สนามแข่ง The Drug Race
รถซูเปอร์คาร์คันหรูเลี้ยวเข้าสู่สนามแข่งชื่อดังที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก ฉันเคยได้ยินชื่อสนามแข่งนี้มาบ้าง แต่ไม่เคยมาเหยียบเลยสักครั้ง ตอนที่สายซอพูดถึงสนามแข่ง แวบแรกในหัวของฉันผุดชื่อที่นี่ขึ้นมาเหมือนกัน ว่าแต่… เสือพยัคฆ์มั่นใจได้ยังไงว่าสายซออยู่ที่นี่?
ทันทีที่ก้าวลงจากรถ ร่างสูงเดินมาจับแขนฉันลากไปทางข้างสนามซึ่งมีตู้คอนเทนเนอร์วางเรียงรายจำนวนมาก ตู้พวกนั้นถูกทำเป็นอาคารรูปทรงต่าง ๆ มันดูแปลกตาแต่ก็สวยงามเช่นกัน แต่นี่ไม่ใช่เวลามาเชยชมสภาพแวดล้อมของที่นี่หรอกนะ
“นายจะพาฉันไปไหน? แล้วสายซออยู่ที่นี่งั้นเหรอ?” ฉันตะโกนถามแข่งกับเสียงเครื่องยนต์ของรถแข่งในสนาม เสียงเชียร์ดังสนั่นไปทั่วบริเวณ ผู้คนส่วนมากไปรวมตัวกันตรงสนามแข่งกันหมด
“ไอ้เวรนั่นมันชอบมาแข่งที่นี่”
“ใคร?” จู่ ๆ เขาก็พูดถึงคนอื่นขึ้นมา เสือพยัคฆ์หยุดเดิน หันมามองฉันด้วยสายตาประมาณว่า ‘เธอนี่มันโง่จริง ๆ’
“ไอ้จีซัสไง มันเป็นคนลากน้องเธอไปไม่ใช่?”
“นายจะบอกว่าจีซัสมาแข่งรถที่นี่บ่อย น้องฉันก็น่าจะถูกพามาที่นี่งั้นสินะ” ฉันเริ่มเข้าใจสถานการณ์มากขึ้น เสือพยัคฆ์เดินต่อไป คราวนี้เขาไม่ได้ลากฉันแล้ว เพียงแค่จับมือจูงให้เดินตาม ซึ่งฉันไม่ได้ขัดขืนอะไรอีก ฉันก็มีสมองนะ ไม่ใช่คนดื้อเพ่งตลอดเวลาขนาดนั้น
เสือพยัคฆ์พาฉันเดินเข้ามาด้านในเรื่อย ๆ ตลอดทางผ่านบล็อคตู้คอนเทนเนอร์มากมาย ฉันมองการออกแบบของพวกมันด้วยความสนใจ โดยไม่ทันสังเกตเห็นสายตาหลายสิบคู่ที่กำลังจับจ้องมาที่พวกเรา กระทั่งเดินมาถึงบล็อค ๆ หนึ่ง หน้าตู้คอนเทนเนอร์ติดเลขหกขนาดใหญ่ มีกลุ่มผู้ชายวัยรุ่นนับสิบคนกำลังนั่งสุมหัวกันอยู่หน้าประตูทางเข้า เมื่อคนพวกนั้นหันมาเห็นเสือพยัคฆ์ก็รีบกุลีกุจรเข้ามาหา หนึ่งในนั้นคือผู้ชายผมสีแดงเพลิงที่ฉันเพิ่งเจอที่ผับเมื่อครู่นี้ด้วย
“มาแล้วเหรอเฮีย ผมเช็คให้แล้ว ไอ้จีซัสมันเพิ่งแข่งจบไปเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน เห็นว่ามันพาผู้หญิงมาด้วย” พอได้ยินชื่อจีซัส ความสนใจทั้งหมดของฉันพุ่งตรงไปที่บทสนทนานั้นทันที
“ใช่ผู้หญิงผมสั้นสีเขียวครามหรือเปล่า?” ฉันถามแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงติดเย็นชา มันคือน้ำเสียงปกติที่ใช้เวลาคุยกับคนที่ไม่สนิท ผู้ชายผมแดงเพลิงมองฉันอย่างไม่ชอบใจนิด ๆ คล้ายหงุดหงิดที่อยู่ดี ๆ ก็ถูกขัดจังหวะ ถามว่าฉันสนไหม? ก็ไม่
“อ้าวยังไง มึงจะยืนอึ้งอีกนานไหมไอ้กวิน ยัยนี่ถามก็ตอบสิวะ” ผู้ชายผมสีแดงเพลิง น่าจะชื่อกวิน ยืนนิ่งมองหน้าฉันไม่ยอมตอบ เสือพยัคฆ์จึงถามซ้ำให้อีกรอบ และมันได้ผล เขาละสายตาไปจากฉันแล้ว
“ใช่ แต่ตอนนี้เธอหายไปไหนแล้วไม่รู้ ไอ้เวรนั่นกำลังตามหาตัวอยู่เหมือนกัน คิดว่าน่าจะยังอยู่ในสนามนี่แหละ”
เป็นสายซอจริง ๆ ด้วย ถ้างั้นก็แสดงว่าเธอยังอยู่ในสนามแห่งนี้ และกำลังหลบหนีจีซัสอยู่ ฉันต้องตามหาสายซอให้เจอก่อนหมอนั่น
หมับ
“จะไปไหน?” ข้อมือถูกคว้าไว้อีกครั้ง และเป็นเสือพยัคฆ์เหมือนเดิม เขาใช้สายตาคมกริบจ้องฉันตาไม่กะพริบ เหมือนผู้ใหญ่กำลังดุเด็กที่จะไปเล่นซนก็ไม่ปาน
“ฉันจะไปตามหาน้อง ปล่อยนะ!” ฉันตวาดเสียงใส่เขาต่อหน้าคนหลายคนที่ยืนอยู่รอบตัวเรา ฉันไม่สนและไม่แคร์ใครหน้าไหนทั้งนั้น ถ้าคิดจะมาขวาง ฉันจะด่าให้ลืมบ้านเลยคอยดู
“รู้เหรอว่าน้องเธออยู่ไหน? เธอคิดว่าที่นี่มันแคบเท่าแมวดิ้นตายหรือไง ขนาดไอ้จีซัสมันช่ำชองพื้นที่ยังตามหาน้องเธอไม่เจอเลย แล้วคนที่เพิ่งเข้ามาเหยียบที่นี่เป็นครั้งแรกอย่างเธอจะตามเจองั้นสิ? ไม่มั่นหน้าเกินไปหน่อยเหรอ?” ที่เขาพูดก็ถูก ฉันเพิ่งเข้ามาที่นี่ครั้งแรก มันกว้างแค่ไหนฉันก็ไม่รู้ ขนาดที่ที่ฉันยืนอยู่ตอนนี้คือส่วนไหนของสนามฉันยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ แต่จะให้ฉันทำยังไง จะให้ยืนโง่ ๆ รอน้องถูกไอ้คนเลวนั่นจับตัวไปงั้นเหรอ? “ที่เงียบนี่คือเข้าใจ?”
เอาจริงไหม ฉันเกลียดน้ำเสียงถากถางน่าหงุดหงิด เกลียดสายตาที่เหมือนมองทะลุทุกอย่าง เกลียดรอยยิ้มหยันแสนน่าตบ และที่เกลียดที่สุดคือผู้ชายน่าตายตรงหน้าฉันนี่แหละ!
“สั่งคนของเราให้ออกตามหาผู้หญิงผมสั้นสีเขียวครามให้ทั่วสนาม มึงก็ออกไปด้วยไอ้กวิน อย่าให้พวกมันเจอเธอก่อนเด็ดขาด”
เสือพยัคฆ์เลิกจ้องฉันแล้วหันไปสั่งกวิน หมอนั่นพยักหน้ารับก่อนเดินออกไปพร้อมพวกผู้ชายที่ยืนล้อมรอบตัวเราทั้งหมด เหลือเพียงผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ เขาสวมเสื้อผ้าสีขาวแทบทั้งตัว ลุคสะอาดสะอ้านขัดกับสถานที่อโคจรแบบนี้ที่สุด
“ส่วนมึงไอ้เร็น ไปเช็คกล้องวงจรปิดทุกตัว ตามหาพิกัดเธอล่าสุดว่าอยู่ตรงไหนของสนามแล้วรายงานกู”
“ครับเฮีย” ผู้ชายชุดขาวที่ชื่อเร็นรับคำสั่งแล้วเดินจากไปอีกคน บริเวณนี้จึงเหลือแค่ฉันกับเสือพยัคฆ์ ฉันคิดว่าเขาจะปล่อยแขนฉัน ทว่ากลับดึงให้เดินตามเข้ามาด้านในของตู้คอนเทนเนอร์ ฉันขัดขืนทันที
“จะทำอะไร! ปล่อยฉันนะ! ฉันจะไปตามหาน้อง!”
“เธอนี่รักน้องจังเลยนะ พอเป็นเรื่องของน้องเธอทีไร ความเย็นชาหน้าตายของเธอดูเหมือนจะถูกละลายไปจนหมด”
เสือพยัคฆ์ผลักฉันนั่งลงบนโซฟา ฉันทำท่าจะลุกขึ้นแต่ถูกกดไหล่เอาไว้พร้อมกับใบหน้าหล่อ ๆ ที่ก้มลงมาใกล้จนแทบประชิด เสียงกระซิบทุ้มต่ำทว่าข่มขวัญกันกลาย ๆ ดังลอดจากริมฝีปากหนายักยิ้ม
“จุดอ่อนของเธออยู่ในมือฉันแล้ว”