ปึง ๆ ๆ ๆ
ฉันไม่กดออดให้เสียเวลาอีกต่อไป เพราะคนข้างในไม่มีทีท่าจะมาเปิดประตูสักที มือระดมทุบบานประตูซ้ำ ๆ สัมผัสได้ว่าด้านหลังยังมีร่างสูงของเสือพยัคฆ์ยืนอยู่ นึกว่าเขาจะกลับห้องไปแล้วซะอีก
“สิงห์คำราม! เปิดประตูให้ฉันเดี๋ยวนี้นะ!!” ฉันตะโกนอย่างหัวเสีย นี่เขาทนฟังเสียงทุบประตูกับเสียงออดดังติด ๆ กันแบบนี้ได้ยังไงนะ ไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ!
“ฉันบอกเธอแล้วว่าไอ้เฮียมันไม่เปิดประตูให้ง่าย ๆ หรอก”
“แต่ครั้งก่อนเขาก็ยอมเปิดประตูให้นี่!” ฉันหยุดทุบประตูแล้วหันมาใส่อารมณ์ใส่เสือพยัคฆ์แทน ยิ่งเห็นหน้าเขาก็ยิ่งโมโห
“ครั้งนั้นกับครั้งนี้มันอาจไม่เหมือนกันไง”
“ยังไง?!” ฉันไม่เข้าใจเลย! ทั้งที่มันก็เหมือนกันแท้ ๆ ฉันก็แค่มารับสายซอกลับบ้าน เขาก็ควรจะปล่อยน้องฉันกลับสิ!
แกร๊ก
และก่อนที่เสือพยัคฆ์จะได้พูดอะไร เสียงปลดล็อคประตูดังขัดพวกเราซะก่อน ฉันหันขวับกลับมามองร่างสูงที่เปิดประตูออกมาด้วยสีหน้าเย็นชา ใบหน้าหล่อเหลาของเขาไร้ความรู้สึกเหมือนเคย ทว่าแววตากลับมีแววคุกรุ่น ถามว่ากลัวไหม? ก็ไม่
“ฉันมารับสายซอ น้องฉันอยู่ที่ไหน?”
ไม่พูดพร่ำทำเพลงให้มากความ ฉันมองข้ามไหล่สูง ๆ ของสิงห์คำรามเข้าไปในห้องและพบว่ามันมืดสลัวไปหมดราวกับว่าในห้องนั้นไม่มีใครอยู่เลยนอกจากเขา
“สายซอ! แกได้ยินเจ้ไหม?!” ฉันทำท่าจะพุ่งตัวเข้าไปในห้องแต่ถูกวงแขนแกร่งของผู้ชายด้านหลังรวบเอวไว้ซะก่อน ตวัดสายตามองเขาด้วยความโมโห หมอนี่เป็นบ้าอะไร?! จู่ ๆ มารั้งฉันไว้ทำไม? “ปล่อยฉันนะ! ฉันจะเข้าไปหาน้อง!”
“ใจเย็นก่อนขิม ฉันว่าน้องเธอคงไม่ได้อยู่ในนั้นแล้วว่ะ” เสียงของเขาดังใกล้หูฉันมาก แต่ตอนนี้ไม่มีเวลามาสนใจเรื่องนั้นแล้ว
“หมายความว่ายังไง? ก็ฉันเห็นกับตาว่ายัยซอนั่งอยู่บนรถคันนั้น แล้วรถนั่นก็จอดอยู่ข้างล่าง นายเป็นคนบอกเองว่ารถคันนั้นเป็นของเฮียนายไง”
“ก็เออ เธอใจเย็นก่อน”
เสือพยัคฆ์ขมวดคิ้วยุ่งยากใจก่อนจะมองพี่ชายตัวเองที่จนถึงตอนนี้ก็เอาแต่ยืนพิงประตูมองพวกเราด้วยสายตาเย็นชาไร้อารมณ์ไม่เปลี่ยน เชื่อเขาเลย!
“น้องสาวยัยนี่อยู่ที่ไหนวะไอ้เฮีย ถ้าไม่ได้อยู่ในห้องมึงแล้วตอนนี้เธออยู่ไหน?”
“…” สิงห์คำรามหลุบตามองฉันชั่วครู่ก่อนจะเลื่อนกลับไปมองน้องชายตัวเองแล้วตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “ไม่รู้”
“หะ?” ฉันสะบัดมือหนาออกจากเอวตัวเอง เงยหน้าขึ้นจ้องตากับร่างสูงตรงหน้า “น้องฉันนั่งรถมากับนาย แต่นายกลับบอกว่าไม่รู้ว่าน้องฉันอยู่ไหนงั้นเหรอ? หมายความว่ายังไง?”
“ฉันทิ้งยัยนั่นไว้กลางทาง จบมั้ย?”
“…” คำตอบของเขาทำฉันสตั้นไปหลายวินาที รู้สึกตัวอีกทีตอนประตูห้องกำลังจะปิด
ปึง!
ฉันออกแรงผลักประตูเปิดออกแล้วก้าวเข้าไปประชิดตัวสิงห์คำราม สีหน้าเขาไม่มีแววตื่นตระหนกสักนิด ไม่สิ มันยังนิ่งไม่เปลี่ยนเลยต่างหาก
“นายทิ้งน้องฉันไว้กลางทางงั้นเหรอ?”
“ออกไป” เขาไม่ตอบคำถามแต่กลับไล่ฉันแทน แต่ฉันไม่กลัว!
“ตอบมา! นายทิ้งน้องฉันไว้ที่ไหน?!” คราวนี้ฉันกระชากคอเสื้อเขาอย่างไม่กลัวตาย
ใคร ๆ ก็บอกว่าเสือพยัคฆ์น่ะร้าย แต่ยังไม่อันตรายเท่าพี่ชายของเขา สิงห์คำรามขึ้นชื่อด้านความเย็นชาไร้หัวใจและเลือดเย็น หากคนน้องเปรียบเสมือนเพลิงไฟแผดเผาทะลุจุดเดือด คนพี่ก็เปรียบเสมือนน้ำแข็งขั้วโลกทะลุจุดเหยือกแข็งไม่แพ้กัน
“เอาผู้หญิงของมึงออกไปซะไอ้เสือ” น้ำเสียงของสิงห์คำรามเย็นยะเยือกมาก เขาเหมือนคนใจเย็น แต่เปล่าเลย ฉันคิดว่าเขากำลังหงุดหงิดขั้นสุดมากกว่า
“ช่วยไม่ได้ว่ะ ยัยนี่เวลาเดือดแล้วเอาเรื่องฉิบหาย กูรู้ว่ามึงไม่ทำร้ายผู้หญิง งั้นก็ตอบ ๆ ไปเหอะว่าทิ้งน้องสาวเธอไว้ที่ไหน” แทนที่เสือพยัคฆ์จะมาดึงฉันออกไปตามคำสั่งของพี่ชาย ทว่าเขากลับยืนกอดอกยักไหล่เบา ๆ เป็นเชิงว่าไม่อยากยุ่ง แถมยังพูดสนับสนุนฉันด้วยซ้ำ
บางทีหมอนี่ก็ไม่ได้น่ารังเกียจซะทีเดียวหรอกนะ…
“ดี…”
หมับ
พรึ่บ
ฉันรู้สึกเหมือนโลกหมุนกะทันหัน หลังจากสิงห์คำรามพูดจบเขาจับข้อมือฉันแล้วพลิกตัวสลับตำแหน่ง กลายเป็นว่าฉันถูกเขาจับกดกับผนังแทน แถมมือที่เคยกระชากคอเสื้อเขาตอนนี้ถูกล็อคไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียว และมันจะไม่น่าตกใจเลยถ้ามืออีกข้างของเขาไม่รวบเอวฉันแน่นเสียจนส่วนล่างของเราแนบชิดกัน การกระทำกะทันหันของเขาทำให้ฉันตกใจจนยืนนิ่งเป็นหินไปเลย
“กูเตือนมึงแล้วนะไอ้เสือ” ตอนพูดประโยคนี้สิงห์คำรามไม่ได้มองหน้าฉัน แต่กลับมองไปทางอื่น พอมองตามสายตาเขาไปก็พบว่าสีหน้าของเสือพยัคฆ์ถมึงทึงอย่างเห็นได้ชัด
“ไม่ตลก ปล่อยเธอซะ” เสือพยัคฆ์เดินเข้ามากระชากไหล่พี่ชายตัวเองให้ถอยออกห่างจากฉัน ซึ่งสิงห์คำรามยอมถอยโดยง่าย ทว่ามือหนายังจับข้อมือฉันอยู่ “กูบอกให้ปล่อยไง”
“ฮึ” ข้อมือฉันเป็นอิสระในที่สุด เสือพยัคฆ์ดึงฉันออกมาจากห้อง ขณะที่ฉันยังตามสถานการณ์ไม่ทัน เมื่อเราทั้งคู่เดินพ้นประตูออกมา เสียงเย็นชาลอยตามหลังก่อนประตูจะปิดลง “ยัยนั่นกลับบ้านไปแล้ว”
ปัง
ว่าไงนะ?
ฉันหันขวับกลับมามองบานประตูห้องของสิงห์คำรามแทบจะทันที เมื่อกี้เขาบอกว่าสายซอกลับบ้านไปแล้วงั้นเหรอ? แล้วที่พูดว่าทิ้งไว้กลางทางนั่นคืออะไร? ฉันงงไปหมดแล้ว!