“ถ้าฉันไป นายจะจบกับฉันไหม?”
“…” เสือพยัคฆ์ยักยิ้มมุมปากบาง ๆ ดวงตาคมปราบทอประกายกระหายอย่างไม่ปิดบัง “คิดว่าคืนเดียวจะชดใช้ให้ฉันพอเหรอ หวังมากไปมั้งสายขิม”
หมอนี่ช่าง… โลภมากเกินไปแล้ว
“ทำไมล่ะ เสืออย่างนายไม่กินเหยื่อซ้ำไม่ใช่หรือไง แค่คืนเดียวก็น่าจะพอแล้วนี่” ฉันต่อปากต่อคำกับเขาอย่างไม่รู้สึกกระดากปาก ฉันไม่ใช่ผู้หญิงโลกสวย ไม่ได้อ่อนต่อโลก คิดว่าเสือพยัคฆ์เองก็คงรู้ดีว่าฉันไม่ได้ใสอะไร ไม่งั้นคงไม่กล้าเผชิญหน้ากับไฟอย่างเขาแบบนี้หรอก
“จะกินซ้ำหรือไม่ มันขึ้นอยู่กับความพอใจของฉัน”
“นอกจากจะสารเลวแล้วยังโลภมากอีกนะ” ฉันงึมงำเบา ๆ
“ด่าฉันอีกแล้วนะสายขิม เธอนี่มัน…” เขาเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่ แต่ฉันไม่แคร์ จ้องตาเขากลับ
“ถามจริง ๆ ที่มาวอแวไม่เลิกเนี่ย เพราะอยากได้ตัวฉัน?”
เสือพยัคฆ์ยืดตัวขึ้นยืนเต็มความสูง ทำท่าเกียจคร้านหน่อย ๆ แล้วปรายตามองฉัน หยักยิ้มร้ายมุมปากตอบ
“ถ้าอยากได้ เธอจะให้ป่ะล่ะ?”
“…” ฉันนิ่ง จ้องตากับเขาไม่มีหลบ พยายามค้นหาความจริงจังในนั้น และคำตอบที่ได้กลับมาก็คือ… เขาไม่ได้ล้อเล่น!
บัดซบที่สุด!
“ถ้าไม่ให้จะไม่หยุดตาม?”
“เธอก็รู้ สัญชาตญาณนักล่า ยิ่งเหยื่อดิ้นรนหนี มันก็ยิ่งกระหาย ยิ่งอยากจะขย้ำให้แหลกคากรงเล็บ”
รู้สิ… ฉันรู้ดีเลยล่ะ เพราะรู้ฉันถึงพยายามหนีเขามาตลอดสองปีมานี้ไง ถ้าเลือกได้ฉันอยากจะย้อนเวลากลับไปแล้วไม่เข้ามหาวิทยาลัยนี้เลย ตั้งแต่ฉันก้าวเข้ามาในรั้วมหาวิทยาลัยนี้ ชีวิตฉันก็เจอแต่เรื่องบัดซบ ถูกเพื่อนร่วมห้องอิจฉาจนทำเรื่องเลวร้ายกับฉัน ชีวิตฉันมันพังนับตั้งแต่วันที่ก้าวเท้าเข้ามาเหยียบที่นี่แล้ว
“ได้ อยากได้นักฉันก็จะให้ จะไปที่ไหนดีล่ะ?” น้ำเสียงตอบรับของฉันเย็นชามาก เหมือนคนไร้วิญญาณ ไร้หัวจิตหัวใจ ก็แค่นอนกับเสือพยัคฆ์ ไม่ใช่ครั้งแรกสักหน่อย ถึงเขาจะจำไม่ได้ แต่ฉันจำได้ ทำ ๆ ซะให้มันจบไป เขาจะได้เลิกตามตอแยฉันสักที และนี่คือการเดิมพันของฉัน
“พูดจริงดิ” รอยยิ้มร้ายชะงักไป ริมฝีปากหนาเหยียดตรงเล็กน้อยพลางขมวดคิ้วคล้ายไม่เชื่อ “เธอยอมไปกับฉันจริงดิ?”
“ฉันไม่เคยพูดเล่น” ฉันตอบหน้าตาย สีหน้าเสือพยัคฆ์เข้มขึ้น เขาขยับเข้ามาใกล้ ฉันไม่ถอยหนี แต่กลับเชิดหน้าอย่างไม่เกรงกลัว
“รู้หรือเปล่าว่าการไปกับฉันหมายถึงอะไร”
“ฉันไม่ได้โง่ คนอย่างนายจะต้องการอะไร นอกจากเรื่องต่ำทรามพวกนั้นล่ะ” ลมหายใจกรุ่นร้อนกระทบผิวแก้มฉันแผ่ว ๆ ใบหน้าเราสองคนอยู่ใกล้กันมาก ต่างฝ่ายต่างจ้องตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร
“ดี งั้นเธอก็เตรียมใจเป็นของฉันแล้วงั้นสิ?”
“อย่าเพ้อเจ้อไปหน่อยเลยเสือพยัคฆ์ การที่ฉันยอมนอนกับนายไม่ได้หมายความว่าฉันจะยอมเป็นของของนาย”
“หมายความว่ายังไงวะ เธอนอนกับฉันก็ต้องเป็นของฉันสิ” เขาเลิกคิ้วสูง น้ำเสียงเข้มขึ้น ฉันเปลี่ยนท่าเป็นยืนกอดอก สายตากดต่ำมองพื้นก่อนจะเลื่อนขึ้นสบกับดวงตาคม
“ก็แค่ one night stand อย่าทำเป็นไม่เคยสิ”
เรื่องหนึ่งที่ฉันรู้เกี่ยวกับนิสัยของผู้ชายคนนี้คือ… เสือพยัคฆ์ไม่ชอบผู้หญิงเจนโลก และก็ไม่ชอบผู้หญิงอ่อนหัดไร้เดียงสา ที่ผ่านมาผู้หญิงที่เขาควงหรือนอนด้วยมักจะอยู่ในระดับปานกลาง ไม่จัดจ้านหรือไร้เดียงสาจนเกินไป นั่นคือมาตรฐานการกินของเขา
ในเมื่อฉันทำตัวไร้เดียงสาหลอกเขาไม่ได้ ถ้างั้นก็เป็นผู้หญิงเจนโลกไปเลยแล้วกัน มาเดิมพันกันว่าคนอย่างเสือพยัคฆ์จะกล้ากินเหยื่ออย่างฉันไหม ถ้าฉันกลายเป็นผู้หญิงเจนจัดที่ไม่ยี่หระต่อเรื่อง ‘เซ็กส์’ เขาจะยังอยากกินฉันอยู่ไหม?
ฉันสังเกตปฏิกิริยาของร่างสูงตรงหน้าอยู่ตลอด และเห็นชัดว่าใบหน้าหล่อร้ายนั่นเข้มขึ้นเรื่อย ๆ เขากำลังคับข้องใจกำลังท่าทีของฉัน
“ว่าไงล่ะ อยากได้ตัวฉันนักไม่ใช่? เอาสิ รีบทำ ๆ ให้มันจบไป อย่ามาทำให้ฉันเสียเวลา… อ๊ะ” ฉันพูดยังไม่ทันจบก็ถูกมือหนากระชากข้อมือไปจับ เขาออกแรงดึงพาฉันพาเข้ามาในผับ หัวใจฉันเต้นตึกตักขึ้นมาทันที
ฉันเดินตามเขาด้วยท่าทีสงบนิ่งทั้งที่ในใจร้อนรนจะแย่อยู่แล้ว ถึงจะโล่งใจที่เขาไม่ลากฉันไปที่อื่นก็เถอะ แต่พอเห็นประตูห้องวีไอพีหัวใจมันก็เต้นระทึกขึ้นมา
ปึง
ประตูห้องเปิดออกก่อนปิดลงด้วยความแรง ทำให้ชายสองคนในห้องที่กำลังนั่งคุยกันหันมองเป็นตาเดียว สีหน้าแปลกใจฉายชัด
“เกิดอะไรขึ้นวะเฮีย” ผู้ชายผมสีแดงเพลิงขมวดคิ้วถาม มองมาทางฉัน
“พวกมึงออกไปให้หมด” น้ำเสียงเย็น ๆ ทว่ากดดันดังขึ้น นี่ไม่ใช่ประโยคขอร้อง แต่มันเป็นประโยคคำสั่ง!
“โอเค เดี๋ยวจัดการด้านนอกให้ครับ” ผู้ชายหน้าหวานลุกขึ้นยืนแล้วหันไปส่งซิกให้ผู้ชายผมสีเพลิง พวกเขาเดินผ่านฉันกับเสือพยัคฆ์ออกจากห้องไป โดยทิ้งสายตาประหลาดใจไว้ที่ตัวฉันด้วย
นี่มันอะไรกัน? ทำไมพวกเขาต้องมองฉันด้วยสายตาแบบนั้น? แล้วเสือพยัคฆ์คิดจะทำอะไร? ทำไมต้องพาฉันเข้ามาที่นี่แถมยังไล่คนพวกนั้นออกไปด้วย?