"ยามาแล้ว! หญ้าเทวะมาแล้ว!"
เสียงตะโกนของทหารยามหน้าตำหนักหย่งชิงดังฝ่าความเงียบสงัดขึ้นมา ปลุกความหวังที่กำลังมอดดับให้ลุกโชนขึ้นอีกครั้ง
ไป๋เหวินเจี๋ยที่กำลังป้อนยาประคองชีพให้เหยียนอวี่รีบผุดลุกขึ้นทันที เขาวิ่งถลันออกไปที่หน้าประตู เขาจึงทันได้รับร่างโชกเลือดของหลิวจื้อเฉินที่ถูกหามเข้ามา
"เหวิน... เจี๋ย..." จื้อเฉินพยายามฝืนลืมตา มือที่สั่นเทายื่นห่อผ้าเปื้อนเลือดให้ "ข้า... เอามาให้เจ้าแล้ว..."
ไป๋เหวินเจี๋ยรับห่อผ้านั้นมา มือของเขาสั่นยิ่งกว่าคนเจ็บ น้ำตาลูกผู้ชายไหลอาบแก้ม "เจ้าบ้า... เจ้ามันบ้าที่สุด! ใครใช้ให้เจ้าฝืนตัวเองขนาดนี้!"
"สัญญา... คือสัญญา..." จื้อเฉินยิ้มมุมปาก ก่อนจะหมดสติไปในอ้อมแขนของหมอหนุ่ม
"พาเขาไปทำแผลเดี๋ยวนี้!" ไป๋เหวินเจี๋ยตะโกนสั่งทหาร "ถ้าเขาเป็นอะไรไป ข้าจะเผาโรงหมอทิ้ง!"
แม้ใจจะห่วงคนรักแทบขาด แต่หน้าที่แพทย์ต้องมาก่อน ไป๋เหวินเจี๋ยรีบนำหญ้าเทวะที่ยังสดใหม่และเปล่งประกายสีเงินยวงเข้าห้องปรุงยา เขาใช้เวลาเพียงชั่วก้านธูปสกัดเอาน้ำยางบริสุทธิ์ของมันออกมา ผสมกับรากหยกขาวและเลือดนกกระเรียน
"ฝ่าบาท! ยาเสร็จแล้วพะย่ะค่ะ!"
องค์ชายจวิ้นอี่ที่นั่งเฝ้าเหยียนอวี่อยู่ไม่ห่าง รีบรับถ้วยยามา พระหัตถ์ประคองศีรษะของคนรักขึ้น บรรจงป้อนยาทีละช้อน แต่เหยียนอวี่ในยามนี้ไร้สติจนกลืนยาไม่ได้ ยาไหลย้อนออกมาที่มุมปาก
"เหยียนอวี่... กลืนสิ... ได้โปรด..." จวิ้นอี่เสียงสั่น "เจ้าสัญญากับข้าแล้วนะ"
เมื่อเห็นว่าป้อนไม่ได้ผล จวิ้นอี่จึงตัดสินใจอมยาไว้ในปาก แล้วก้มลงประกบจูบ ส่งผ่านตัวยาลงสู่ลำคอของเหยียนอวี่ด้วยลมหายใจของพระองค์เอง
หนึ่งคำ...
สองคำ...
จนกระทั่งยาหยดสุดท้ายถูกส่งผ่านไป
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าทรมาน
ภายในห้องเงียบกริบจนได้ยินเสียงเข็มตก จวิ้นอี่กุมมือที่เย็นเฉียบของเหยียนอวี่ไว้แนบแก้ม ภาวนาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวงที่พระองค์เคยลบหลู่
หากชีวิตข้ามีค่าพอ... ข้าขอแลกมันกับเขา
ทันใดนั้น... นิ้วมือเรียวในอุ้งมือใหญ่ก็กระตุกเบาๆ
"อือ..."
เสียงครางแผ่วเบาดังขึ้น จวิ้นอี่เงยหน้าขวับ เห็นเปลือกตาของเซี่ยเหยียนอวี่ค่อยๆ ขยับ ก่อนจะปรือขึ้นช้าๆ เผยให้เห็นดวงตาคู่สวยที่แม้จะดูอ่อนล้า แต่กลับมีความสุกใสแห่งชีวิตกลับคืนมา
"ฝ่า... บาท..."
"เหยียนอวี่!" จวิ้นอี่โผเข้ากอดร่างนั้นไว้แน่น น้ำตาแห่งความปิติไหลพราก "เจ้ากลับมาแล้ว... เจ้ากลับมาหาข้าแล้ว!"
ไป๋เหวินเจี๋ยรีบเข้ามาจับชีพจร ก่อนจะระบายยิ้มกว้างออกมาทั้งน้ำตา
"ปาฏิหาริย์... ปาฏิหาริย์จริงๆ พะย่ะค่ะ! ชีพจรของนายน้อยกลับมามั่นคงแล้ว วิญญาณผสานเข้ากับร่างสมบูรณ์... และที่สำคัญ..."
หมอหนุ่มชะงักไปนิดหนึ่ง ก่อนจะมองหน้าจวิ้นอี่และเหยียนอวี่ด้วยแววตาเป็นประกาย
"ชีพจรอีกสายหนึ่ง... ก็แข็งแรงขึ้นด้วย"
เหยียนอวี่ชะงัก เขารีบยกมือขึ้นทาบหน้าท้องแบนราบของตัวเอง สัมผัสได้ถึงไออุ่นจางๆ ที่แผ่ออกมาจากภายใน
"ลูก..." เหยียนอวี่น้ำตาไหล "เจ้าช่วยข้าไว้ใช่ไหม?"
ไป๋เหวินเจี๋ยพยักหน้า "พลังชีวิตบริสุทธิ์ของทารก เป็นตัวยึดเหนี่ยววิญญาณของท่านไว้ในขณะที่ยากำลังออกฤทธิ์... เขาเป็นคนช่วยท่านพะย่ะค่ะ"
จวิ้นอี่วางมือทับลงบนมือของเหยียนอวี่ สัมผัสถึงชีวิตเล็กๆ ที่พวกเขาร่วมกันสร้าง
"ขอบใจเจ้า... ขอบใจที่กลับมา"
…
…
...
สามเดือนต่อมา
สายลมฤดูใบไม้ผลิพัดพาความอบอุ่นมาเยือนแผ่นดินอีกครั้ง
ณ จวนคีรีรมย์ บ้านพักตากอากาศหลังงามที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาเขียวขจี ห่างไกลจากความวุ่นวายของเมืองหลวง
เหยียนอวี่ในชุดลำลองสีอ่อนนั่งเอนกายอยู่บนเก้าอี้โยกที่ระเบียง หน้าท้องของเขานูนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าที่เคยซีดเซียวบัดนี้อิ่มเอิบไปด้วยความสุข เขากำลังนั่งปักผ้าเช็ดหน้าผืนเล็ก ลวดลายมังกรเล่นลม
"อย่าหักโหมนักสิ ท่านหมอสั่งให้เจ้าพักผ่อนนะ"
เสียงทุ้มดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงของจวิ้นอี่ที่ในตอนนี้กลายเป็นอดีตองค์ชายเดินเข้ามาพร้อมชามรังนกตุ๋น เขาถอดชุดขุนนางทิ้งไป เหลือเพียงชุดผ้าฝ้ายธรรมดาที่ดูอบอุ่นและเข้าถึงง่าย
"ข้าแค่นั่งปักผ้า ไม่ได้ไปรบกับใครเสียหน่อย" เหยียนอวี่เถียงยิ้มๆ รับชามรังนกมา "แล้ว... เรื่องในวังเรียบร้อยดีหรือไม่?"
"เรียบร้อยดี" จวิ้นอี่นั่งลงข้างๆ "หลงอวี่ทำหน้าที่ฮ่องเต้ได้ดีเยี่ยม ขุนนางเก่าๆ ที่เคยสร้างปัญหาถูกกวาดล้างจนหมด ตอนนี้ราชสำนักมั่นคงแล้ว... ข้าหมดห่วงเสียที"
"ท่านไม่เสียดายบัลลังก์หรือ?"
จวิ้นอี่ส่ายหน้า เอื้อมมือมาลูบหน้าท้องนูนๆ ของเหยียนอวี่
"บัลลังก์ที่ไร้เจ้า... มันก็แค่เก้าอี้เย็นๆ ตัวหนึ่ง แต่ที่นี่... คือโลกทั้งใบของข้า"
เหยียนอวี่พิงศีรษะลงบนไหล่กว้าง ซึมซับความสุขที่เขาไม่เคยคิดว่าจะได้รับในชาติก่อน
ที่ลานหน้าจวน เสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นเรียกความสนใจของทั้งคู่
"ไอ้บ้าจื้อเฉิน! ข้าบอกว่าอย่าปีนต้นท้อ! เดี๋ยวกิ่งมันหัก!"
"โธ่ ท่านหมอ... ข้าแค่จะเก็บลูกท้อที่ใหญ่ที่สุดให้เจ้า ข้าอุตส่าห์หายดีแล้วนะ!"
หลิวจื้อเฉินที่หายวันหายคืนราวกับปีศาจกำลังปีนต้นไม้โชว์หมอไป๋ที่ยืนเท้าเอวดุอยู่ข้างล่าง ทั้งสองกลายเป็นคู่กัดและคู่รักที่คอยดูแลความปลอดภัยให้จวนแห่งนี้
เหยียนอวี่มองภาพนั้นแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ
"ดูเหมือนพวกเขาจะมีความสุขกันดีนะ"
"ใช่..." จวิ้นอี่โอบไหล่คนรัก "และเราก็เช่นกัน"
"จวิ้นอี่..."
"หืม?"
"ข้าเคยเกลียดท่าน... เคยสาบานว่าจะไม่รักท่านอีก" เหยียนอวี่สารภาพความในใจ "แต่ตอนนี้... ข้าขอบคุณสวรรค์ที่ให้โอกาสข้าได้กลับมารักท่านอีกครั้ง"
จวิ้นอี่ก้มลงจูบหน้าผากมน
"และข้า... ก็ขอบคุณที่เจ้ายอมให้โอกาสข้า ได้ชดใช้และดูแลเจ้า"
สายลมพัดผ่าน กลีบดอกท้อปลิวว่อนไปทั่วท้องฟ้า ดุจพยานรักแห่งคำสัญญาที่ข้ามภพข้ามชาติ
เรื่องราวความแค้นได้จบลงแล้ว... เหลือเพียงตำนานรักบทใหม่ที่พวกเขาจะเขียนมันขึ้นมาด้วยกัน ตราบชั่วดินฟ้าสลาย