อยเลย จึงทำให้เธอเลือกที่จะต่อความยาวและสาวความให้มันยืดออกไป
“ถ้าคิดว่าฉันจะงอมืองอเท้าให้เธอทำอยู่ฝ่ายเดียวก็เชิญ”
ยังไม่ทันที่ทั้งสองจะได้ฟาดฟันกันอย่างเคย เสียงโหวกเหวกและกองทัพสื่อมวลชนก็กรูกันเข้ามา
“โน่นไงๆ น้องคะน้าอยู่นั่น มีน้องเมอลาดิทด้วย พวกเรา มาทางนี้เร็ว”
คณานางค์มองมือที่เงื้อขึ้นสูงและค่อยๆ ลดลงอย่างฉับพลัน กับสีหน้าท่าทางที่เปลี่ยนมายิ้มแย้มโปรยเสน่ห์ให้นักข่าวภาคสนาม แต่กลับมีเสียงลอดไรฟันขู่อาฆาตออกมาอย่างชัดแจ๋ว
“ฝากไว้ก่อนเถอะ เอาไว้ให้สัมภาษณ์เสร็จเมื่อไร แกกับฉันหามุมเงียบๆ มาสะสางเรื่องของเราหน่อยเอามั้ยล่ะ”
คณานางค์ยิ้มแล้วเชิดหน้าแถมยังยักคิ้วให้หนึ่งข้างอย่างกวนๆ เป็นการตอบรับที่รู้กันดีว่า ‘ได้เสมอ’
นักข่าวหลายคนยังคงแย่งกันป้อนคำถามให้ดารานางแบบทั้งสองได้ตอบ และส่วนมากจะมุ่งเป้าไปที่พรีเซ็นเตอร์ของทีเคฯ ซะเป็นส่วนใหญ่ แต่ประเด็นที่นักข่าวอยากถามคงหนีไม่พ้นเรื่องนี้...
“ได้ข่าวว่าทั้งคู่เกาเหลากัน วันนี้ออกงานด้วยกันได้ หรือว่าเคลียร์กันลงตัวแล้วคะ”
“อุ๊ย เกาหลงเกาเหลาอะไรที่ไหนกันคะ เราก็แค่หยอกกันเล่นนิดหน่อยเองค่ะ” เสียงของเมอลาดิทที่ประดิษฐ์ให้ดูประหลาดใจเสียเหลือเกินกับข่าวที่ได้ยิน ทั้งที่ความเป็นจริง ‘ก็รู้ๆ กันอยู่’
คณานางค์ยิ้มรับเมื่ออีกคนส่งบทมาให้
“ใช่ค่ะ เรารักกันม้ากมาก แค่บางครั้งหยอกกันหนักมือไปหน่อย”
เพราะกลัวว่ายังไม่สมจริงพอ ทั้งคู่จึงโผเข้ากอดกันตัวกลมดิก แต่หามีใครรู้ไม่ว่ามือแต่ละข้างของนางแบบสาว ต่างจิกเล็บลงไปที่สะโพกของอีกฝ่าย ผลัดกันหยิกตรงนี้ที ตรงโน้นที
“งั้นเชิญพี่ๆ สัมภาษณ์คะน้าไปก่อนนะคะ เมอล่าขอตัวไปเข้าห้องน้ำสักครู่นึง ขอบคุณพี่ๆ นะคะสำหรับวันนี้ ไว้เจอกันใหม่ค่ะ”
ท่าทางโบกมือลาและย่างก้าวที่ยุรยาตรที่ค่อยๆ ผละห่างออกไป ช่างดูงดงามเหลือเกินในความคิดของคนเดิน แต่ในสายตาของคนมอง มันช่างน่าหมั่นไส้อย่างหาที่เปรียบไม่ได้จริงๆ
คณานางค์อยู่ตอบคำถามนักข่าวอยู่สักพัก ทั้งเรื่องงานใหม่ที่เธอได้รับ และเรื่องความรักของเธอที่มักจะเป็นข่าวกับดารานายแบบคนโน้นที คนนี้ที หรือแม้แต่ลูกนักธุรกิจดังๆ ก็ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาเป็นข่าวให้เจ้าหล่อนดูแบดเกิร์ลเข้าไปอีก และแน่นอนว่าการที่หญิงสาวเข้ามารับงานของทีเคฯ ย่อมเป็นการเปิดประเด็นให้นักเต้าข่าว หรือพวกนั่งเทียนทั้งหลาย อยากลองเล่นประเด็น พรีเซ็นเตอร์สาวสวยกับลูกชายทั้งสี่ของนาย ปริตร ธีรการณ์ นักธุรกิจหนุ่มใหญ่ อยู่ที่ว่าจะเป็นคนไหน ? แต่ไม่ว่าจะเป็นใครก็ต้องถูกจับตามองอยู่ดี
“นึกว่ากลัวจนหัวหดหนีกลับไปแล้วซะอีก”
คณานางค์ถอนหายใจ ก่อนจะเหลียวกลับไปมองต้นเสียงนั้น
“ยาย ‘เมอลิง’ เธอนี่มันไม่เจียมเอาซะเลย คราวที่แล้วถึงกับต้องนอนหยอดน้ำข้าวกล้องต้มไปหลายวันเลยไม่ใช่หรือไง ผ่านมาแค่ไม่กี่เดือนลืมซะแล้วเหรอจ๊ะ”
“ครั้งนั้นแกมันเล่นทีเผลอหรอก นังคะน้าเน่า” ด้วยความที่คันไม้คันมือเต็มทน เธอจึงจัดการกระชากผมอีกฝ่ายอย่างแรงในตอนที่เผลอ หวังจะเอามือไปกระแทกหน้าคู่อริสักสองสามทีเป็นอย่างต่ำ
แต่เพราะอีกฝ่ายไวกว่า จึงหมุนตัวพร้อมศีรษะเป็นวงกลม มือเล็กแต่พิษสงพอตัวจัดการกระชับมือที่กระชากผมตัวเองจนมั่น พร้อมทั้งจิกเล็บคมยาวที่ตะไบมาเป็นอย่างดีลงไปอย่างแรง พลิกตัวมาเป็นฝ่ายที่เหนือกว่า ก่อนจะผลักอีกฝ่ายจนกระเด็นไปกระแทกมุมผนัง
เธอเห็นเมอลาดิทเอามือมากุมท้อง คงจุกมาก แต่มีหรือคนอย่างคุณหนูคณานางค์จะปรานีศัตรู เธอจัดการเข้าไปตบซ้ำที่หน้าฉาบแป้งหนาเป็นเมตรของอีกฝ่ายอย่างแรง พร้อมทั้งจับศีรษะโขกกับกำแพงหวังจะให้ได้เย็บสักสองสามเข็มเป็นอย่างต่ำ
แต่เพราะไม่ทันตั้งตัวจึงเพลี่ยงพล้ำถูกฝ่ายตรงข้ามพลิกตัวมาจับเธอกดกระแทกไปที่ผนังกำแพงแทน แล้วแรงตบสามทีซ้อนก็ตามมาจนคณานางค์แทบไม่ทันได้ตั้งตัว
“ทางนั้นครับ ทางนั้น เร็วๆ พวกเรา มาช่วยกันแยกทั้งคู่หน่อย”
“ตายๆ ตายแน่ ฉันเคยเตือนแล้วนะว่าไม่ให้เอานางแบบคนนี้ ก็ไม่มีใครยอมฟัง”
“โถ่พี่ อย่างกับว่าพวกเราจะไปงัดข้อกับเส้นที่ใหญ่มหึมาของคุณเธอได้”
เสียงเอะอะโวยวายพร้อมฝีเท้าหลายคู่กำลังวิ่งมาทางเธอ แต่อะไรก็ไม่น่าหงุดหงิดเท่าเสียงตะโกนคุยกันของคนที่มา แม้จะไม่ได้ตั้งใจฟังแต่ก็พอจะรู้ว่าพวกเขาหมายถึงใคร
มันน่าโมโหนัก !