บทที่2

1123 Words
ติ๊ด ติ๊ด เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นดึงสติของแองเจิ้ลให้หันกลับมา ฝ่าเท้าเล็กเดินกลับเข้าไปในห้องนอนชื่อของเพื่อนสนิทที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอทำให้เจ้าตัวคลี่ยิ้มกว้าง "ฮัลโหล" "ไม่ต้องมาทำเสียงหวานอีนางมาร ตื่นแล้วก็รีบอาบน้ำแต่งตัวอีกหนึ่งชั่วโมงฉันจะไปรับ"เสียงแหลมของปลายสายทำเอาแองเจิ้ลถึงกับต้องยกโทรศัพท์ออกห่างจากหู พลางกลอกตากับคำพูดของเพื่อนสนิทอย่างพริกไทย "ให้ตายเถอะยายพริก นี่แกจะแหกปากให้คนทั้งหมู่บ้านได้ยินเลยหรือไง" "อย่ามาพูดดีเลยค่ะ แกก็ไม่ต่างจากฉันหรอกอีนางมาร รีบอาบน้ำแต่งตัวเดี๋ยวฉันต้องไปรับยายแม่ชีที่บ้านมันอีก" "โอเค แค่นี้แหละเดี๋ยวฉันจะรีบไปอาบน้ำ" "ให้ไว" ติ๊ด แองเจิ้ลส่ายหน้ากับเพื่อนสนิทของตัวเองก่อนจะรีบเดินไปคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไป "จะไปซื้อชุดนักศึกษาแล้วเหรอลูก"อมีนาเอ่ยถามเมื่อเห็นบุตรสาวเดินลงบันไดมา นางฟ้าตัวน้อยของเธอบัดนี้โตเป็นสาวดูสวยสง่าเป็นที่น่าชื่นชม อมีนามองหน้าบุตรสาวเพียงคนเดียวของตัวเองด้วยความรัก "ใช่ค่ะ เดี๋ยวพริกไทยกับอบเชยจะมารับ" "ทานข้าวเช้ากันก่อนสิลูก แม่กำลังจะขึ้นไปตามหนูอยู่พอดี" "ได้ค่ะ"บุตรสาวเดินคล้องแขนผู้เป็นแม่เดินเข้าไปในห้องรับประทานอาหารซึ่งตอนนี้มีนิคาลอสผู้เป็นบิดากำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ตรงเก้าอี้ประตำแหน่ง "อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณพ่อ" ฟ๊อด น้ำเสียงอ่อนหวานของบุตรสาวเอ่ยกล่าวทักทายมาพร้อมกับแรงสัมผัสตรงบริเวณแก้มเรียกกำลังใจให้กับผู้เป็นบิดาและรอยยิ้มจากผู้เป็นมารดาได้เป็นอย่างดี แองเจิ้ลนางฟ้าตัวน้อยของพวกเขามันจะขี้อ้อนอยู่แบบนี้เสมอ "ชื่นใจจังเลยค่ะ แก้มคุณพ่อหอมที่สุด" "หึ ๆ อย่าหอมเยอะล่ะเก็บไว้ให้แม่ของลูกหอมพ่อบ้าง" "คุณก็ พูดอะไรอายลูกบ้างสิคะ"อนีนาเขินจนแก้มเปลี่ยนสีท่าทีของมารดาเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้จากสองพ่อลูก "เป็นยังไงบ้างคะคุณพ่อ งานแต่งของคุณลุงเอกอนันต์"แองเจิ้ลเปิดประเด็นถามในระหว่างที่ทั้งสามกำลังนั่งรับประทานอาหารเช้า "เป็นงานเล็ก ๆ ที่เชิญแขกเพียงแค่ไม่กี่คน ส่วนใหญ่ก็มีแต่บรรดาพวกเพื่อน ๆ "แองเจิ้ลพยักหน้าอย่างเข้าใจน่าเสียดายที่เธอไม่ได้ไปร่วมงานเลยอดเห็นหน้าเจ้าสาวของคุณลุงที่เธอเคารพเหมือนบิดาคนหนึ่ง "น่าเสียดายจังเลยค่ะ เมื่อวานหนูน่าจะไปร่วมงานด้วยอดเห็นหน้าเจ้าสาวของคุณลุงเลย" "จริงสิ"นิคาลอสเผลอนึกอะไรได้เขารีบล้วงกระเป๋ากางเกงคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดหมายจะเลื่อนหารูปถ่ายก่อนจะยื่นไปให้บุตรสาวได้ดู แองเจิ้ลขมวดคิ้วเข้าหาพลางยกโทรศัพท์ของบิดาขึ้นมาดูดวงตากลมโตเพ่งมองหญิงสาวผู้มีใบหน้าสวยอยู่ในชุดเจ้าสาวอย่างพิจารณา "คุณพ่อแน่ใจนะคะว่าผู้หญิงคนนี้บรรลุนิติภาวะแล้ว"เพราะดูจากใบหน้าของเธออายุน่าจะไม่เกินยี่สิบหรือมากกว่ากันสักหนึ่งปีหรือสองปี "จากที่พ่อได้ฟังไอ้เอกมันเล่ามา เธอชื่อข้าวสวยอายุยี่สิบเอ็ดปี กำลังศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกับลูกนี่แหละ" "กำลังเรียน แล้วทำไมถึงได้ตัดสินใจแต่งงานกับลุงเอกแบบนี้ล่ะคะ" "พรหมลิขิตล่ะมั้งลูก สมัยนี้ความรักก็เกิดขึ้นได้ทุกช่วงวัยและเวลา"อนีนาเอ่ยขึ้นพลางตัดอาหารใส่จานอาหารของสามี "ไม่น่าเชื่อ ผู้หญิงคนนี้ยังดูเด็กไม่น่าตัดสินใจแต่งงานเร็วขนาดนี้"แองเจิ้ลเอ่ยขึ้นตามความคิดของตัวเอง ก่อนจะก้มมองรูปถ่ายของผู้หญิงคนนั้นอีกครั้งเธอดูอ่อนหวาน น่ารัก บอบบางน่าทะนุถนอมราวกับตุ๊กตา เคลือบแก้วแต่ถึงยังไงก็เถอะขอให้เธอเป็นภรรยาที่ดีของคุณลุงของเธอก็แล้วกัน "ว๊าย ตายแล้ววันนี้คุณนางฟ้าแต่งตัวได้แซ่บมากเลยค่ะ"เสียงแหลมของพริกไทยเอ่ยทักทันทีเมื่อแองเจิ้ลก้าวขาขึ้นรถคันหรู หญิงสาวใบหน้าสวยโบกมือลาผู้เป็นแม่ก่อนจะหันมาสนใจเพื่อนสนิทแบบรู้ไส้รู้พุงทั้งสอง "อย่าแขวะเพื่อนค่ะคุณพริกไทย เธอก็ไม่ได้ต่างอะไรจากฉัน ว่าแต่แกเถอะยายอบเชยจะติดกระดุมปิดไปถึงไหนไม่ร้อนหรือไง"แองเจิ้ลส่ายหน้ากับการแต่งตัวคนละแนวของเพื่อนสนิททั้งสอง นิสัยของพริกไทยไม่ต่างอะไรจากเธอสักเท่าไหร่แต่อบเชยเธอเปรียบดั่งแก้วใสที่มาพร้อมกับการแต่งตัวที่ใครต่อใครต่างเห็นก็พากันส่ายหน้า กระโปรงยาวถึงตาตุ่มกับเสื้อผ้าในลุ๊คคุณป้าที่เธอเห็นทีไรก็ไม่เคยชินแม้ว่ามันจะผ่านมาหลายปี "จะเข้าปีหนึ่งแล้วนะไม่คิดจะเปลี่ยนแปลกการแต่งตัวสักหน่อยหรือ" "ไม่ล่ะ อบเชยว่าแต่งแบบนี้ก็ดีไปอีกแบบ"แม่ชีประจำกลุ่มหันมาฉีกยิ้มหวานให้คนที่นั่งอยู่เบาะหลังอย่างน่ารัก แองเจิ้ลถึงกับถอนหายใจกับความขี้กลัวของเพื่อนสนิท "แกมีของดีอยู่กับตัวเองแท้ ๆ ทำไมต้องปกปิดมันด้วยฉันกับยายพริกไทยล่ะไม่เข้าใจจริง ๆ " "นั่นสิ อบเชยแกเป็นผู้หญิงที่สวยมากเลยนะถ้าแกไม่ใส่ชุดป้า ๆ กับแว่นตาอันหนา ๆ เท่าฝาบ้านอันนั้น"ริมฝีปากเล็กคว่ำลงดวงตาก้มมองชุดที่ตัวเองใส่ผ่านเลนส์แว่นสายตา "ไม่เอาหรอก อบเชยว่าแบบนี้มันก็ดีอยู่แล้ว" "เฮ้อ ฉันล่ะเหนื่อยกับแม่ชีอย่างแกเลยจริง ๆ ยายอบเชย"แองเจิ้ลมองเพื่อนสนิททั้งสองอย่างปลงใจ พริกไทยเป็นผู้หญิงที่เปรี้ยวจนเข็ดฟัน เธอนั้นพกความมั่นใจมาเกินร้อย เรียกได้ว่าเปรี้ยว แสบ ซ่า จนใคร ๆ ต่างพากันหันมามอง ต่างจากอบเชย รายนี้เข้าขั้นหนัก ทั้งการวางตัวไม่กล้าเข้าหาใคร อีกทั้งยังบุคลิกการแต่งตัวที่ล้าสมัยจนตกเป็นเรื่องสนุกของคนที่มองมา และการไม่กล้าสู้คนจนเธอและพริกไทยต้องคอยปกป้องอยู่เสมอ เฮ้ออออ เพื่อนของเธอแต่ละคน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD