ตอนที่ 5 / ใครคือผัว

1582 Words
"นี่แก คุณไลลากับคุณรุธเหมาะสมกันมากเลย สวยหล่อทั้งคู่ ดีนะ ขนาดป่วยแท้ ๆ ยังดูแลไม่ห่าง คุณไลลาโคตรจะโชคดี" เสียงแม่บ้านดังขึ้นไม่ไกลจากบริเวณที่ฉันนั่งอยู่ หลังจากที่ใช้ชีวิตอยู่กับลีไปสามวันเต็ม ฉันก็ถูกเรียกตัวกลับบ้านโดยด่วน เพราะกำลังจะมีงานใหญ่เกิดขึ้น งานแต่งงานของพี่สาวไม่แท้ และ อดีตคนรักกำลังจะจัดขึ้นในอีกห้าวันข้างหน้า ฉันผิด ที่ปกปิดสถานะนี้ไว้ไม่บอกใคร ด้วยความคิดน้อยว่าเขาจะไม่เป็นอะไรถ้าปิดบังไว้ แต่มันไม่ใช่ ในเมื่อเขาต้องการความชัดเจนจากตัวฉันบ้าง ฉันก็แค่ผู้หญิงที่ยังยากเที่ยว อยากสนุก จึงชอบบอกใครต่อใครว่าตัวเอง 'โสด' ทั้งที่มันไม่ใช่ แล้วมันก็ดันเป็นอย่างที่บอกใครต่อใครไว้ สุดท้ายฉันก็ได้โสดสมใจ เพราะไม่ชัดเจนต่อความสัมพันธ์เอง "คุณลินดาคะ คุณตี้มาหาค่ะ" แม่บ้านเดินมาบอก ฉันจึงพยักหน้าแล้วลุกออกจากตรงนี้ทันที เมื่อเดินผ่านพี่สาวที่เคย 'แสนดี' ฉันตั้งใจเมินหน้าหนีเพราะยัง 'โกรธ' โกรธที่เธอรู้ดี แต่ก็ยังเลือกที่จะเข้ามาแทรกกลาง ฉันไม่โทษใคร ไม่ว่าจะพี่ หรือคนรักเก่า เขาคงเป็นคู่กัน ไม่อย่างนั้นคงไม่ลงเอยกันในระยะเวลาแสนสั้นแบบนี้หรอก แต่ก็ไม่ได้สั้นมากหรอก เมื่อเขาลักลอบทำมานานพอควรแล้ว "ใกล้ตายรึยัง" นั่นคือคำทักทายแรกของการเจอกันในรอบสามวัน 'ตี้' เพื่อนสนิทแสนสวย แต่เรื่องความรัก ก็ 'ซวย' ไม่ต่างจากฉันเท่าไหร่ "เหมือนมึงเมื่อสามเดือนที่แล้วอะ" ฉันกัดเบา ๆ ตอนนั้นเหมือนมันจะตายอะ ที่รู้ว่าคนที่บอกให้รอ ไปแต่งงานกับสาวอีกคน ทั้งยังแถมลูกมาด้วยอีกสองคน สวยก็ใช่ว่าจะโชคดีเรื่องความรักนะ! "กัด กัด สงสารหรอกอีสัส ไม่งั้นนะ เงินก็ซื้อกูมาไม่ได้" "กูบอกพี่ 'กี้' ก็ได้" "เงียบเลยนะ กูยิ่งเกลียดมัน" ตี้ตวาดดังลั่น ทำหน้าหงุดหงิดใส่ฉัน เมื่อพาดพิงไปถึงคนที่เป็น 'คู่กัด' กับมัน ในขณะที่ฉันกำลังกัดกับ 'ตี้' อยู่นั้น "อ้าวหนูตี้ มาพอดีเลย จะได้ไปลองชุดกัน" แม่ฉันเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม มันเป็นยิ้มที่จริงใจ ต่างจากคนที่เดินตามหลังมา ที่มีสีหน้าสลดเมื่อสบตากับฉัน "แม่ สวัสดีค่ะ" ตี้ยกมือไหว้ "จ้า ไปกันเถอะ นัดเขาไว้สิบโมง" ฉันนั่งรถของตี้ ส่วนแม่กับพี่ไลลาก็นั่งรถของที่บ้านไปอีกคัน ที่ที่เราจะไปกันนั้น ก็คือร้านขาย-เช่าชุดเวดดิ้งชื่อดัง ที่ครบครันเรื่องเกี่ยวกับงานแต่งตั้งแต่หัวจรดเท้า เรื่องราวของฉัน ไม่มีใครทราบนัก เพราะฉันไม่บอกใครว่าใครกันที่คบหา จนมาโดนฉกไปนี่ล่ะ! "คิดไงวะ ให้มาเป็นเพื่อนเจ้าสาวเนี่ย" ตี้กระซิบเบา ๆ ในขณะที่เรากำลังจะเปลี่ยนชุดเป็นธีมเพื่อนเจ้าสาวกัน โดยเพื่อนเจ้าสาวมีกันห้าคน มีฉัน ตี้ และ เพื่อนพี่ไลลาอีกสามคน ฉันไม่ได้อยากทำ แต่แม่ฉันดันมาขอด้วยตัวเอง เลยต้องยอม ท่านไม่ใช่แม่แท้ ๆ แต่ก็เลี้ยงดูมาดั่งลูกแท้ ๆ "น้องก็ต้องช่วยพี่ดิ" ฉันทำเป็นว่าโอเค ทั้งที่พึ่งคายเรื่องนี้ให้ตี้ฟังหมดเปลือก เพราะน้ำเมา ตี้ไม่ด่า ไม่ปลอบ เพียงแต่พากันกระดกเหล้าด้วยกันจนฟ้าสว่าง "ตอแหลอีสัส" ตี้ตอกมา เอาแทบหงาย มาลองชุดกันอีกครั้ง ปรับแก้ก่อนวันจริง เพื่อที่จะได้สมบูรณ์แบบกันทุกคน งานแต่งทั้งที พี่ไลลาไม่อยากให้มีอะไรผิดพลาด "ลูกสาวแม่สวยจังเลย เมื่อไหร่จะพาแฟนมาเปิดตัวจ๊ะ" พอฉันเดินออกมา ก็พบเข้ากับสายตาแม่ที่ยืนขึ้นทันทีที่เห็นร่างของฉัน เธอคิดว่าฉันมีแฟน พอฉันปฏิเสธไป แม่ก็เลยบอกว่าจะแนะนำบางคนให้ ฉันเลยตรงไปหา 'ลี' แล้วขอมันแต่งงาน มันดันคิดจริง มันจะเอาฉันจริง ๆ !!! "ถ้าไม่มี แม่จะบังคับใช่มั้ยคะ" ฉันถามท่าน "แน่นอนค่ะ" แม่ตอบหนักแน่น แล้วถ่ายรูปของฉันติดมือถือไว้ มองหน้าท่านทีไร ไม่กล้าแม้จะบอกเรื่องราวด้วยซ้ำ ท่านมีพระคุณมากจริง ๆ ทั้งที่ฉันเป็นลูกเมียน้อยของพ่อ แต่แม่ก็ยังเอ็นดูฉันมาก ๆ แม่จะต้องผิดหวังน่าดู ถ้ารู้ความจริงว่าคนที่ควรแต่งงานคือฉัน ไม่ใช่พี่ไลลา แต่ทว่า..... พี่ไลลากำลังตั้งท้อง! นั่นยิ่งทำให้ฉันต้องปิดปากเงียบ ยอมเจ็บดีกว่า สร้างความร้าวฉานให้แก่ครอบครัว แบบนั้น มันไม่ดี "ต้องพามาในงานของพี่เขานะ ลินดา" แม่ยังไม่ยอมเลิกลา ที่จะหาใครมาให้หากยังไม่มีผู้ชายเป็นตัวเป็นตน ซึ่งคำแนะนำในการไปหาลีก็คือ 'ตี้' คนพาลนั่นเอง ตี้บอกให้หาคนที่ไว้ใจได้ และ สามารถใช้มาเล่นละครตบตาแม่ได้ดี เพราะฉันอายุเลยวัยมามากแล้ว ควรแต่งงานมีครอบครัวได้แล้ว ฉันกับพี่ไลลาอายุเท่ากัน ห่างกันแค่หกเดือน แต่ต้องเรียกพี่ เพราะมีศักดิ์เป็นพี่ แม่ฉันเสียทันทีที่คลอดด้วยโรคประจำตัวที่เป็นอยู่ แม่เลยรับฉันมาเลี้ยงดูตั้งแต่แรกเกิดเลย "ค่ะ เขาว่าจะมาอยู่ค่ะ" เพราะฉันขอลีไว้แล้ว เหลือก็แค่มันจะมามั้ย แค่นั้น "ไม่ใช่หาเอาเพื่อนมาหลอกแม่นะ ลินดา" แม่ดักทาง อย่างคนรู้ทัน หวังว่าลีคงตบตาแม่ได้บ้าง "หนูไม่ทำแบบนั้นหรอกค่ะ" ฉันยิ้มยืนยัน แต่ก็หวังให้แม่เลิกจับพิรุธกัน ฉันจะได้เตรียมแผนบอกลีได้ทัน ไม่อย่างนั้น งานฉันคงเป็นคิวต่อไป และเจ้าบ่าว อาจไม่ใช่ 'ลี' ผ่านไปอีกหนึ่งวัน ฉันไม่เจอหรอกว่าที่เจ้าบ่าวที่เป็นคนรักเก่าน่ะ ไม่รู้มีฤกษ์งามยามดีมาจากไหน เพราะทั้งสองบ้านงดให้ว่าที่คู่บ่าวสาวเจอกันเป็นระยะเวลาสิบวันจนกว่าจะเข้าพิธี แล้วตอนนี้ ก็ถึงเวลาที่ควรจะ 'เมา' "ไปผับพี่กี้กันเถอะ" ฉันชวนเพื่อนสาว ที่เป็นคู่กัดกับเจ้าของผับ แต่ไปทีไร ได้กินฟรีทุกครั้ง พิศวาสฉัน มันก็ไม่ใช่ สนิทกับฉัน มันก็ไม่ใช่อีก เขาเล็งเพื่อนของฉัน ไม่งั้นไม่หาเรื่องมาโต้ตอบกันทุกครั้งที่เจอหรอก "เบื่อขี้หน้า" ตี้ทำหน้าเซ็ง แต่ก็ไปทุกครั้งที่ฉันเอ่ยปากชวน "ได้กันแล้วล่ะซี้ กูรู้หรอกหน่า" "กูเข็ดอยู่ มึงก็รู้" ตี้ใส่อารมณ์ "รู้ ..... แต่มึงก็เอาไปแล้ว" "แล้วไง มันก็ไม่แปลก น้ำแตกก็บาย" ตี้ขับรถด้วยท่าทีหยิ่ง ๆ มันก็ไม่แปลกจริง ๆ แหละ แต่ถ้ารักกันจริงขึ้นมา มันจะเป็นยังไง ถึงเวลาที่ใครบางคนอาจหลับไหลไปแล้ว แต่ไม่ใช่ฉันกับตี้ "อีตี้ แล้วแบบนี้ใครจะขับกลับห้ะ" เสียงยานถูกเปล่งออกจากปากของฉัน โดยที่เราสองคนดวลเบียร์กันก่อน แล้วขยับมาดวลเหล้า แล้วค่อยไต่เต้ามากระดกแบบ เพียว ๆ "ก็บอกแล้ว วะ ว่า อย่าท้ากู" เสียงอีตี้ที่เหมือนจะดังอยู่ด้านซ้าย แต่ก็เหมือนได้ยินทางด้านขวา ถ้าหูไม่ผิดเพี้ยน มันเหมือนดังอยู่ตรงหน้ามากกว่านะ ไม่น่าท้าจนเมาขนาดนี้เลย! "สภาพ จุ๊ จุ๊" อันนี้เสียงผู้ชาย แล้วคือใคร? "ตี้ มีสติหน่อย" นี่ก็เสียงผู้ชาย พวกเขาคือครายยย เสียงง้องแง้งของสิ่งที่อยู่รอบกายตอนนี้ ฉันฟังไม่ถนัดนัก แต่รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังล่องลอยบนอากาศ ก่อนจะถูกวางเบา ๆ ที่ไหนสักที่ ร่างกายสำผัสได้ถึงความนุ่มนิ่มน่านอน "กินเหล้าเก่งนะ" ใครมันมากระซิบกระซาบอะไร ขนลุก!!! "เมาแบบนี้ เดี๋ยวจะโดนฉุดสักวัน" ยังไม่หยุดกระซิบอีก แล้วมาเป่าลมใส่หูทำมายยย "ไม่เมาสักหน่อย" ฉันเถียง ทั้งที่ไม่รู้ว่ากำลังสนทนากับใคร แต่ฟังแล้วมันคือเสียงผู้ชาย "ถ้าเมา จะลากไปเอานะ" มือเขาเริ่มลูบไล้แขนฉันเบา ๆ "ไม่เอา" "เล้าโลมให้อยาก โอเคมั้ย" ลมร้อน ๆ มารดใบหน้า เท่ากับว่า เขาคนนี้ก้มหน้ามาชิดกันแล้ว "ไม่ โอ เค" "งั้นจูบหนึ่งที" ใครมันขี้ตื้อจัง นิสัยมึน ๆ แบบนี้ คุ้น ๆ ว่าเหมือนใคร "ลีเหรอ?" แต่มันจะเป็นไปได้ไง ลีไม่ได้อยู่ที่นี่ ขับรถก็สองชั่วโมงถึงจะโผล่นี่ "ไม่ใช่" เขาตอบปฏิเสธ "แล้วใคร?" "ผัว"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD