เสือพยัคฆ์ถอยตัวออกไปนั่งลงบนโซฟาด้านข้างฉันที่ยังอยู่ ฉันไม่ได้มองว่าเขากำลังทำสีหน้าแบบไหน เพราะสายตาเอาแต่จับจ้องเพดานห้องไม่กะพริบ พูดตรง ๆ คือกำลังสับสนกับอารมณ์ของผู้ชายคนนี้ ตอนแรกเขาดุดันเสียจนฉันต้านไม่อยู่ บทจะแผ่วก็แผ่วซะจนฉันตามไม่ทัน
“บอกไว้ก่อนว่าฉันยังอยากเอาเธออยู่นะ แต่วันนี้จะปล่อยไปก่อน คนอย่างเสือพยัคฆ์ถ้าอยากได้อะไรแล้วจะต้องล่าให้ถึงที่สุด”
ฉันกะพริบตาเรียกสติตัวเองก่อนเลื่อนมองร่างสูงข้างกาย เป็นครั้งแรกที่ฉันได้มองรูปลักษณ์เสือพยัคฆ์อย่างชัด ๆ เต็มตา ใบหน้าหล่อร้ายยังคงความอันตรายเหมือนเมื่อสองปีก่อนไม่มีผิด จะต่างกันก็ตรงทรงผมและสีผมของเขาที่เวลานี้มันไม่ใช่สีทองแต่เป็นสีฟ้าคราม เขาเจาะหูตามสไตล์ผู้ชายแบด ๆ รวมถึงรอยสักที่โผล่พ้นแขนเสื้อออกมาทำให้เขาดูเถื่อนขึ้นมาหลายขุม
“มองฉันด้วยสายตาแบบนั้นนี่คืออยากโดนต่อ?”
“ไม่!” ฉันลุกพรึ่บขึ้นมานั่งแทบจะทันที ลืมไปสนิทเลยว่าตัวเองยังนอนอยู่บนโซฟาข้างกายเขา พอลุกขึ้นมานั่งได้ฉันก็ถอยไปอีกฝั่ง อยู่ให้ห่างเสือพยัคฆ์มากที่สุด ฉันไม่ได้กลัวเขานะ แค่ป้องกันตัวเองไว้เฉย ๆ สองมือพยายามจัดแจงเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทาง ก้มมองสภาพตัวเองแล้วอยากจะตบเขาให้ตายจริง ๆ
“ฮึ ใส่นี่ซะ”
เสื้อแจ็คแก็ตแบรนด์เนมราคาแพงลิบถูกโยนลงบนตักฉัน หลุบสายตามองมันนิ่ง ๆ โดยไม่คิดจะหยิบมาสวมตามที่เขาสั่ง จะบอกว่ารังเกียจก็คงใช่ ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเขา เพราะถ้าเขาไม่ทำเรื่องชั่ว ๆ กับฉัน เสื้อผ้าฉันก็คงไม่ยับเยินแบบนี้หรอก
“ไม่จำเป็น” โยนคืนให้เขาด้วยท่าทีเย็นชา เสือพยัคฆ์ทำท่าจะโยนมันกลับ แต่ถูกเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของฉันขัดไว้เสียก่อน หยิบขึ้นมาดูก็เห็นเป็นชื่อของสายซอ เวลานี้เธอคงจะกลับถึงบ้านแล้วและเห็นว่าฉันยังไม่กลับจึงโทรตามละมั้ง ทว่า…
[ฮัลโหลเจ้! ช่วยเค้าด้วย!] เสียงร้อนรนจากปลายสายกลับทำมือที่กำลังจัดเสื้อของฉันหยุดชะงักทันที
“เกิดอะไรขึ้นสายซอ แกเป็นอะไร? แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหน?”
[เค้าก็ไม่รู้เหมือนกันเจ้ รู้แต่ว่าอยู่แถว ๆ สนามแข่งรถที่ไหนสักที่อ่ะ]
“สนามแข่งรถ? แล้วแกไปทำอะไรที่นั่น ไม่สิ แกไปที่นั่นได้ยังไง?” ฉันร้อนใจแล้ว ทำไมสายซอที่ควรกลับบ้านแล้วดันไปอยู่ที่สนามแข่งรถนั่นได้ล่ะ?
[จีซัสพาเค้ามาน่ะสิ หมอนั่นบ้าไปแล้วอ่ะเจ้ อยู่ดี ๆ ก็บังคับพาเค้าขึ้นรถมาที่นี่ เค้าพยายามจะขอเลิกแต่หมอนั่นก็ไม่ยอม] เสียงสายซอร้อนรนมากคล้ายกำลังหนีใครอยู่ ทำฉันใจคอไม่ดีไปด้วย
“แล้วนี่แกทำอะไรอยู่ กำลังหนีหมอนั่นใช่ไหม อยู่ตรงไหน แล้วสนามแข่งนั่นมันชื่ออะไรเจ้จะได้รีบไปรับ”
[เค้าไม่รู้ ตอนเข้ามาเค้ามัวแต่ทะเลาะกับจีซัสอยู่]
ฉันลุกขึ้นยืนแล้วเดินตรงไปทางประตูแต่พบว่าถูกล็อคอยู่ ฉันเขย่ามันแรง ๆ ก่อนจะหันกลับมาถลึงตาใส่ร่างสูงด้านหลัง
“เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ ฉันจะไปหาน้อง!” เสียงตวาดดังลั่นห้อง ฉันทั้งร้อนใจทั้งโมโหในคราวเดียวกัน
[ฮัลโหลเจ้! เจ้ว่าไงนะ ตอนนี้เจ้อยู่ที่ไหนอ่ะ เจ้จะมาช่วยเค้าใช่ไหม?!]
“เจ้กำลังจะไป แกใจเย็นก่อนนะซอ แชร์โลเคชั่นมาให้เจ้ด้วย เจ้จะรีบไป” ฉันปลอบใจน้องพลางเดินกลับมาหาเสือพยัคฆ์แล้วทุบไหล่เขาแรง ๆ หนึ่งที เขาไม่มีสิทธิ์มากักขังฉันแบบนี้นะ!
“…” เสือพยัคฆ์ไม่ปัดป้องมือฉัน แถมยังนั่งนิ่งให้ทุบอย่างง่ายดายโดยที่สายตาจับจ้องฉันไม่ยอมละอีกด้วย เขากำลังสอดเรื่องของฉันอยู่ใช่ไหม?
[ได้ ๆ เค้าจะแชร์… อ๊ะ แบตหมดละ… ตื้ด ๆ]
“ฮัลโหลสายซอ! ฮัลโหลได้ยินเจ้ไหม?” สายถูกตัดไปแล้ว ฉันแทบจะปาโทรศัพท์ทิ้ง ก่อนสายตัดไปสายซอบอกว่าแบตหมด งั้นแสดงว่าเธอไม่สามารถส่งโลเคชั่นมาให้ฉันได้น่ะสิ
“น้องเธอเป็นอะไร”
“ไม่ต้องมายุ่ง! เปิดประตูให้ฉันเดี๋ยวนี้นะ! นายเป็นบ้าหรือไงถึงมาขังฉันแบบนี้!” ฉันตวาดใส่เขาเสียงดัง ความเย็นชาอะไรไม่มีเหลืออีกแล้ว ตอนนี้ฉันเป็นห่วงสายซอจนจะบ้าตายอยู่แล้ว ฉันอยากรีบไปช่วยน้อง!
“เดี๋ยวเปิดให้ แต่ใส่เสื้อนี่ก่อน” เสือพยัคฆ์ลุกขึ้นยืนแล้วยื่นเสื้อแจ็คแก็ตเขามาให้ ฉันปัดออกถลึงตาใส่
“ฉันไม่ใส่! เปิดประตูเดี๋ยวนี้!”
“อย่าดื้อสายขิม บอกให้ใส่ก็ใส่สิวะ ไม่งั้นก็อย่าหวังจะได้ออกไปจากที่นี่” ฉันรู้ว่าเขาไม่ได้ขู่ คนอย่างเสือพยัคฆ์ไม่มีทางพูดเล่นแน่ ฉันเม้มปากมองเสื้อแจ็คเก็ตในมือเขา สุดท้ายก็รับมาสวมอย่างไม่เต็มใจ พอถลึงตามองเจ้าของเสื้อก็พบว่าเขากำลังหยักยิ้มมุมปาก
สนุกมากสินะที่ได้ควบคุมฉันแบบนี้ คนสารเลว!
“เปิดประตูเดี๋ยวนี้!”
เสือพยัคฆ์ยักไหล่นิด ๆ พลางกดข้อความบางอย่างลงบนโทรศัพท์ของเขา ไม่ถึงนาทีประตูห้องก็ถูกเปิดออกด้วยฝีมือของผู้ชายผมสีแดงเพลิง เขามองฉันด้วยแววตาประหลาดใจเหมือนก่อนหน้านี้ไม่มีผิด แต่ฉันไม่มีเวลามาสนใจใครอีกแล้ว รีบเดินกระแทกไหล่เขาคนนั้นออกมาจากห้องด้วยความรวดเร็ว
ทว่าออกมายังไม่ทันจะพ้นหน้าผับก็ถูกมือหนาคว้าข้อมือเอาไว้ ไม่ต้องบอกก็น่าจะรู้ว่าใครถ้าไม่ใช่เจ้าของเสื้อน่าตายนั่น
“ปล่อย ฉันต้องรีบไป!”
“ไปไหน?” เสือพยัคฆ์เลิกคิ้วถาม ฉันชะงักเล็กน้อย
นั่นสิ… ฉันต้องไปที่ไหน?
“น้องเธออยู่ที่สนามแข่งรถใช่ไหม?” เขาตั้งใจฟังจริงด้วยสินะ
“…” เหอะ! รู้แล้วจะถามอีกทำไม?
“ตามมา” เขาดึงฉันไปทางลานจอดรถ ฉันยื้อแขนไม่ยอมเดินตามง่าย ๆ
“นายจะพาฉันไปไหน บอกแล้วไงว่าฉันรีบ!”
“จะพาไปรับน้องเธอไง ไม่ไป?”
ฉันจ้องหน้าเสือพยัคฆ์อย่างไม่ไว้ใจสุด ๆ เขารู้เหรอว่าสายซออยู่ที่ไหน แล้วฉันจะเชื่อใจคนอย่างเขาได้สักแค่ไหนกัน
“จะไปกับฉันแล้วช่วยน้องเธอเร็วขึ้นหรือจะไปสุ่มหาสนามแข่งนั่นเองแล้วปล่อยให้น้องเธอโดนฉุด เลือกมา”
เลือก? ยังจะกล้าบอกให้ฉันเลือกอีกหรือไงไอ้คนน่าตายนี่!