ตอนที่ 3 เที่ยวงานเทศกาลโคมไฟ

1117 Words
“เจ้าเป็นใครเหตุใดถึงออกมาเดินยามค่ำมืดเช่นนี้?” “เอ่อ...คือว่า” “ใต้เท้าของข้าถามพวกเจ้าเหตุใดถึงไม่ตอบ” “ไม่ต้องกลัวข้าไม่บอกใครหรอกว่าพบพวกเจ้าที่นี่เพียงแค่ห่วงว่าพวกเจ้าจะเป็นอันตรายก็เท่านั้น เป็นเพียงผู้หญิงมากันลำพังสองคนไม่กลัวหรืออย่างไร” “แล้วท่านเป็นใครกันเจ้าคะมาทำลับๆ ล่อๆ ตรงรั้วราชวังทำไมกัน” “นี่เจ้า! ใต้เท้าของข้าถามพวกเจ้าอยู่นะเหตุใดเจ้าถึงมาถามพวกข้ากลับกันเล่า” “กงอี้ ถอยไป” “ขอรับใต้เท้า” “ข้าเป็นเพียงขุนนางเล็กๆ ไม่ได้เป็นคนใหญ่คนโตอะไรหรอกก็เพียงแค่แวะมาหาหลานสาวข้าที่เป็นนางกำนัลตรงตำหนักของพระสนมลิ่งเฟยก็เท่านั้นเอง” “อย่างนี้นี่เอง” “แล้วตกลงว่าพวกเจ้าคือ” “พวกข้าเป็นนางกำนัลตำหนักหนิงเซียงเจ้าค่ะ” “ตำหนักหนิงเซียงงั้นหรือ?” บุรุษหน้าตาหล่อเหลาผู้นั้นรีบหันไปมองใบหน้าของผู้ติดตามของเขาทันที “ข้าว่าข้าก็คุ้นชื่อตำหนักแห่งนี้อยู่บ้างขอรับใต้เท้า” “ช่างเถอะ ว่าแต่พวกเจ้าสองคนจะไปไหนกันถึงได้ออกมาเดินค่ำๆ มืดๆ เช่นนี้ เจ้านายของพวกเจ้าอนุญาตให้ออกมาเช่นนั้นหรือ” “ก็ที่ทำลับๆ ล่อๆ ก็เพราะว่าแอบออกมานี่ล่ะเจ้าค่ะ” “ฮ่าฮ่าฮ่า นั่นสินะข้าก็คิดเอาไว้แล้วเชียว แล้วพวกเจ้าจะออกจากวังไปที่ไหนกัน” “ก็แค่อยากไปสำรวจในเมืองดูเสียหน่อยเจ้าค่ะ พวกข้าอยู่แต่ในวังมานานไม่ได้ออกไปไหนเลยมันน่าเบื่อมาก” “น่าเบื่อถึงเพียงนั้นเลยหรือ” “มากๆ เลยเจ้าค่ะ” “งั้นก็ไปกัน” “ไป? ไปไหนหรือเจ้าคะ” “ไปในเมืองอย่างไรเล่า ข้าจะนำทางพวกเจ้าไปเอง” จ้าวซูหลินหลี่ตาลงทั้งยังจ้องมองใบหน้าของเขาด้วยความไม่ไว้วางใจ เหตุใดถึงคิดจะพานางออกจากวังอย่างง่ายดายล่ะมีสิ่งใดแอบแฝงไว้หรือไม่นะ หรือว่า!... “เจ้าคิดอะไร ข้าเห็นว่าพวกเจ้าเป็นหญิงเดินทางไปกันเพียงลำพังหากเจอพวกคนร้ายเข้าจะทำอย่างไรกันล่ะ” “อย่างนั้นเองหรือ ก็ได้เจ้าค่ะขอบคุณนะเจ้าคะใต้เท้า” “ข้าแซ่โจวเรียกข้าว่าใต้เท้าโจวก็ได้” “เจ้าค่ะใต้เท้าโจว” จ้าวซูหลินยิ้มให้เขาเล็กน้อยก่อนจะเดินตามหลังของบุรุษทั้งสองคนไปยังประตูลับที่อยู่ถัดไปไม่ไกลกันนัก ไม่นานพวกเขาก็มายืนอยู่ตรงประตูไม้ที่ดูเก่าแก่แต่กลับถูกแกะสลักอย่างสวยงามปราณีตยิ่งนัก “เหตุใดข้าถึงไม่เคยเห็นประตูบานนี้เลยนะ” “ก็เพราะว่าเป็นประตูลับอย่างไรเล่า ไปกันเถอะ” “เจ้าค่ะ” พวกเขาเดินทางผ่านประตูไม้เก่าแก่แล้วเดินลัดเลาะออกจากเส้นทางป่ารกร้างไปสู่ถนนเข้าตัวหมู่บ้านก่อนจะมาโผล่ตรงชุมชนในเมืองหลวง ช่วงนี้เป็นเทศกาลโคมไฟจึงเห็นโคมไฟที่ถูกประดับประดาห้อยระโยงระยางเต็มเมืองไปหมดแสงจากโคมไฟนั้นส่องสว่างไปทั่วทั้งเมืองแลดูสวยงามยิ่งนัก “สวยจังเลย” จ้าวซูหลินเดินชมความงามของโคมไฟรอบๆ เมืองด้วยความตื่นตาตื่นใจ จะว่าไปตอนที่อยู่ในยุคที่นางจากมานั้นตัวนางเองก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตาทำงานไม่มีเวลาเที่ยวเล่นเหมือนคนอื่นเลย เช่นนั้นเมื่อทะลุมิติมาอยู่ในยุคนี้ก็ขอเที่ยวเล่นเสียหน่อยเถอะ “นายหญิง พวกเราซื้อโคมไฟไปปล่อยกันดีหรือไม่เจ้าคะ” “เจ้าทำเป็นหรือ” “ไม่เป็นหรอกเจ้าค่ะแต่ลองดูก็ได้นี่นา” “ได้ เจ้ารอตรงนี้นะ” “พี่ชายข้าขอซื้อโคมอันหนึ่งเท่าไหร่หรือเจ้าคะ” “ยี่สิบอีแปะขอรับแม่นาง” “นี่เจ้าคะ” จ้าวซูหลินยื่นเงินให้พ่อค้า เมื่อได้โคมไฟมาอยู่ในมือแล้วก็รีบวิ่งกลับมาหาซั่วอิงทันที “มาแล้วๆ ว่าแต่เจ้าแน่ใจนะว่าทำได้ แล้วจะเอาไฟจากที่ไหนกันดีล่ะ” “แม่นางให้ข้าช่วยหรือไม่” “อ้าวใต้เท้าข้าก็ลืมไปเสียสนิทเลยว่าท่านก็มาที่นี่ด้วย พวกข้าอยากปล่อยโคมเจ้าคะแต่ว่า…ข้าทำไม่เป็น” “ไม่เห็นยากเลยเอามานี่สิ ข้าช่วย” “ขอบคุณเจ้าค่ะ” ใต้เท้าโจวเห็นประกายความดีใจในแววตาของนาง จนเขาเองก็รู้สึกดีใจไปกับนางด้วย “กงอี้ไปเอาคบไฟมา” “ขอรับใต้เท้า” จ้าวซูหลินรู้สึกตื่นเต้นมากเพราะการปล่อยโคมไฟครั้งนี้ถือว่าครั้งแรกในชีวิตของนางเลยก็ว่าได้ โดยมีบุรุษผู้ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนมาช่วยปล่อยโคมไฟในครั้งนี้ “เจ้ามาจับตรงนี้ แล้วอธิษฐานของพรก่อนที่จะปล่อยโคมไฟ” “เจ้าค่ะ” จ้าวซูหลินจับที่ปลายโคมไฟด้านล่างที่อยู่ตรงข้ามกับใต้เท้าโจว ก่อนจะหลับตาตั้งใจอธิษฐานขอพรทันที ‘ขอให้ชีวิตของข้าในโลกใหม่นี้ราบรื่นไปตลอด ขอให้ได้พบบุรุษที่รักข้าจริงๆ และรับได้กับสิ่งที่ข้าเป็นด้วยเถิด’ ‘ช่างเป็นสตรีที่ดูเรียบง่ายแต่เมื่ออยู่ด้วยแล้วกลับมีชีวิตชีวาเสียจริง หากข้าเป็นเพียงบุรุษธรรมดาก็คงจะดีสิ’ “ข้าอธิษฐานเสร็จแล้ว ท่านจะอธิษฐานด้วยหรือไม่เจ้าคะ” “ไม่ล่ะ ข้าจะปล่อยเลยนะ” “เจ้าค่ะ” ทั้งสองค่อยๆ ปล่อยมือออกจากโคมไฟ โคมไฟกระดาษสีขาวที่มีแสงไฟสีเหลืองนวลจากเปลวไฟค่อยๆ ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า ลอยละลิ่วไปตามสายลมก่อนจะค่อยๆ ลับหายไปจากสายตาของนางทีละนิด บนท้องฟ้าในยามราตรีนี้มีแสงจากดวงดาวระยิบระยับไปทั่วทั้งท้องฟ้าและปะปนไปด้วยโคมไฟที่ทะยอยลอยขึ้นไปบนท้องฟ้ามากมาย ดูแล้วช่างสวยงามละลานตายิ่งนักสวยงามและดูเป็นอิสระในสายตาของจ้าวซูหลิน “สักวันหนึ่งข้าก็จะโบยบินออกจากวังหลวงเหมือนอย่างกับโคมไฟดวงนี้ของข้าเช่นกัน” ‘ความฝันของเจ้าคือการได้ออกจากวังเช่นนั้นหรือ?...’ ใต้เท้าโจวแอบมองรอยยิ้มของนาง รอยยิ้มที่ดูเหมือนโล่งใจและสบายใจดูมีความสุขที่เขาเองก็ไม่ค่อยจะพบเห็นจากใครเท่าใดนัก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD