บทที่ 4 อยากรู้จัก (มาก)

1850 Words
.... อีกด้าน ..... ผมเดินตามเธออกมาติดๆ ยังหายไปไหนก็ไม่รู้ไวฉิบ ผมมองหาเธออยู่สักพักด้วยความร้อนรนเพราะอยากทำความรู้จักกับเธอมากอย่างไม่มีเหตุผลใดๆ เลยสักนิด ผมเจอเธอแล้ว " รอผมแป๊ปนะครับคนสวย " ผมพึมพำอยู่คนเดียวด้วยรอยยิ้ม ในเมื่อเพื่อนไม่อยู่ฉันก็รีบออกมาทันที เพราะนี่ก็เริ่มดึกแล้ว วันนี้ฉันไม่ได้เอารถมาด้วยจะมีรถผ่านมาบ้างไหมเนี่ย เฮ่อ..คิดแล้วก็ต้องถอนหายใจยาวๆ แถมชุดนี่ก็นะเกาะอกไปอีก ยัยขนมฝากไว้ก่อนเถอะยัยเพื่อนบ้า แค่คิดถึงก็หงุดหงิดแล้ว " ไม่ทราบว่ารออะไรอยู่ครับ " " อุ้ย ตาเถร " ขวัญเอ้ยขวัญมานะยัยลิตาเย็นไว้เย็นไว้ ฉันพึมพำกับตัวเอง " อะไรเย็นหรอครับตอนนี้ดึกมากแล้ว คุณรอรถหรอแถวนี้ไม่ค่อยมีรถผ่านหรอกคุณพักที่ไหนล่ะเดี๋ยวผมไปส่ง " ฉันหันมองคนตรงหน้าคนที่บอกว่าจะไปส่งฉัน มองไกล้ๆ หล่อชะมัด เอ้า อิตาคนที่นั่งมองฉันในร้านนี่ตายๆ ฉันควรไว้ใจเขาหรือกลัวเขาดีเนี่ยแถวนี้ก็ไม่มีใครด้วยสิ " ขอบคุณครับที่ชม ใช่ครับผมเป็นคนที่นั่งมองคุณอยู่ในร้านเห็นผมด้วยสินะ แล้วใครบอกว่าไม่มีคน ก็มีผมกับคุณไงอีกอย่างผมไว้ใจได้แน่นอนล้านเปอร์เซนต์ " หืมม เหวอสิคะฉันมั่นใจว่าไม่ได้พูดออกไป แค่คิดในใจเองนะแต่ทำไมเขารู้หมดเลยล่ะ " ใช่ครับคุณไม่ได้พูด แต่ผมได้ยินเองผมขอรับรองความปลอดภัยของคุณด้วยเกียรติของหมอเลย นี่นามบัตรของผม " ผมอยากรู้จักเธอจริงๆ ไม่รู้ทำไม ฉันรับนามบัตรของเขามาดูด้วยมือสั่นๆ หวังว่าเขาคงไม่ใช่ผะ..ผะ..ผีหรอกนะ " ใช่ครับผมเป็นคนคุณวางใจได้ลองจับตัวผมดูสิอีกอย่างผีที่ไหนจะหล่อขนาดนี้ " มีแต่ผมที่พูดอยู่คนเดียวเธอไม่ยอมพูดอะไรเลยครับนอกจากคำอุทานตั้งแต่เราเจอกัน เฮ่อ..แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะผมได้ยินสิ่งที่เธอคิดก็เหมือนพูดแหละเนอะ..ผมเห็นเธอจ้องนามบัตรใหญ่เลย " ผู้ชายบ้าอะไรหลงตัวเองชะมัด อืมแต่ก็หล่อจริงๆ แหละไม่ได้แกจะคิดไม่ได้แล้วนะยัยลิตาเดี๋ยวเขารู้สติค่ะสติ ฉันพึมพำเบาๆ " " เอ่อ..เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะครับ " " อ้อ ฉันพูดว่าฉันเชื่อค่ะว่าคุณเป็นคนอีกอย่างไม่ต้องจับตัวก็ได้ค่ะ ว่าแต่ทำไมคุณถึงได้ยินสิ่งที่ฉันคิดล่ะคะ " ฉันถามเขาในสิ่งที่ฉันสงสัยออกไป " ผมก็ไม่รู้หรอกมันติดตัวมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว แต่ก็ได้ยินเป็นบางคนนะ แถมบางครั้งผมก็เห็นวิญญาณด้วย " บอกให้เธอเชื่อใจสักหน่อย " อ้อ แบบนี้นี่เอง " " ครับ แต่ผมว่าตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว แล้วคุณจะกลับยังไงหรือว่าให้ผมไปส่งมั๊ย " มันเริ่มดึกมากแล้ว อีกอย่างร้านก็เริ่มไม่มีคนแล้ว " อ่ะเอ่อคือว่า " ใครจะกล้าไปกันเล่า " คุณยังคงกลัวผมอยู่ใช่ไหมครับ " ผมเห็นท่าทีของเธอยังคงไม่ไว้ใจผมสินะ " ถ้าฉันตอบว่าใช่ล่ะคะ คนเราพึ่งเจอกันก็ต้องระแวงเป็นธรรมดานี่คะเพราะเราไม่รู้จักกันมาก่อนเลย " ฉันพูดด้วยความประหม่าที่ถูกจับได้ซะแล้ว เขินเลย " นั่นสิเนอะเจอกันครั้งแรก แถมดึกๆ ดื่นๆ คุณเองก็เป็นผู้หญิงต้องกลัวเป็นธรรมดาอยู่แล้ว เอางี้มั๊ยผมพาคุณไปหายามหน้าร้านแล้วบอกเขาว่าผมจะไปส่งคุณ คุณให้เบอร์เขาไว้พอถึงที่ พักคุณก็โทรบอกเขาว่าคุณปลอดภัยดี เพื่อความสบายใจของคุณเองและเพื่อยืนยันว่าผมบริสุทธิ์ใจกับคุณ " ผมพูดเพื่อให้เธอสบายใจ " อ่ะเอ่อ ไม่ต้องขนาดนั้นหรอกค่ะฉันเชื่อคุณว่าแต่รถคุณอยู่ไหนล่ะคะ " ฉันถามเขาไปก็ลูบแขนตัวเองไปเพราะอากาศเริ่มจะเย็นแล้ว " คลุมไว้ครับอากาศเริ่มเย็นแล้ว เดินตามผมมาได้เลย " อยู่ๆ เขาก็ถอดเสื้อแจ็คเก็ตมาคลุมให้ฉัน " นี่คุณ ไม่ต้องก็ได้ค่ะ " ฉันเรียกเขาแล้วรีบเดินตามไป " รับไว้เถอะ ผมเห็นนะว่าคุณหนาวแล้ว " เขาพูดจบฉันก็เดินตามเขาไปเงียบๆ จนถึงรถคันหนึ่งซึ่งตอนนี้จอดอยู่คันเดียวแล้ว " เชิญครับ " ผมเปิดประตูรถให้เธอเธอยังดูประหม่าอยู่มาก แสดงว่าเธอไว้ใจคนยากสินะตลอดทางเธอพูดกับผมแค่ตอนบอกทางเท่านั้นแล้วเธอก็ไม่คิดอะไรในใจอีกเลย ตั้งสติได้ดีจริงๆ แม่สาวน้อย.. ณ.คอนโดใหญ่ " ขอบคุณมากเลยนะคะสำหรับคืนนี้ แล้วนี่เอ่อ..เสื้อค่ะ " ฉันพูดด้วยความประหม่าอีกแล้วเป็นไรไปล่ะยัยลิตา " คุณเอาไปเถอะครับผมให้ " แค่เสื้อตัวเดียวผมไม่หวงหรอก " ตะแต่ ฉันไม่อยากได้ซะหน่อย " ก็ฉันไม่อยากได้จริงๆนี่ " ผมมีความรู้สึกว่าเร็วๆ นี้เราต้องได้เจอกันอีกแน่นอน เวลานั้นคุณค่อยเอาไปคืนผมละกัน " ความรู้สึกของผมมันมักจะเป็นความจริงเสมอ " คงไม่บังเอิญขนาดนั้นมั้งคะ " ครั้งเดียวก็พอแล้ว มั่นใจเกินไปนะคะฉันได้แต่คิด อุ้ยไม่ได้ห้ามคิด " เผื่อคุณคิดว่าผมหล่อคุณอาจจะไปตามหาผมที่โรงบาลก็ได้ผมจะรอ " ฉันนี่ทำหน้าเหวอเลยค่ะในความมั่นของเขา " ชิ หลงตัวเองสุดๆ แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณอีกครั้งกลับดีๆ นะคะ " ฉันก็พูดไปตามมารยาท แหมฉันล่ะหมันไส้กับความั่นหน้าของเขาจังรู้ว่าหล่อแต่ไม่ต้องมั่นใจขนาดนั้นก็ได้มั้ง " ชื่นใจจังที่คุณชมว่าผมหล่ออีกแล้ว ว่าแต่คุณชื่ออะไรผมอยากทำความรู้จัก " ผมยังพูดไม่ทันจบก็เห็นเธอเดินจ้ำอย่างไวไม่หันกลับมามองผมอีกเลยอย่างน้อยผมก็ได้รู้ที่อยู่ของเธอ แต่จะมาหาเธอในฐานะอะไรกันล่ะ แค่ชื่อยังไม่รู้จักเลย บ้าไปแล้วไอ้หมออาการหนักมั๊ย รู้จักเค้าวันเดียวก็อยากมาหาซะแล้ว ผมขับรถกลับคอนโดตัวเองด้วยอารมณ์เบิกบานอันที่จริงคอนโดของเธอกับผมอยู่ห่างกันนิดเดียวเองพรมลิขิตบรรดาลชักพาชัดๆ ฮ่า ฮ่า คิดได้ไงวะไอ้หมอเอ้ย คืนนี้คงฝันดีเป็นแน่ ............................. ขาเรียวยาวรีบก้าวฉับๆ เพราะอยากรีบไปให้ไกลจากเขาเธอดันเผลอไปคิดอีกแล้วว่าเขาหล่อ มือเรียวหยิบคีย์การ์ดขึ้นมาแตะที่ประตูเมื่อถึงหน้าห้อง ลิตาเปลี่ยนสวมรองเท้าลำรองแล้วเดินไปทิ้งตัวลงบนโซฟานุ่มๆ ดังตุบ " เฮ่อ ลิตานะลิตา อุตส่าตั้งสติได้แต่ดันเผลอตอนเค้าจะกลับแล้วเนี่ยนะ เหอะๆ " ฉันก็ได้แต่เจ็บใจตัวเองแล้วที่ฉันยืนจ้องนามบัตรของเขาอยู่เนิ่นนานก็เป็นเพราะอีกไม่กี่วันฉันต้องไปทำงานที่โรงพยาบาลเดียวกันกับคุณหมอแล้วไง..ลางสังหรณ์ของเขาแม่นจริงที่ว่าเราจะต้องเจอกันอย่างแน่นอน..ทำไมฉันถึงมั่นใจว่าต้องเจอเขา ทั้งที่โรงพยาบาลออกจะกว้างใหญ่ใช่ไหม ใช่ค่ะฉันคงไม่คิดแบบนั้นแน่นอนถ้าเกิดว่าฉันไม่ต้องไปทำงานแผนกเดียวกับเขา จะบังเอิญไปไหมเนี่ย " กรี๊ง...กรี๊ง... " " ว่าไงห๊ะยังจำได้หรอว่ามีเพื่อน " " แกถึงคอนโดยังอ่ะ ซี๊ดด " " เสียงอะไรยัยขนมนี่อย่าบอกนะว่าแกกำลังปั่มปั๊มอ่ะ " " เออนั่นแหละอย่างที่แกคิด..อื้มม..ว่าตะ..แต่แกถึงคอนโดแล้วใช่ไหมฉันลืมว่าแกไม่ได้เอารถไป อ่ะซี๊ด.." " เฮ่อ ยังดีที่แกยังคิดได้ ถึงแล้วปลอดภัยดีแต่คราวหน้าคราวหลังแกจะโทรหาฉัน แกควรทำธุระส่วนตัวให้เสร็จก่อนนะฉันไม่อยากนอนฝันร้ายเพราะได้ยินเสียงกินตับกัน โอเคนะยัยเพื่อนโรคจิต " " อื้ม..บาย " " หึ่ย ยัยเพื่อนบ้าฉันจะฝันร้ายไหมเนี่ยได้ยินเสียงอะไรแบบนั้น เฮ่อ..ไม่ได้การล่ะไปอาบน้ำนอนดีกว่า " พึมพำจบก็ไปนอนแช่น้ำให้สมองปลอดโปร่ง " คิดแต่เรื่องดีๆ ไว้นะยัยลิตาคิดถึงแต่คุณหมออีกไม่กี่วันเธอก็จะได้รู้จักและเจอเขาอย่างเป็นทางการแล้ว จำไว้นะยัยลิตาห้ามคิดอะไรในใจเด็ดขาด " เกิดมาฉันก็พึ่งเคยเจอกับตัวนี่แหละ เรื่องแบบนี้ อืมว่าแต่ทำไมฉันต้องตื่นเต้นด้วยเนี่ยที่จะได้เจอเขาอีกโอ้ยไม่เข้าใจตัวเองเลยวุ้ย... แล้วฉันก็หลับไปด้วยความเพลีย 3 วันต่อมา.... วันนี้ฉันตั้งใจจะไปเดินห้างเพราะจะซื้อของใช้อีกนิดหน่อย เมื่อก่อนฉันเป็นแพทย์อาสาอยู่ที่ชนบทในต่างจังหวัดทางภาคใต้ เพราะว่าที่นั่นขาดแคลนหมอมาก แต่ตอนนี้มีคนใจบุญสร้างโรงพยาบาลให้แล้ว ฉันเลยขอย้ายกลับเข้ามาในเมืองตามเดิมเพราะคุณแม่เป็นห่วงฉันมากที่ไปทำงานที่นั่น แม่รู้ว่ามันลำบากมากแค่ไหนเพราะท่านเคยทำมาก่อน ใช่ค่ะแม่ของฉันก็เป็นแพทย์เหมือนกัน เอาล่ะเล่าแค่นี่ก่อนละกันซื้อของกันดีกว่า ฉันเดินซื้อของอยู่ดีๆ ก็มีคนมาสะกิดที่แขนฉันก็เงยหน้าขึ้นมามองเขา " ใช่คุณจริงด้วย บังเอิญจังเลยนะครับว่ามั๊ย " พูดจบก็ยิ้มหวานส่งไป " อ้าวคุณหมอบังเอิญจริงด้วยค่ะ ห้างกลมจังเลยนะคะ " คำหลังพูดเบาๆ ก็แอบประชดนิดๆแหละ " ว่าแต่คุณชื่ออะไรครับผมจะได้เรียกถูก " โอกาสมาถึงแล้วโว้ยไอ้หมออย่าพลาด " ฉันชื่อลลิตาค่ะ ชื่อเล่นลิตา ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการนะคะ " " ยินดีเช่นกันครับ ผมหมอปฐพีเรียกสั้นๆ ว่านิกซ์ก็ได้ครับ " ทั้งสองทักทายกันด้วยรอยยิ้ม " แล้วนี่คุณมาซื้ออะไรหรอคะลิตาไม่เห็นคุณหมอเข็นรถมาเลย " " อ้อ คือผมยังคิดไม่ออกว่าจะซื้ออะไรก็เลยเดินดูของไปเรื่อยๆ ไม่คิดว่าจะเจอคุณ " จะให้ผมบอกเธอได้ยังไงว่าผมไปดักรอเธอแถวๆ คอนโดมาสามวันแล้ว แล้ววันนี้ก็โชคดีที่เธออกมาผมเลยสะกดรอยตามมาแบบนี้หรอ ขืนบอกไปแบบนั้นผมตายแน่ครับ.....
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD