บทที่2 ผีหื่นที่แอบเหงา
เช้าวันรุ่งขึ้น กังหันแวะไปที่โรงพัก เธออยากรู้เรื่องราวของคดีว่าไปถึงไหนแล้ว
“ไม่มีผู้กองกังหันโรงพักดูเหงาๆไปเลยนะครับผู้กอง”จ่าธงได้เอ่ยขึ้น
“ใช่ ไม่รู้เมื่อไรกังหันจะฟื้น”ตุลธรเสริมคำพูดของจ่า
“กังหันอยู่นี่พี่ตุล”หญิงสาวโบกมือไปมาเพื่อบ่งบอกว่าเธออยู่ตรงหน้าของชายหนุ่ม
“ไม่เห็นสินะ”เธอทำหน้าสลดลง ไม่ว่าจะทำยังไงอีกฝ่ายก็คงจะมองไม่เห็นเธอ
“ไปประชุมเถอะจ่า”
“ผู้กองตุลเข้าไปคุยกับผมที่ห้อง”กำธรเดินออกมาเรียกให้ตุลธรเข้าไปหาตนในห้องทำงาน
“ครับผู้กำกับ” หญิงสาวเดินตามทั้งสองเข้าไปในห้อง
“คดีไปถึงไหนแล้ว”
“เราจับผู้ต้องหามาได้บางส่วน ซึ่งไม่มีหยางจงอยู่ในนั้น ดูเหมือนจะเป็นแค่พวกหางแถว ซึ่งเราไม่ได้อะไรเพิ่มจากที่มีอยู่เลยครับ”
“แล้วคนที่ยิงกังหันละ รู้มั้ยว่าใคร”
“ไม่ทราบครับ ตอนนั้นมันชุลมุนเราเลยไม่รู้ว่าปืนมาจากทางไหน แต่ผมส่งกระสุนที่หมอได้จากตัวกังหันไปกองพิสูจน์หลักฐานแล้วครับ เดี๋ยวเราก็คงรู้อะไรมากกว่านี้”
“ดี จับตัวคนที่ยิงกังหันให้ได้ ฉันไม่ให้หลานฉันโดนยิงฟรีแน่”
“ครับผู้กำกับ”
“ไปทำงานต่อเถอะ”
“ขอบคุณนะคะลุงที่ช่วยหาคนที่ยิงกังหัน”กังหันเอ่ยออกมาอย่างดีใจที่ลุงที่ตนเคารพรักห่วงใยตนถึงขนาดนี้
“ผู้กองตุลครับมีเอกสารส่งมาครับ”
“ขอบคุณครับจ่า”ตุลธรเปิดซองเอกสารที่ส่งมาถึงเขาหน้าซองระบุว่ามาจากกองพิสูจน์หลักฐาน
“เป็นอย่างที่คิด”
“อะไรเหรอพี่ตุล ขอกังหันดูด้วยสิ”เธอก้มลงไปดูเอกสารในมือของผู้กองหนุ่มอย่างใคร่รู้
“มีอะไรเหรอครับผู้กอง”
“กระสุนที่ใช้ยิงกังหันมาจากปืนที่หายไปจากคลังเก็บหลักฐาน”
“แสดงว่าเป็นคนในใช่มั้ยครับผู้กอง”จ่าธงถามออกมาอย่างสงสัย
“แบบนี้แสดงว่ากังหันต้องไปเจอข้อมูลอะไรบางอย่างเข้าแน่”
หญิงสาวพยายามนึกตามที่ได้ฟังมา เธอไปรู้อะไรเหรอ ต้องเป็นเรื่องนั้นแน่ เรื่องที่เธอนัดเจอสายข่าวเพื่อที่จะบอกเธอว่าใครเป็นคนสนับสนุนหยางจงอยู่ แต่เธอยังไม่ทันได้ไปพบสายข่าวเลยเธอก็ต้องมาโดนยิงซะก่อน แสดงว่าพวกมันจะต้องรู้แน่ว่าสายข่าวจะบอกอะไรเธอ ไม่ได้การแล้วเธอต้องไปหาสายข่าวของเธอก่อน เมื่อคิดได้ดังนั้นหญิงสาวจึงนึกถึงหน้าสายข่าวแล้วไปหาเขาในทันที
หญิงสาวเดินตามสายข่าวหนุ่มเข้าไปในตรอก เธอไม่เคยมาที่นี่มาก่อนที่นี่มันที่ไหนกัน
“พวกมึงเป็นใคร”
“ตำรวจ มึงใช่มั้ยสายข่าวผู้กองกังหัน”
“ตำรวจเหรอ? ทำไมไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน”หญิงสาวพูดออกมาเมื่อเห็นหน้าของสองคนที่เข้ามาทักสายข่าวของเธอ
“ไม่ใช่ แล้วกูก็ไม่รู้จักผู้กองอะไรนั้นของพวกมึง”
“มึงแน่ใจเหรอ แต่ที่กูรู้มามึงคอยคาบข่าวไปบอกเธอนะ”
“นั้นพวกมันจะทำอะไรนะ”หญิงสาวตกใจเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายชักปืนออกมาจ่อไปที่ศีรษะของสายข่าวเธอ
“มึงคิดจะทำร้ายประชาชนเหรอ”
“มึงแส่หาเรื่องเองนะ”ชายปริศนาจ่อปืนที่หัวของสายข่าวหนุ่มพร้อมกับเอ่ยบอกเสียงเหี้ยม
ในจังหวะที่ชายปริศนาเผลอ ชายหนุ่มตรงหน้าจับปืนและถอดแยกชิ้นส่วนก่อนจะปล่อยทิ้งลงพื้นอย่างไม่ไยดีและรีบวิ่งหนีไป
“ตามมันไป อย่าให้มันรอดไปได้ไม่นั้นเราตายแน่”
“หายไปไหนแล้วละ วิ่งเร็วเป็นบ้า”กังหันที่วิ่งตามสายข่าวมาติดๆแต่เธอก็วิ่งตามไม่ทันอยู่ดียืนหอบ หายใจแรงอยู่
“เป็นผีแล้วยังต้องเหนื่อยอีกเหรอว่ะ นึกว่าจะเหนื่อยแค่ตอนเป็นคน”
“หายไปไหนแล้วเนี่ย”กังหันยังคงเดินหาสายข่าวของเธออยู่อีกสักพักแต่หาเท่าไรก็หาไม่เจอถึง แม้เธอจะพยายามนึกถึงใบหน้าของเขาก็หาไม่เจออยู่ดี
“ไปหาอีตานั้นก่อนดีกว่า”หญิงสาวเลิกล้มความตั้งใจที่จะหา แล้วพุ่งเป้าไปที่วินเซนต์แทน
“อีกแล้วนะยัยผีหื่น เข้ามาได้ถูกจังหวะตลอด”วินเซนต์ต่อว่าหญิงสาวที่เข้ามา ในตอนที่เขากำลังอาบน้ำอยู่ แล้วไม่มีทีท่าว่ายัยผีหื่นนี่จะออกไปจากตรงนี้ง่ายๆเลย
“อาบน้ำอยู่เหรอ”
“ออกไป”
“ไม่อะ อยู่ในนี้แล้วรู้สึกได้เหมือนอาบน้ำด้วยดี”
“เธอจะบ้ารึไง แล้วก็เลิกมองฉันสักที”
“ทำไม ฉันแค่มองเองนายไม่สึกหรอหรอก”ไม่พูดเปล่ากังหันยังคงยืนมองหุ่นอันเซ็กซี่ของเขาอย่างไม่วางตา
“ไม่เขินอายบ้างเลยรึไง”
“ไม่รู้สิ หุ่นนายมันดึงดูดสายตาดี”
“ให้ตายเถอะ เธอนี่มันหน้าด้านชะมัด”
“ด่าไปเหอะ ฉันไม่เจ็บหรอก ฮ่า ฮ่า ฮ่า”พูดไปเธอก็หัวเราะไป นั่นสิเธอกลายเป็นคนหน้าด้านอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ คงตั้งแต่เป็นวิญญาณเร่ร่อนอย่างนี้ แต่ช่วยไม่ได้ใครใช้ให้เขาหล่อแถมหุ่นยังน่าฟัดขนาดนั้น
“ถอย ฉันจะออกไปข้างนอกแล้ว”
“นายจะมาสั่งฉันทำไม นายเดินผ่านฉันไปได้เลยหนิ”
“ลืมตัว”วินเซนต์พูดขณะที่เอาผ้าเช็ดตัวพันสะโพกออกมาจากห้องน้ำ เดินไปนั่งที่โซฟาภายในห้อง
“เป็นไงได้เรื่องอะไรบ้างเห็นหายไปตั้งนาน”
“ที่บ้านนายแทบไม่มีอะไรให้ฉันสืบเลย แต่ฉันไปหาแม่นายที่โรงพยายบาลมา มีคนมาเยี่ยมแม่นายด้วย”
“ใคร??”
“ฉันไม่รู้ ดูเขาสนิทกับแม่นายดีนะ แถมเข้ายังบอกหมออีกว่าไม่ให้แม่นายฟื้นขึ้นมาก่อนที่จะเลือกประธานอะไรนี่แหละ”
“เธอเห็นหน้ามันไหม”
“อืม”
“นั้นมาดูรูปแล้วบอกมาว่าใช่คนในรูปรึเปล่า”วินเซนต์เปิดรูปผู้เป็นบิดาให้หญิงสาวดู
“ไม่ใช่ เขาดูสูงกว่านี้นิดนึง หน้าตาดูเจ้าระเบียบหน่อยๆ”
จากคำบอกกล่าวของหญิงสาว เขานึกไม่ออกเลยว่าใคร ญาติของเขาเหรอ ใครที่ดูเจ้าระเบียบ ก็เหมือนจะไม่ค่อยมี เขาสนิทกับญาติฝ่ายบิดา แต่เขาแทบไม่ได้เจอกับญาติฝ่ายมารดาเลย จากคำบอกเล่าของหญิงสาว เขาไม่เห็นว่าใครจะเข้าเค้าตามที่หญิงสาวบอกเลย