บทนำ

1187 Words
แสงแฟลชที่แข่งกันส่องไปยังผู้คนด้านหน้า กระทบเข้ากับดวงตากลมโตของหญิงสาวจนต้องเผลอหันหน้าหนี มือเรียวหยาบของผู้หญิงมีอายุจับใบหน้าของเธอให้หันกลับไปสู้แสงสว่างสีขาวนี้ พร้อมทั้งบีบแขนของเธอพูดเบาๆบังคับให้เธอยิ้มออกมา เด็กสาวทำได้แค่ปั้นหน้าฝืนยิ้มออกมาให้นักข่าวได้ภาพที่สวยงาม เด็กสาววัยกำลังโตอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่ เพรียบพร้อมไปด้วยความสะดวกสะบาย ข้าวของที่ใช้ล้วนเป็นของดีราคาแพง การใช้ชีวิตมีพี่เลี้ยงคอยติดตามไม่ว่าต้องการอะไร เพียงแค่เอ่ยปากบอกสาวใช้ เธอก็จะได้ทุกสิ่งมาวางกองไว้ตรงหน้า แต่ใครจะรู้ภายใต้รูปภาพที่มีรอยยิ้มกลับซ่อนความปวดร้าวเอาไว้ด้านใน บ้านหลังใหญ่ที่เธออาศัยอยู่มีเพียงพ่อและพี่ชายที่คอยดูแลเธอเท่านั้น เวลาใดที่ถูกแม่ใหญ่อาละวาดดุด่าหรือลงไม้ลงมือกับเธอ พี่ชายที่แสนดีจะคอยเข้ามาปกป้องและปลอบเธอเสมอ มันทำให้เธอรู้สึกขอบคุณและอบอุ่นทุกครั้ง “ไม่เป็นไรนะเพลง อย่าร้องไห้นะพี่จะคอยปกป้องเราเอง” “ฮือออ เพลงเจ็บแม่ใหญ่ตีเพลงเพราะเพลงดื้ออีกแล้ว” พี่ชายที่แสนดีรีบดึงน้องสาวเข้าไปกอด พร้อมทั้งเป่าแผลจากรอยที่โดนแม่ตัวเองตี เขาโกรธแม่ตัวเองทุกครั้งที่ลงไม้ลงมือกับผู้หญิงตัวเล็กๆแบบเพลงได้ยังไง เพลงทั้งน่ารักและแสนดีแม้ว่าแม่ของเขาจะทำท่ารังเกียจหรือดุด่าว่าเธอยังไง เธอก็ยังไม่เคยโกรธหรือเกลียดแม่เขาเลย มีเพียงแม่ของเขาเท่านั้นที่ตั้งท่ารังเกียจเด็กสาวคนนี้ “ตาพัชเลิกโอ๋มันได้แล้ว แค่ให้ยืนยิ้มถ่ายรูปแค่นี้ต้องสร้างเรื่อง สำออยดีนัก” วรรณศิริเห็นลูกชายเข้าไปปลอบลูกนอกคอก ไม่วายต้องเดินเข้ามาแซะ หึ ถ้าหากว่าทุกคนไม่สงสารมันที่แม่มันต้องตาย อย่าหวังเลยว่าจะได้เข้ามาอยู่ใช้นามสกุลร่วม แถมยังต้องแสดงเป็นแม่ลูกที่รักกันครอบครัวสุขสันต์ให้สื่อเห็นอีก “พอสักทีคุณวรรณ คุณจะตั้งท่ารังเกียจอะไรเพลงนัก เพลงก็แค่แสบตาที่ต้องเจอแสงแฟลชมากมาย เพลงเป็นแค่เด็กนะไม่แปลกหรอกที่ลูกจะทนไม่ไหว” ก่อกิตเดินเข้ามาช่วยห้ามภรรยา ที่เอาแต่ตวาดใส่ลูกสาว “มันไม่ใช่ลูกฉัน ลูกคุณกับชู้ของคุณต่างหาก แค่คุณมีคนอื่นก็เท่ากับหยามฉันมากพอแล้ว นี่ยังกล้าเอาลูกสาวมันเข้ามาอยู่ในบ้านอีก ฉันยอมให้มันอยู่อย่างสุขสบายก็ดีเท่าไหร่แล้ว หึ มีแต่คนคอยให้ท้าย ระวังไว้เถอะมันจะเคยตัวจนร่านไปเอาผัวคนอื่นเหมือนแม่มัน” “คุณวรรณ!!” ก่อกิตสุดจะทนกับภรรยา จึงได้หันหลังเดินหนีไปทางอื่นแทน ส่วนเด็กน้อยสองคนที่ฟังมาตั้งแต่ต้น พี่ชายเป็นห่วงความรู้สึกของน้องสาวไม่อยากให้ต้องได้ยินคำด่า ได้แต่ยกมือขึ้นมาปิดหูเด็กสาวเอาไว้ เด็กสาวที่ยังคงสะอื้นไห้กับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ได้แต่มองหน้าพี่ชายตาปริบๆ จนเมื่อทุกอย่างคลี่คลายลง พชรจึงฉีกยิ้มให้กับคีตีกาใช้คำพูดหลอกเด็กเพื่อให้น้ำตาของเธอหยุดลง “ถ้าเพลงหยุดร้องพี่จะพาไปร้านเครื่องเขียนดีไหม” คีติกาได้ยินดังนั้นจึงพยักหน้าตอบกลับไปอย่างไว พลางหยุดสะอื้นไห้และเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าของตัวเองลวกๆ เมื่อไหร่ที่พี่ชายพูดว่าจะพาไปร้านเครื่องเขียนในห้าง เธอจะปรับอารมณ์เป็นเด็กน้อยยิ้มเก่งและโห่ร้องดีใจทันที ทำเอาพี่ชายที่แสนดีตรงหน้าต้องส่ายหน้าให้กับความทะเล้นของน้องสาวตัวดี 5 ปีต่อมา “ตัวเล็กระวังงงง!!! กรี๊ดดดด!!” “เห้ยยยย โครมมมมม!!!! ชายหนุ่มหักบิ๊กไบค์หลบคนที่อยู่ ๆก็วิ่งเข้ามาตัดหน้า ทำให้เขาเสียหลักตัวไถลไปกับถนนคอนกรีตจนเนื้อตัวเป็นรอยถลอกยาวหลายจุด ส่วนมอเตอร์ไซด์บิ๊กไบค์กระเด็นไปกระแทกกับต้นกล้วยข้างทางจนล้มลง หญิงสาวที่เป็นต้นเหตุนั่งมองดูภาพสโลว์ตรงหน้าด้วยแววตาปริบๆ ก่อนจะต้องเม้มปากเป็นเส้นตรงมองคนเจ็บอย่างรู้สึกผิด ในมือกอดรั้งเจ้าตัวเล็กที่เธอสละชีวิตกระโดดเข้ามาช่วยมันไว้แน่น “เธออีกแล้วเหรอ อยากตายมากหรือไงวะถึงกล้าวิ่งมาตัดหน้ารถแบบนี้ และแค่เพื่อช่วยหมาตัวเล็กๆตัวเดียวเนี่ยนะ” หญิงสาวย่นจมูกคว่ำปากลงเตรียมพร้อมจะเถียงกลับ ยันตัวเองลุกขึ้นจะได้ไม่รู้สึกว่าเขากำลังข่มเธออยู่ “แล้วใครใช้ให้นายขับรถเร็วขนาดนี้หะ ถ้าฉันมาช่วยเจ้าตัวเล็กไว้ไม่ทันมันก็คงโดนนายเหยียบแล้ว” “แล้วยังไงหะ ดูสิ้ว่าตอนนี้ไอ้หมาตัวเล็กมันปลอดภัย แล้วใครที่ต้องมาเจ็บตัวจากการกระทำสิ้นคิดของเธอ” ศิลาเดินเข้าไปยกนิ้วชี้จิ้มเข้าไปที่หน้าผากของหญิงสาวจนหน้าเธอเงยขึ้น ทำเอาเธอหลับตาถอนหายใจข่มอารมณ์ตัวเองเอาไว้ก่อน เพราะว่าตัวเองเป็นต้นเหตุทำให้เขาเจ็บตัว “หยุดโวยวายใส่ฉันได้แล้ว ฉันจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้” คีตีกาทำท่าจะเดินหนีเขาไปแต่ต้องหยุดลงเพราะเขารั้งเธอเอาไว้ “แล้วนี่เธอจะไปไหน ไหนบอกจะจ่ายค่ารักษา” “ก็จ่ายไง นายก็ไปหาหมอสิแล้วก็เอาบิลมา หรือส่งเลขบัญชีมาก็ได้แล้วฉันจะโอนให้” “เธอคิดจะชิ่งเหรอ เธอเป็นคนทำให้ฉันเจ็บตัวเธอต้องรับผิดชอบพาฉันไปโรงพยาบาล” หญิงสาวทำได้แค่ถอนหายใจอย่างรำคาญก่อนจะยอมทำตามเขา ก่อนจะถึงโรงพยาบาลเธอขอให้เขาช่วยแวะคลินิกรักษาสัตว์ด้านหน้าก่อน เพราะดูเหมือนว่าเจ้าตัวเล็กจะบาดเจ็บมาก่อนแล้ว ถึงได้วิ่งไม่ทันตอนศิลาขับรถมา ถึงแม้ศิลาจะหงุดหงิดแค่ไหนก็ต้องยอมพาเธอแวะก่อนอยู่ดี เพราะเธอขู่เอาไว้ว่าถ้าไม่พาแวะเธอจะฟ้องแม่ของเขาที่เขาแอบขับบิ๊กไบค์ทั้ง ๆที่แม่เขาห้ามมาตลอด “ขอบใจ รอตรงนี้แหละเดี๋ยวมา” “หึต้องรออยู่แล้ว อย่าคิดชิ่ง” “ชิ!!” คนตัวเล็กแยกเขี้ยวใส่ชายหนุ่มก่อนจะเดินสะบัดก้นเข้าคลินิกไป ทำเอาศิลาเปล่งเสียงหัวเราะออกมาด้วยความสะใจ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูแบรนด์ดังในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาตอบแชทคนคุยที่ทำให้เขายิ้มก่อนนอนทุกวัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD