ปอร์เช่รู้สึกตัวตื่นแต่เช้าด้วยความเคยชินที่ต้องตื่นเช้าเป็นประจำเพื่อลุกขึ้นมาตรวจและเซ็นเอกสารที่เลขาจัดเตรียมไว้ให้เป็นประจำทุกวัน ร่างหนานั่งพิงหัวเตียงสายตาจดจ้องที่หน้าจอไอแพดอย่างตั้งใจขณะกำลังนั่งตรวจสอบรายงานที่เลขาส่งมาให้ทางe-mailอยู่นั้นนิรินที่นอนหลับอยู่ข้างๆ รู้สึกตัวตื่นจากเสียงนาฬิกาปลุกที่วางอยู่บริเวณหัวเตียง ปอร์เช่เหลือบมองเวลาที่โชว์อยู่บนหน้าจอไอแพดซึ่งแสดงเวลาตี5เศษๆ
"อือ.." นิรินลุกขึ้นนั่งเอามือขยี้หัวตัวเองเบาๆ ทั้งที่ยังไม่ลืมตาด้วยซ้ำ
"รินตื่นทำไมแต่เช้าครับ วันนี้มีเรียน9โมงไม่ใช่เหรอ ตอนนี้พึ่งจะตี5เองนอนต่อเถอะ" ปอร์เช่พูดขึ้นพร้อมกับยื่นมือหนาปัดกลุ่มผมที่ปกคลุมใบหน้าคนตัวเล็กออกอย่างเบามือ
"แล้วพอร์ชตื่นมาทำอะไรแต่เช้าคะ? พึ่งนอนไปไม่กี่ชั่วโมงเองไม่ใช่เหรอ" นิรินไม่ได้สนใจสิ่งที่ปอร์เช่ถามออกไปก่อนหน้าสักนิด แต่สายตากับจ้องหน้าจอไอแพดของคนรักที่ตอนนี้เปิดโชว์แชตไลน์ที่กำลังคุยกับเลขาสาวอยู่
"ตอบคำถามพอร์ชก่อนครับไม่ใช่ให้ย้อนถามกลับแบบนี้" ปอร์เช่ดุนิรินกลับเบาๆ พร้อมทำหน้าดุใส่จนนิรินไม่พอใจ
"ตื่นมาอ่านหนังสือค่ะ ไม่ได้ตื่นมาแชตกับใครหรอก" นิรินตอบกลับปอร์เช่ด้วยน้ำเสียงประชดพร้อมชักสีหน้าใส่ว่าไม่พอใจอย่างมาก
"อย่ามาประชด โกรธพอร์ชเรื่องอะไร แค่ถามแค่นี้เอง"ปอร์เช่บ่นให้กับนิสัยเด็กๆของนิริน
"โธ่ ใครจะกล้าโกรธคุณปอร์เช่ละคะ นี่นิรินนะคะไม่ใช่คุณหวานใจ"นิรินเผลอพูดออกมาจนหมดจนปอร์เช่เข้าใจว่าทำไมแฟนสาวของตนถึงโกรธแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยแบบนี้ มันเป็นเพราะแบบนี้นี่เอง
"นี่คุณหวานครับ เธอเป็นเลขาของพอร์ช ส่วนแชตที่เห็นอยู่นี่ก็คุยกันเรื่องงานครับ เธอพึ่งส่งรายละเอียดโปรเจกต์งานตัวใหม่มาให้พอร์ช ซึ่งพอร์ชพึ่งอ่านจบไปเมื่อสักครู่ มันมีรายละเอียดบางช่วงที่พอร์ชไม่เคลียร์เลยแชตถามคุณหวานเขาและเขาพึ่งตอบพอร์ชกลับมาเมื่อกี้เอง"ปอร์เช่พยายามอธิบายรายละเอียดให้นิรินฟังอย่างใจเย็นพร้อมเปิดแชตที่คุยกับเลขาสาวให้นิรินดูทั้งหมดเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าเขาไม่ได้มีคนอื่นนอกจากนิรินคนเดียว
"ทีนี้หายงอนได้ยังครับ พอร์ชจะไปมีใครได้เพราะตอนนี้หรือ5ปีที่แล้ว I loved you alone" ปอร์เช่ถามกลับพร้อมประโยคสุดท้ายที่กระซิบข้างหูนิริน นิรินอายจนหน้าแดงและซุกหน้าเข้ากับอกแกร่งของปอร์เช่ทันที
"หึๆ เวลาอายนี่โคตรน่ารัก ถ้าอายแล้วเป็นแบบนี้ตลอดพอร์ชสัญญาว่าจะทำให้อายบ่อยๆ" ปอร์เช่พูดขึ้นสายตามองต่ำสบตาเข้าพอดีกับนิรินที่มองมายังปอร์เช่อยู่ก่อนหน้าแล้ว
"เลิกแกล้งรินได้แล้ว ระยะเวลาที่เราห่างกันเกือบ5ปี อะไรก็เปลี่ยนไปหลายอย่าง พอร์ชเล่าให้รินฟังบ้างสิว่าพอร์ชทำอะไรระหว่างที่รินไม่อยู่"นิรินพูดออกมาสีหน้าจริงจังจนปอร์เช่จำต้องเล่าทุกอย่างให้ฟังอย่างใจเย็น
"เมื่อได้รับข้อความจากริน ว่ารินทิ้งพอร์ชไป พอร์ชได้แต่ถามตัวเองว่าทำไม พยายามหาเหตุผลมาตอบตัวเองว่าทำไม จนมีความคิดหนึ่งเข้ามาในหัว เพราะพอร์ชไม่เก่งจนรินคิดว่าพอร์ชไม่สามารถดูแลรินได้ รินจึงทิ้งพอร์ชไป จากนั้นพอร์ชก็เริ่มศึกษาดูงานกับป๊าแบบจริงจังและเรียนหลักสูตรMBA จากStanford Graduate School of Business (USE) ใช้เวลา2ปีก็เรียนจบตอนนั้นพอร์ชพึ่งจะอายุ19และได้เข้ามาดูแลบริษัทในฐานะผู้บริหารสูงสุดหลังจากเรียนจบและใช้เวลาศึกษาดูงานและทำผลงานจนเป็นที่ยอมรับจากบอร์ดผู้บริหารเพียง3เดือน จนถึงตอนนี้" นิรินนั่งฟังสิ่งที่พูดเล่าจนน้ำตาคลอเพราะรู้สึกผิดที่ตัดสินใจทำแบบนั้นเมื่อ5ปีก่อน
"รินร้องไห้ทำไม ไม่ต้องดีใจขนาดนี้ก็ได้ว่ามีแฟนหล่อและเก่งแบบนี้"มือหนายื่นไปปาดน้ำตาที่ไหลออกมาเลอะใบหน้าคนตัวเล็กอย่างเบามือ
"รินขอโทษ ที่ตอนนั้นรินขี้ขลาดไม่กล้าขัดคำสั่งของแม่ ทำตามที่แม่ขอร้องเพราะรินเหลือแม่แค่คนเดียว อะไรที่รินทำได้รินก็ยินดีทำให้เขา"
"รินไม่ต้องขอโทษ พอร์ชบอกแล้วไง พอร์ชคิดว่าพอร์ชรับได้เมื่อรินเอ่ยบอกออกมา"ปอร์เช่พูดสวนขึ้นทันทีไม่อยากให้นิรินโทษตัวเองอยู่แบบนั้น
"พอร์ชว่าเป็นเรื่องดีซะอีก ที่ทำให้พอร์ชได้พิสูจน์ตัวเอง ว่าพอร์ชสามารถดูแลคนที่รัก ดูแลครอบครัวได้เป็นอย่างดี" ปอร์เช่พยายามหาเหตุผลมาอธิบายเพื่อให้ทุกคนเข้าใจ
"จะอ่านหนังสือเล่มไหนเดี๋ยวพอร์ชหยิบให้หรือสนใจอยากอ่านเล่มนี้ก็ยินดีครับ" ปอร์เช่พูดขึ้นพร้อมชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง จนนิรินทุบเข้าที่อกแกร่งหนึ่งที
"พอร์ชก็เรียนจบแล้วไหนจะต้องทำงานอีก พอร์ชจะไปเรียนต่อให้เหนื่อยอีกทำไม" นิรินถามขึ้นอย่างสงสัย
"พอร์ชแค่อยากมีเพื่อน อยากรู้ว่าชีวิตนักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยเขาเป็นยังไง จึงสมัครเรียนพร้อมกับเพื่อนรุ่นเดียวกัน" ปอร์เช่เล่าถึงเหตุผลให้นิรินฟัง
"เก่งจัง..ไหนจะต้องเรียนไหนจะต้องทำงานอีก"นิรินอดไม่ได้ที่จะเอ่ยชมคนรักของตน
"เก่งแล้วรักไหมครับคนสวย" ปอร์เช่กระซิบถามข้างหูพร้อมกับจุ๊บซอกคอไปหนึ่งทีจนนิรินขนลุกและรีบลุกจากเตียงเดินไปหยิบหนังสือที่โต๊ะทันที
"หึ เวลาเขินน่ารักชะมัด น่าจับมาฟัดสักทีสองทีอดทนไว้ไอ้พอร์ช " ปอร์เช่บ่นกับตัวเองเบาๆ พร้อมสาวเท้ายาวลงจากเตียงตรงดิ่งเข้าห้องน้ำทันที
ปอร์เช่สาวเท้ายาวลงจากเตียงอย่างเร่งรีบท่ามกลางความงุนงงของนิริน
"อ๊า..ริน..อ๊าๆๆ" เสียงดังเล็ดลอดออกมาจากห้องน้ำ ซึ่งคนฟังสามารถจินตนาการได้ว่าภายในห้องน้ำตอนนี้กำลังเกิดอะไรขึ้น นิรินเมื่อได้ยินดังนั้นเกิดอาการตื่นเต้น หน้าร้อนผ่าว หัวใจเต้นแรงและเร็วผิดปกติราวกับว่าตกอยู่ในสถานการณ์ที่ตื่นเต้นยากจะควบคุม
เวลาผ่านไปสักพักเสียงดังกล่าวได้เงียบลง นิรินพยายามทำตัวให้ปกติที่สุด ทำเสมือนว่าไม่ได้ยินอะไรก่อนหน้านั้นเลย พยายามตั้งสติและสมาธิอยู่กับตำราตรงหน้า
"อ่านหนังสือเหรอครับ" ปอร์เช่เปิดประตูห้องน้ำออกมาใบหน้าเต็มไปด้วยหยดน้ำที่เกาะอยู่ รับรู้ได้ว่าพึ่งผ่านการล้างหน้ามาหมาดๆ
"ค่ะ" ตอบกลับชายหนุ่มแต่สายตายังจ้องตัวหนังสือตรงหน้าไม่วางตาเพราะตอนนี้ไม่กล้าแม้แต่สบตากับชายหนุ่ม
ปอร์เช่ก้าวเท้ายาวกลับขึ้นไปนั่งบนเตียงหลังจากเช็ดใบหน้าจนแห้งสนิท ไหล่กว้างพิงหัวเตียงนิ้วเรียวยาวแตะเลื่อนบนหน้าจอไอแพดไล่ดูรายละเอียดงานต่างๆ ที่ทางเลขาสาวส่งมาเพราะหลังจากที่กลับจากค่ายอาสาครั้งนั้น ปอร์เช่ก็ยังไม่ได้เข้าไปดูงานที่บริษัทเลยเพราะมัวแต่ยุ่งกับเรื่องเรียนและอีกเรื่องที่มีผลกระทบกับการจัดสรรเวลาของเขามากก็คงหนีไม่พ้นคนตัวเล็กที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงหน้า
"รินครับ หยิบหนังสือมาอ่านตรงนี้ได้ไหม" ปอร์เช่เริ่มสมาธิไขว้เขวไปสนใจอย่างอื่นมากกว่ารายงานมูลค่าหลายล้านที่รอเขาตัดสินใจอยู่ตรงหน้า
"เอ่อ..รินกลัวจะรบกวนสมาธิการทำงานของพอร์ชน่ะค่ะ" นิรินตอบกลับเสียงหวานพร้อมกับรอยยิ้มสดใสส่งมาให้ชายหนุ่มที่ตอนนี้ไม่มีสมาธิทำงานเอาเสียเลย
"มาเถอะครับ พอร์ชขอร้อง ไม่งั้นวันนี้พอร์ชอาจจะทำเงินหลายล้านบาทหลุดมือก็เป็นแน่" ส่งสายตาเว้าวอนไปยังนิรินที่มองสบตาอยู่ก่อนหน้า
"นะครับคนดี" เมื่อยังไม่เห็นนิรินมีทีท่าว่าจะขยับลุกขึ้น จึงงัดไม้ตายไม้สุดท้าย ปล่อยลูกอ้อนสุดๆ แม้จะขัดกับบุคลิกเจ้าชายน้ำแข็งในสายตาของใครๆ
"แน่ใจนะคะว่าจะให้รินไปนั่งอ่านหนังสือข้างๆ แล้วจะไม่รบกวนพอร์ช" นิรินถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
"แน่ที่สุดครับ ลุกมาเถอะครับ พอร์ชต้องให้คำตอบเขาก่อน7โมงเช้า ไม่งั้นเงิน50ล้านคงจะลอยหายไปทันทีถ้ารินไม่ลุกมา เงินนี้เราสามารถเก็บไว้ให้ลูกเราในอนาคตได้เลยนะครับ" ปอร์เช่อ้อนสุดตัวเพื่อที่จะให้คนรักมานั่งข้างๆ เพราะตอนนี้เขาโหยหานิรินเป็นอย่างมากจนไม่มีสมาธิที่จะทำงานสำคัญตรงหน้าต่อไปได้
ร่างเล็กลุกขึ้นหยิบตำราเล่มหนา ก้าวเท้าขึ้นไปนั่งบนเตียงข้างๆ ปอร์เช่
"ขอหอมทีหนึ่งได้ไหม ตอนนี้พอร์ชไม่มีเรี่ยวแรงทำงานเลย" ออดอ้อนเสียงอ่อนเสียงหวาน ใบหน้าแสดงอาการวิงวอน ขอร้อง ได้โปรด
"ตั้งใจทำงานค่ะ" นิรินถอนหายใจยาวๆ พลางส่ายหัวเบาๆ กับอาการที่เป็นอยู่ของปอร์เช่ตอนนี้
"โธ่ริน พอร์ชขอเติมพลังหน่อย นิดเดียว สัญญา" น้ำเสียงออดอ้อน พร้อมกับเกยกางบนไหล่บาง ส่งสายตาอ้อนปริบๆ เหมือนเด็ก3ขวบอ้อนอยากกินขนม
"เล่นเป็นเด็ก จะหอมก็รีบหอม ทีก่อนหน้านั้นไม่เห็นจะขอ" ร่างบางบ่นอุบอิบไม่จริงจังนัก
"ฟอด ฟอด จุ๊บ" มือหนายื่นมาประคองใบหน้าเล็กให้อยู่ในองศาที่พอเหมาะ ริมฝีปากได้รูปยื่นไปสัมผัสแก้มเนียนทั้งสองฝั่งพลางสูดดมความหอมจากแก้มขาวทั้งสองข้างเข้าปอด พร้อมกับจุ๊บริมฝีปากบางได้รูปไปหนึ่งทีก็รีบถอนออกทั้งที่ใจอยากทำมากกว่านี้