เรือนประสานใจ
ในขณะที่คุณหนูเยว่เล่อผู้แสนเอาแต่ใจกำลังหมายมั่นปั้นมือเดินทางมาคิดบัญชีกับพ่อบ้านหนุ่ม ทว่าเจ้าของร่างแกร่งอย่างมู่หลิ่งอินหลังจากที่เขาใช้วิชาตัวเบารีบกลับมายังเรือนของตนซึ่งห่างไกลจากเรือนหยกงามราวสิบเซียะ* ความปวดหนึบบริเวณแกนกายของเขาพลันแผงฤทธิ์ จนเจ้าของร่างปราดเปรียวถึงกับล้มตัวลงนอนบนเตียงด้วยความทรมาน
ภาพใบหน้าคุณหนูเยว่เล่อที่เขาเพิ่งได้ประจักษ์ในความงดงามของนางได้ฉายวนซ้ำขึ้นอีกครั้ง เรียวขาขาวงดงามผุดผ่องช่างเย้ายวนชวนให้เขาอยากจับลูบและทิ้งรอยตรานัก ยามเมื่อดวงตากลมโตของนางพริ้มตาหลับ นิ้วมืองดงามดุจลำเทียนค่อยๆ เคลื่อนต่ำปาดป่ายไปทั่วอณูผิวกายที่แสนงดงาม ในครานั้นช่างคล้ายกับภาพมนต์สะกด ปลายลิ้นเล็กที่แสนเอาแต่ใจเคลื่อนเลียไปทั่วมุมปาก ยามเมื่อเสียงหวานใสของนางครางเบาๆ ด้วยความอิ่มใจ
สวรรค์ท่านกำลังทดสอบความอดทนของข้าอยู่ใช่หรือไม่?
มือหยาบเลิกกางเกงเบื้องล่างลงต่ำ เจ้ามังกรหยกที่หลับใหลมาแสนเนิ่นนาน มายามนี้มันได้ชูชันแข็งขืนกระดกหัวไปมา
“อ่าห์…คุณหนูของข้า…” เมื่อแกนกายเผยแววแห่งความปรารถนาเต็มกำลัง มู่หลิ่งอินก็เริ่มจัดการคลายไฟราคะให้มันได้สยบลง ใบหน้าหล่อเหลาเหยเกขณะที่กำแท่งหยกงามรูดขึ้นและรูดลงเป็นไปตามท่วงทำนองฝัน ชายหนุ่มครางต่ำๆ ด้วยความระทมทุกข์ที่ไม่อาจได้เติมเต็มความกำหนัดให้ผ่อนคลายลงได้
“เยว่เล่อ…เจ้าจะรู้หรือไม่ว่าข้ารักเจ้า…” เสียงครวญกระเส่าเคล้าโหยหาโฉมกานดา แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขาและนางจะช่างห่างเหินและคล้ายจะไม่ลงลอยกันเสียด้วยซ้ำ ทว่าความคะนึงใคร่ที่เขามีต่อนาง ใช่ว่ามันเพิ่งจะบังเกิดขึ้นเพียงแค่วันสองวันนี้ไม่
“ซี๊ด…คุณหนูข้าปรารถนาในตัวท่านมาเนิ่นนานเหลือเกิน” มู่หลิ่งอินกำเจ้าหัวมังกรแน่นขณะที่รูดโคนเนื้อจนแข็งเกร็ง นัยน์ตาสีนิลหมองหม่นขณะที่ไฟราคะนั้นได้เพิ่มทวีมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ทว่าเขากลับทำอะไรไม่ได้เลย
“คุณหนู…อ่า…โอ้ว…” เสียงครางทุ้มพร่ำรำพันขาดเป็นช่วงๆ พอๆ กับเจ้ามังกรหยกที่ชูชันจนเส้นเลือดนูนออกมา
“ฮื่มๆ อ่า…” คลื่นเพลิงกำหนัดหาได้หยุดลงเช่นทุกคราที่มู่หลิ่งอินเคยทำ ทว่าตรงร่องหัวบากกลับมีน้ำใสๆ ไหลเยิ้มออกมาเสียแล้ว
“เยว่เอ๋อร์ คุณหนูของข้า อ๊าห์…” มู่หลิ่งอินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ทรงพลัง
ทว่าในเวลาเดียวกันขณะที่พ่อบ้านมู่กำลังกำแท่งหยกแกร่งเพื่อคลายคลื่นปรารถนาอยู่นั้น ร่างอรชรอ้อนแอ้นของคุณหนูเหยาก็พลันมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเรือนประสานใจด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด
พลัก! ปั้ง!
เท้าเล็กๆ ถีบไปที่บานประตูเรือนจนมันเปิดอ้า ใบหน้างดงามเผยแววถมึงทึงเกรี้ยวกราดน่าดู
“มู่หลิ่งอินข้าจะ…” คำว่า ‘ข้าจะฆ่าเจ้า’ ถูกกลืนหายลงไปในท้องชั่วพริบตา เพราะภาพที่ปรากฎอยู่เบื้องหน้าทำให้ร่างแน่งน้อยถึงกับแข็งทื่อราวกับถูกแช่อยู่ในลำธารน้ำแข็ง ในเสี้ยวจังหวะที่ร่างอรชรได้เหยียบย่างเข้าไปในห้องนอนของมู่หลิ่งอิน สิ่งที่นางเห็นและได้ประจักษ์ชัด เล่นเอาเจ้าของร่างงามถึงกับสั่นระริกอย่างไม่ทราบสาเหตุ
“นะ…นี่…เจ้า…ไย…เอื๊อก!” จู่ๆ อารามร้อนใจอยากจะแก้แค้นพ่อบ้านหนุ่มพลันหยุดชะงัก เพราะภาพที่ปรากฎตรงเบื้องหน้าของเหยาเยว่เล่อ ทำให้สาวเจ้ารู้สึกลำคอแห้งผากอย่างบอกไม่ถูก
ทว่าปฏิกิริยาของมู่หลิ่งอินกลับดูไม่อินังขังขอบกับการปรากฏตัวของคุณหนูเยว่เล่อเลยสักนิด เจ้าของร่างแกร่งเพียงปรายหางตามองร่างอรชรที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนบางห่อหุ้มกาย
“คุณหนูมีอะไรกับบ่าวหรือขอรับ” ขณะที่พูดมือหนาก็กำแกนกายรูดขึ้นรูดลงต่อหน้านางอย่างไร้ยางอาย
ทว่าแท้ที่จริงแล้วจะมีผู้ใดรับรู้ถึงความตื่นเต้นของมู่หลิ่งอินได้เท่าเจ้าตัวนั้นไม่มีอีกแล้ว ด้วยวรยุทธที่เขาฝึกมานาน เขารับรู้ตั้งแต่เสียงฝีเท้าเล็กๆ ที่เหยียบย่างเข้ามาในรัศมีสิบฉื่อ* แล้ว แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่อยากที่จะหยุดมืออีกต่อไป
เพล้ง!
เสียงดาบสั้นร่วงหล่นดังกระทบพื้นทันทีที่มู่หลิ่งอินกล่าวจบ
“หยาบช้า เจ้าคนชั้นต่ำ!”
“ชั้นต่ำงั้นรึ? หึๆ” มู่หลิ่งอินหัวเราะในลำคอ เพราะคำพูดและการกระทำของนางช่างสวนทางกันยิ่งนัก พวงแก้มขาวผ่องเริ่มเจือสีแดงระเรื่อ นัยน์ตากระจ่างใสประดุจน้ำค้างต้องตะวันของนางพลันเปล่งประกายเรืองรองราวกับเพิ่งจะค้นพบของเล่นที่ถูกใจ
“ชะ…ใช่” เหยาเยว่เล่อเริ่มพูดตะกุกตะกักไม่เป็นภาษา เพราะตอนนี้มู่หลิ่งอินกำลังลุกขึ้นยืนแล้วหันหน้ามาประจันกับนาง
“คุณหนูมาหาบ่าวชั้นต่ำเช่นข้ามีธุระอันใดไม่ทราบ?” นัยน์ตาสีนิลจ้องมองเรือนร่างงามราวกับเตาหลอมเหล็กที่พร้อมจะละลายความเย้ายวนเบื้องหน้าให้แหลกเหลว รังสีคุกคามเริ่มแผ่กำจายออกจากเจ้าของร่างแกร่งอย่างตั้งใจ
“…” เหยาเยว่เล่อถึงกับรู้สึกเสียการทรงตัว ร่างอรชรเดินโงนเงนจนต้องเอามือค้ำยันผนังกำแพงห้อง ลมหายใจของหญิงสาวเริ่มติดๆ ขัดๆ ยามเมื่อจ้องมองอีกฝ่ายที่กำลังย่างก้าวมาหานางด้วยความถือดี
“คุณหนู…ว่าอย่างไร ท่านมาหาข้ามีธุระอันใดรึ?” เสียงลมหายใจอุ่นๆ กระทบที่แก้มนวล น้ำเสียงแหบพร่าพร่ำกระซิบถามเบาๆ ที่ข้างใบหูงาม
“ขะ…ข้า…จะมาคิดบัญชี…กับเจ้า!” หญิงสาวพูดเสียงสั่น เพราะตอนนี้เจ้ามังกรหัวโตกำลังเบียดเสียดกับโคนขาของนาง ราวกับว่ามันอยากจะกระเซ้าเย้าแหย่ให้นางหวาดกลัวเล่น
“คิดบัญชีอะไรรึ?” คิ้วรูปดาบเลิกถามขึ้นขณะที่นิ้วของเขาเชยคางคุณหนูเยว่เล่อให้เงยขึ้นสบตากับตน
มือเล็กพยายามปัดป้องมือหยาบหนาของอีกฝ่ายด้วยอารมณ์ขุ่น “ผู้ใดใช้ให้บ่าวชั้นต่ำเช่นเจ้ามาแอบดูข้าอาบน้ำ แถมเมื่อตอนเช้าที่ผ่านมา บ่าวสารเลวผู้ใดกล้าดีมาลวนลามข้ากัน!”
“อ้อ! แค่นี้เองรึ?” มู่หลิ่งอินยังคงยียวนหยอกเอินนาง ปลายนิ้วเลื่อนไล้ใบหน้านวลเย้าแหย่เล่น
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” ใจดวงน้อยเริ่มเต้นระส่ำเมื่อถูกสัมผัสหยาบกระด้าง เขาทำให้นางเริ่มร้อนรุ่มไปทั้งกายและใจเสียแล้ว
“ถ้าไม่หยุดล่ะ คุณหนูจะทำอะไรบ่าวชั้นต่ำเช่นข้าได้” ชั่วพริบตาผ้าเช็ดตัวผืนบางที่ร่างงดใช้ปกคลุมกาย จู่ๆ ก็พลันหลุดร่วงลงพื้นเพราะลมปริศนาหอบพัดอย่างไร้ที่มา
“นี่เจ้า…”
* 1 เชียะ ประมาณ 33.33 ซม. หรือ 1/3 เมตร
* ฉื่อ chi คือมาตรวัดของจีน โดยที่ 1 ฉื่อ = 10 นิ้วจีน = 22.7 - 23.1 เซนติเมตร