ตอนที่ 2 หวนคำนึง

1226 Words
ยามซวี*มาเยือน… ภายในอ่างถังไม้ที่เหล่าสาวใช้ได้ตระเตรียมมาวางไว้กลางเรือน กลีบกุหลาบล้วนถูกบรรจงโปรยลงไปในอ่างอาบน้ำอย่างงดงาม เหยาเยว่เล่อรีบไล่บรรดาบ่าวไพร่พวกนั้นออกไปให้พ้นจากห้อง เมื่อนางได้ปลดเปลื้องอาภรณ์ปกคลุมกาย เรือนร่างเปลือยเปล่างดงามดุจบุปผาบานสะพรั่งก็เผยความขาวผุดผ่องเป็นยองใย ปลายเท้าเหยียบย่างลงไปในอ่างอาบน้ำถังไม้ กลิ่นหอมอ่อนๆ จากมวลบุปผาช่างหอมหวนชวนผ่อนคลายนัก ยามเมื่อร่างงดงามนอนราบพิงพนักแช่ลงในน้ำอุ่นๆ ดวงตากลมโตใสกระจ่างก็เริ่มหลับตาพริ้มเพื่อผ่อนคลาย ภาพเหตุการณ์ยามเช้าได้ฉายวนซ้ำขึ้นอีกครั้งในห้วงคำนึง ในขณะเดียวกันนิ้วมือดุจลำเทียนก็กำลังลูบไล้ทั่วเรือนร่างงดงามอย่างแผ่วเบา ความร้อนรุ่มขุมหนึ่งคล้ายกำลังปลุกเร้าให้พวงแก้มขาวผุดผ่องเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อ ยามเมื่อเหยาเยว่เล่อนึกถึงสัมผัสของคนผู้นั้น ‘มู่หลิ่งอิน’ ความรู้สึกร้อนรุ่มพลันผุดขึ้นมาอีกครา ความรู้สึกของข้าในตอนนั้น ข้าไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับตัวของข้าดี ยามเมื่อปลายลิ้นของเขาชำแรกแทรกให้ฟันเรียวงามของข้าเผยออ้า ในวินาทีนั้นร่างกายของข้าพลันสั่นสะท้านไปเสียหมด ชั้นเชิงของคนหน้าไม่อายมู่หลิ่งอินช่างร้ายเหลือนัก! หากเมื่อเทียบกับอาเล่อและสามีของนาง สัมผัสหยอกเย้าวาบหวามเช่นนั้น คงไม่มีผู้ใดทำได้เช่นเขากระมัง ยามเมื่อนิ้วมืองามลูบไล้ต่ำลงไปจนถึงท้องน้อยขาวผุดผ่อง ความหวามไหวก็ฉุดรั้งให้ดวงตาดุจน้ำค้างแรกแย้มลืมตาตื่นขึ้น “นี่ข้าเป็นอะไรกันแน่?” กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกกุ้ยฮวา*พลันลอยมาเตะที่จมูกของเหยาเยว่เล่อโดยบังเอิญ กลิ่นหอมของมันช่างชวนให้ใจดวงน้อยระทมทุกข์อยู่ลึกๆ “ยามเมื่อดอกกุ้ยเบ่งบาน จะมีผู้ใดพร้อมเด็ดมันมาให้ข้าเช่นกาลก่อน ความเปลี่ยวเหงายังคงร่ำร้องเพรียกหาให้ข้าระทมทุกข์ไม่รู้จบสิ้นเช่นนี้…” หยาดน้ำใสๆ ไหลรื้นขึ้นขอบตาของหญิงสาวอีกครั้ง เมื่อภาพในอดีตได้ผุดขึ้นอีกครั้งในห้วงคำนึง ตรงมุมหน้าต่าง เงาร่างที่แสนคุ้นตาแอบจ้องมองเรือนร่างงดงามอยู่เงียบๆ โดยไร้ซึ่งคำพูดใดๆ มู่หลิ่งอินกำกิ่งดอกกุ้ยสีขาวในมือแน่น นัยน์ตาสีนิลจ้องมองเรือนร่างเปลือยเปล่างดงามแล้วแอบรู้สึกลำคอแห้งผาก ตั้งแต่เด็กเขารู้ว่านางโปรดปรานดอกหอมหมื่นลี้นี้มากเพียงใด และเขาก็รู้มาตลอดว่านางจะมีความสุขมากหากได้รับดอกกุ้ยฮวาจากมือของคนที่นางรัก แต่สำหรับข้า นางคงไม่ปรารถนาที่อยากจะได้มันจากมือคู่นี้กระมัง… ยามเมื่อนิ้วมืองดงามเคลื่อนต่ำไปยังดงบุปผา ร่างแน่งน้อยงดงามพลันสั่นสะท้านอย่างไม่รู้ตัว เหยาเยว่เล่อพริ้มตาหลับอีกครั้ง นางหวนนึกถึงสัมผัสของนิ้วหยาบช้าของมู่หลิ่งอิน ปลายลิ้นเล็กเผลอแลบออกมาเลียทั่วมุมปากคล้ายกระหายใคร่ในรสสัมผัสของบุรุษที่นางแสนชังน้ำหน้า “มู่หลิ่งอิน คนสารเลว เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาทำให้ข้ามีความปรารถนาเช่นนี้!” เหยาเยว่เล่อเอ่ยออกมาด้วยความร้อนรุ่มระทมในไฟปรารถนา ยามเมื่อนางนึกถึงปลายลิ้นของเขาที่ชำแรกรัดโคนลิ้นของนาง ผนวกกับเจ้านิ้วมือหยาบช้าของเขาที่บดบี้ขยี้เม็ดบุปผาของนาง ความร้อนรุ่มที่สุดแสนจะกลั้น ได้ทำให้ความกระหายดื่มด่ำในรสราคะของนางลุกโชน “อ่า…ซี๊ดดดด” เสียงครางกระเส่าขณะที่นิ้วมืองามเคลื่อนต่ำเข้าไปในดงถ้ำ เรียกความรุ่มร้อนและความหิวกระหายในรสสวาทของเจ้าของนัยน์ตาสีนิลที่แอบจ้องมองทุกอิริยาบถของคนงามจวบจนแกนกลางแข็งขืน เพล้ง! แจกันดอกไม้ที่อยู่ริมหน้าต่างของเรือนถูกมู่หลิ่งอินเผลอปัดจนตกลงพื้นแตกเสียงดังลั่น เมื่อได้สติเจ้าของร่างแกร่งก็รีบวิ่งหายวับไปในทันที “ใคร!? ใครอยู่ตรงนั้น!? ออกมานะ!!!” หลังจากได้ยินสียงแจกันแตกกระทบพื้น เหยาเยว่เล่อก็รีบลุกพรวดออกมาจากอ่างน้ำทั้งที่ร่างกายของนางเปียกปอน มีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนบางเท่านั้นที่หญิงสาวรีบคว้าจับมาคลุมกายลวกๆ ก่อนจะรีบวิ่งไปยังจุดเกิดเหตุทันที ยามเมื่อร่างงามเดินมาถึงริมหน้าต่าง คิ้วเรียวงามก็พลันเลิกขึ้น กิ่งดอกกุ้ยฮวาหลายกิ่งตกอยู่ข้างๆ กับแจกันดอกไม้ที่ตกแตกอยู่ จู่ๆ ภาพในอดีตภาพหนึ่งในห้วงคำนึงของหญิงสาวก็พลันผุดขึ้น ‘มู่หลิ่งอิน ใครใช้ให้เจ้ามาแย่งดอกกุ้ยของข้า!’ เมื่อครานั้นนางอายุสิบห้าเพิ่งจะปักปิ่นได้ไม่นาน ครานั้นลมเหมันต์เพิ่งจะมาเยือน นางจำได้ว่าดอกกุ้ยฮวากำลังเริ่มจะออกดอกบานสะพรั่ง ในตอนนั้นนางดีใจมากที่ดอกกุ้ยเบ่งบานไปทั่วเรือน นางสั่งให้เหล่าบ่าวไพร่เก็บดอกหอมหมื่นลี้มาเสียหลายกำเชียว แต่ผู้ใดจะไปรู้ ในขณะที่นางกำลังดื่มด่ำสำราญใจกับกลิ่นหอมของมัน มู่หลิ่งอินกลับเดินมาแย่งดอกกุ้ยจากมือของนางทั้งหมด! ‘เอามานี่’ เขาพูดกับนางห้วนๆ เช่นนั้นแล้วขโมยดอกกุ้ยทั้งหมดที่บรรดาบ่าวไพร่บรรจงเก็บมาให้นางไปจนหมด ในตอนนั้นนางโกรธบ่าวสารเลวเช่นเขาจนหน้าดำหน้าแดง แม้ว่านางจะไปฟ้องบิดา ทว่าบิดากลับหาได้เข้าข้างนางไม่ มิหนำซ้ำนางยังถูกบิดาว่ากล่าวตักเตือนไปหลายคำ หนี้แค้นระหว่างนางและบ่าวเลวแซ่มู่ มีผู้ใดบ้างจะเข้าใจความเจ็บแค้นได้เท่านางอีก “มู่หลิ่งอิน เจ้าคนสารเลว เจ้ากล้าดีอย่างไรมาแอบดูข้า บ่าวเลวเช่นเจ้าชักจะเหิมเกริมมากไปแล้วนะ!” ไฟโทสะที่ทนกักเก็บไว้ ตอนนี้นางจะไม่ทนต่อไปอีกแล้ว “ดี! แล้วเราจะได้เห็นดีกัน มู่หลิ่งอิน” เมื่อคิดจะเอาคืนอีกฝ่าย เหยาเยว่เล่อก็รีบเดินดุ่มๆ ไปยังโต๊ะไม้หนานมู่เนื้อดีที่มีดาบสั้นหนึ่งเล่มวางอยู่ มือเล็กรีบคว้าด้ามดาบสั้นที่บิดาเคยมอบไว้ให้แล้วกำไว้แน่น ดวงตาคู่งามฉายแววโทสะคุกรุ่น ว่าแล้วร่างแน่งน้อยที่สวมเพียงผ้าเช็ดตัวผืนบางก็มุ่งหน้าไปยังเรือนประสานใจ สถานที่ซึ่งเป็นที่อยู่ของพ่อบ้านมู่หรือก็คือมู่หลิ่งอินนั่นเอง * ยาม ซวี เท่ากับเวลา 19.00 น. จนถึง 20.59 น. * ดอกกุ้ยฮวา ***หรือ หอมหมื่นลี้ เป็นพืชในวงศ์มะลิ ถิ่นกำเนิดแถบเทือกเขาหิมาลัยและจีน กระจายพันธุ์ไปทางใต้ของญี่ปุ่นและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD