ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดต่อสายหาสายซึงทันที ถ้าสายซอกลับบ้านแล้ว สายซึงก็น่าจะเห็น รอสายไม่นานปลายสายก็กดรับ
“ฮัลโหลซึง ยัยซอกลับบ้านหรือยัง?”
[กลับมาแล้ว สภาพน่าสมเพชสุด ๆ เหอะ] ฉันถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่ก็อดถามถึงประโยคหลังของน้องชายไม่ได้
“หมายความว่ายังไง ยัยซอเป็นอะไรหรือเปล่า?”
[ไม่รู้ กลับมาดูใจน้องสาวสุดที่รักเจ้เองเหอะ แค่นี้นะจะเล่นเกม]
“เดี๋ยว… ไอ้บ้านี่ เห็นเกมดีกว่าพี่สาวตัวเองเรอะ!” ฉันบ่นใส่โทรศัพท์ที่สายถูกตัดไปแล้ว พอเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าเงยหน้าขึ้นมองก็พบกับสายตาคม ๆ จ้องมองมา สีหน้าเสือพยัคฆ์ยังถมึงทึงไม่หาย จู่ ๆ หมอนี่เป็นอะไรไปอีกล่ะเนี่ย ไม่รู้ด้วยแล้ว สายซอปลอดภัยแล้ว ฉันก็ควรกลับบ้านสักที
“จะไปไหน?” กดปุ่มลิฟต์ปุ๊บก็ถูกร่างสูงใหญ่ขวางทางปั๊บเลย
“กลับบ้าน น้องฉันกลับถึงบ้านแล้ว ฉันก็ควรกลับเหมือนกัน”
“อ้อ… พอรู้ว่าน้องตัวเองปลอดภัยก็รีบกลับเลยว่างั้น?”
“แหงสิ หลบไป ลิฟต์มาแล้ว” ฉันผลักเขาหลบไปด้านข้างแล้วเดินเข้าลิฟต์กดปุ่มปิดประตูรัว ๆ ทว่าประตูที่กำลังปิดถูกมือหนากั้นไว้ก่อนเจ้าตัวจะแทรกเข้ามา ฉันถอยหลังกรูด้วยความระแวดระวังทันที “เข้ามาทำไม ห้องนายอยู่ชั้นนี้ไม่ใช่หรือไง?”
เสือพยัคฆ์หันไปกดปุ่มล็อคประตูลิฟต์ ซึ่งปุ่มนี้มีไว้สำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวจนกว่าจะถึงชั้นที่หมาย นั่นหมายความว่ามันจะไม่หยุดตามชั้นต่าง ๆ ที่มีคนกดปุ่มรอ
“วันนี้ฉันช่วยเธอไว้หลายครั้งเลยนะขิม” เขาหันกลับมาพูดกับฉัน เรายืนประจันหน้ากันโดยห่างจากกันแค่สองก้าว
“แล้วยังไง? จะทวงบุญคุณ?”
“ก็คิดอยู่”
“เหอะ เผื่อนายจะลืม ฉันไม่เคยขอให้ช่วย มีแต่นายเสนอหน้าเองไม่ใช่?” ฉันยืนกอดอกเลื่อนสายตามองเลขชั้นของลิฟต์ที่ค่อย ๆ ไล่ระดับต่ำลงเรื่อย ๆ อีกไม่กี่ชั้นก็จะถึงชั้นล่างแล้ว อดทนอีกหน่อยสายขิม
“จะบอกว่าฉันเสือกเอง?” น้ำเสียงเขายียวนไม่แพ้หน้าตาเลย
“ก็แล้วแต่นายจะคิด” ฉันยักไหล่เบา ๆ ไม่สนใจหรอกว่าเขาจะคิดยังไง ฉันไม่เคยต้องการความช่วยเหลือจากเขาอยู่แล้ว ไม่ว่าเมื่อก่อน ตอนนี้ หรือในอนาคตก็ด้วย
“เธอนี่มัน… ทำคุณด้วยไม่ขึ้นจริง ๆ”
“รู้แล้วก็อย่ามายุ่งกับฉันอีก หวังว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีกนะ” ฉันเดินผ่านร่างสูงมาหยุดยืนหน้าประตูเมื่อเหลืออีกห้าชั้นก็จะถึงแล้ว ทว่าโลกกลับต้องหมุนกะทันหันอีกครั้ง และคราวนี้เป็นฝีมือของเสือพยัคฆ์ “ทำบ้าอะไร?”
แผ่นหลังของฉันแนบชิดกับผนังกระจกเย็นเฉียบของลิฟต์โดยมีเสือพยัคฆ์คร่อมสองแขนกักกันไว้ตรงกลาง ใบหน้าหล่อเหลือร้ายก้มลงมาในระยะประชิด สัมผัสได้ถึงลมหายใจกรุ่นร้อนเป่ารดผิวแก้ม
“บอกแล้วไงว่าฉันถูกใจเธอ อย่าคิดว่าจะหนีฉันพ้น”
“…”
“ยิ่งเธอหนี ฉันก็ยิ่งอยากจะล่า”
“น่าตลกนะ ฮึ” ฉันแสยะยิ้มสมเพชพลางจ้องตาเขาอย่างเย็นชา “นายชอบฉันถึงขนาดนั้นเลยเหรอเสือพยัคฆ์?”
“…” เขาชะงักไปกับคำถามเจือความสมเพชของฉัน ฉันรู้ว่าเสือพยัคฆ์ไม่ได้ชอบฉันหรอก เขาแค่สนใจและถูกใจเหยื่ออย่างฉันก็เท่านั้น เพราะแบบนั้นฉันถึงถามเขาด้วยรอยยิ้มสมเพชไงล่ะ เพื่อต้องการทำให้เขาชะงักและเสียจังหวะในการข่มขวัญฉันไปชั่วขณะ
ติ๊ง…
ประตูลิฟต์เปิดออกในวินาทีต่อมา ฉันก้มตัวหลบแขนของเขาแล้ววิ่งออกจากลิฟต์ทันที ต่อไปนี้ฉันคงต้องระวังตัวมากขึ้น ทั้งฉันและสายซอก็ด้วย เป็นไปได้เราไม่ควรพบเจอสองพี่น้องคู่นี้อีกเด็ดขาด!
.
.
.
เพี๊ยะ!
“โอ๊ย! เค้าเจ็บนะเจ้!” สายซอลูบก้นตัวเองปอย ๆ เมื่อถูกฉันตีด้วยไม้เรียวของเตี่ย ก่อนขึ้นห้องมาฉันแอบหยิบติดมือมาด้วย เพื่อลงโทษสายซอโดยเฉพาะ และทันทีที่เข้ามาในห้องเธอ ฉันก็จับฟาดไปหนึ่งทีหนัก ๆ ใจอยากจะตีมากกว่านี้ด้วยซ้ำ แต่เพราะกลัวน้องจะเจ็บหรอกนะ ไม่งั้นฉันฟาดก้นระบมไปแล้ว
“นี่มันยังน้อยไปนะยัยตัวดี เจ้บอกแล้วใช่ไหมว่าเลิกเรียนแล้วให้กลับบ้าน ทำไมถึงยังไปที่ผับนั่นอีกหะ?” ฉันโยนไม้เรียวลงพื้นแล้วกระแทกตัวนั่งบนเตียงสายซอด้วยความโมโห ยัยตัวดียิ้มเจื่อนรีบเข้ามาเกาะแขนฉันพลางทำตาปริบ ๆ เป็นลูกแมวหงอย
“เค้าขอโทษ ก็เค้าไม่รู้นี่ว่าจีซัสจะตามไป อีกอย่างเค้าก็พยายามจะหนีหมอนั่นแล้วนะ แต่มันไม่ทันนี่”
“แล้วหมอนั่นได้ทำอะไรแกหรือเปล่า”
“เปล่าเลย เขาก็แค่พยายามจะง้ออ่ะ แต่เค้าไม่ยอมก็เลยลากขึ้นรถพาไปสนามแข่งด้วย” สายซอทำหน้าบึ้งตอนเล่า “เจ้รู้ไหม หมอนั่นพาเค้าไปแข่งรถด้วยนะ ตอนนั้นเค้าคิดว่าตัวเองจะตายแล้ว”
“พาแกขึ้นรถไปแข่งในสนามอ่ะเหรอ?” ฉันฟังแล้วใจคอไม่ดีเลย
“ใช่ ดีนะที่หมอนั่นขับเก่งก็เลยชนะมาได้ เค้าเลยอาศัยจังหวะนั้นแอบหนีลงจากรถ”
“อืม แล้วทำไมถึงออกจากสนามพร้อมกับสิงห์คำรามได้ล่ะ?” พอฉันถามถึงเรื่องนี้สายซอถึงกับชะงักไปทันที เธอหลบสายตาฉันแล้วกระโดดขึ้นที่นอนกอดหมอนข้าง แถมยังปิดปากหาวหวอด ๆ
“ฮ้าววว เค้าง่วงแล้วอ่ะเจ้ เค้านอนก่อนน้าาา”
แถ… ยัยตัวดีกำลังแถ!
“หยุดเลยนะสายซอ! ตอบเจ้มาก่อนว่าทำไมถึงเจอกับสิงห์คำรามได้” ฉันพยายามดึงผ้าห่มออกจากร่างบาง แต่เธอยื้อเอาไว้แน่นแถมยังร้องโวยวายเหมือนฉันเอาน้ำเย็นราดก็ไม่ปาน
“โอ๊ย ๆ ๆ ๆ เค้าง่วงแล้วนะเจ้ เค้าจะนอนแล้วววว”
ผ้าห่มถูกดึงกลับไปคลุมตัวเธอเช่นเดิม ฉันนั่งกอดอกมองน้องด้วยความหมั่นเขี้ยว ไม่วายตีก้นไปอีกหนึ่งที น่าโมโหจริง ๆ เลย! พอถามถึงเรื่องสิงห์คำรามทีไรยัยตัวดีชอบเฉไฉเปลี่ยนเรื่องตลอด!
ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าสายซอมีซัมติงอะไรกับสิงห์คำรามกันแน่!