5 พ่อผู้ใหญ่ใจดี
หลังจากปิดร้านแล้ว รินรดาขับรถเก๋งสีขาวไปยังร้านอาหารชายทุ่ง ตอนที่เธอไปถึงร้าน กลุ่มคนที่จะมาปรึกษากันเรื่องผ้าป่าสามัคคีมากันจำนวนหนึ่งแล้ว
รินรดายกมือไหว้คนที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว และเอ่ยคำทักทายตามมารยาท เธอรู้จักพวกเขาเป็นบางคน แต่พวกเขารู้จักเธอทุกคน รู้ว่าเธอเป็นลูกสาวคนเดียวของกำนันรุ่ง
ด้วยความที่โต๊ะเป็นโต๊ะสี่เหลี่ยม นำมาวางต่อกัน เพื่อให้ทุกคนได้นั่งร่วมโต๊ะเดียวกัน รินรดาจึงมองหาตำแหน่งเก้าอี้ที่น่าจะเหมาะสำหรับเธอ ในตอนที่เธอมองหาที่นั่งนั้น เธอก็เห็นมีคนกวักมือเรียก รินรดาจึงเดินเข้าไปหา และประนมมือไหว้
“สวัสดีค่ะ แม่ผู้ใหญ่”
หญิงสาวนั่งลงที่เก้าอี้ว่างข้าง ๆ แม่นุ้ย... แม่ผู้ใหญ่หมู่บ้านเนินหอยใหญ่ เพราะเธอรู้จักและเคยพูดคุยกับแม่ผู้ใหญ่บ่อยครั้ง
“สวัสดีจ้ะน้องรดาคนสวย มาเป็นตัวแทนพ่อกำนันเหรอจ๊ะ”
“ค่ะ แม่ผู้ใหญ่”
“ดี ๆ มีคนรุ่นใหม่มาคุยด้วย จะได้แลกเปลี่ยนแนวความคิดกัน”
รินรดายิ้มหวาน “ค่ะ”
คนอื่น ๆ ทยอยกันมาจนเก้าอี้เกือบเต็มแล้ว แต่เก้าอี้ข้างรินรดาฝั่งซ้ายยังว่างอยู่ อาจจะเป็นเพราะใคร ๆ ก็รู้ว่าเธอคือลูกสาวกำนัน จึงไม่มีใครอยากมานั่งใกล้ เพราะเกรงใจพ่อของเธอ
“มาสักที พ่อพระเอกใหญ่ของตำบล”
แม่ผู้ใหญ่นุ้ยว่าขึ้นในตอนที่เห็นพ่อผู้ใหญ่ขันเดินเข้ามาในร้าน
รินรดามองคนตัวสูงที่เพิ่งมาถึง หญิงสาวถอนหายใจแรง ไม่อยากเจอก็ได้เจอ ไม่อยากเห็นหน้าก็ได้เห็น เวรกรรมนำแต่งแท้ ๆ
ตาคมกริบมองเห็นเธอตั้งแต่เดินเข้ามาในร้านแล้ว และก็เห็นด้วยว่าเก้าอี้ข้างเธอว่าง
ผู้ใหญ่ขันเงินไม่ลังเลที่จะเดินตรงไปยังเก้าอี้ตัวนั้น ระหว่างนี้ เขาก็ยิ้มแย้ม ยกมือไหว้ และทักทายคนอื่นที่นั่งอยู่ก่อนแล้วด้วย กระทั่งเดินไปหยุดใกล้คนที่เขาอยากเห็นหน้าทุกเวลา
“น้องรดาครับ ตรงนี้มีคนนั่งหรือยังครับ”
รินรดาเงยหน้ามองเขา หญิงสาวมองด้วยสายตาไม่พอใจ แต่ก็ต้องจำใจตอบไปว่า
“ยังค่ะ”
“พี่ขอนั่งด้วยคนนะครับ”
“ค่ะ”
แม่นุ้ยผู้นั่งอยู่ใกล้รินรดา ได้ยินที่ทั้งสองพูดคุยกัน คำว่า พี่ ที่ผู้ใหญ่ขันใช้แทนตัว ทำให้เธอขมวดคิ้วแล้วหันไปถามด้วยความสงสัยว่า
“สองคนนี้สนิทกันเหรอคะ เรียกพี่เรียกน้องน่ารักเชียว”
รินรดาตอบว่า “แค่รู้จักค่ะ แต่ไม่สนิท”
ผู้ใหญ่ขันเงินตอบว่า “สนิทกันครับ รู้จักกันดี”
คำตอบของผู้ใหญ่ขันทำให้รินรดาหันขวับไปจิกตาดุใส่เขา ทว่าคนที่ถูกมองด้วยสายตาดุไม่นำพา ไม่สะทกสะท้าน เขายิ้มหวานหยดย้อยอ่อยน้องเต็มที่
แม่นุ้ยเห็นสีหน้าและท่าทางของทั้งสองแล้วก็ขมวดคิ้วยิ่งกว่าเดิม อยากจะถามว่ามีประเด็นอะไรกันหรือเปล่า แม่ใหญ่อาสาเคลียร์ใจได้นะ แต่ยังไม่ทันได้ถามอะไร เสี่ยใหญ่ก็พูดขึ้นว่า
“มากันหลายคนแล้ว เราเริ่มกันเลยนะครับ”
เสี่ยใหญ่... หนุ่มใหญ่วัย 40 ปี เป็นเจ้าของกิจการรับซื้อข้าวเปลือกและพืชผลทางการเกษตร ลานรับซื้อและออฟฟิศของเขาตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลโคกเคียว อยู่ริมถนนเส้นทางสายหลัก ลานรับซื้อตั้งอยู่บนที่ดินซึ่งมีเนื้อที่เกือบหนึ่งร้อยไร่ บ้านหลังใหญ่ของเขาก็อยู่บนที่ผืนนี้ด้วย แม้อายุจะล่วงเลยเข้าวัยสี่สิบ แต่เขายังดูสมาร์ต ร่างสูง กำยำ ผิวขาว หน้าตาหล่อเหลา แถมยังโสดอีกด้วย
ทุกคนเห็นด้วยกับเสี่ยใหญ่ และพากันเริ่มแสดงความคิดเห็น ถกเถียงกันด้วยเหตุผล ก็มีบ้างที่เสียงดังใส่กัน เพราะแต่ละคนมีเหตุผลแตกต่างกันไป แต่ก็จะมีพ่อครูบุญสินคอยปรามให้ใจเย็น ๆ
พ่อครูบุญสิน วัย 44 ปี เป็นพ่อครูที่ชาวตำบลโคกเคียวให้ความเคารพและนับถือ เวลามีงานบุญงานวัด หรือชาวบ้านจะทำพิธีมงคลใด ๆ ก็จะมาปรึกษาพ่อครูบุญสิน
แม้อายุจะเข้าสู่ช่วงวัยสี่สิบแล้ว ทว่ารูปร่างของพ่อครูนั้นสูงใหญ่กำยำ ผิวเข้มคล้ำ ตาดุ หน้าเคร่งขรึม แต่ใบหน้าหล่อเข้มยังอ่อนเยาว์กว่าอายุมากโข ที่สำคัญ พ่อครูบุญสินเป็นพ่อหม้ายที่สาวน้อยสาวใหญ่อยากจะครอบครองทั้งตัวและหัวใจ
หลังจากพูดคุยกันนานพอสมควร ก็หาข้อสรุปของงานบุญใหญ่ในครั้งนี้ได้
งานจะจัดขึ้นกลางเดือนหน้า พ่อกำนันรุ่งโรจน์เป็นประธาน พ่อครูบุญสินเป็นประธานที่ปรึกษา พ่อผู้ใหญ่ขันกับเสี่ยใหญ่เป็นรองประธาน ผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านอื่นเป็นกรรมการดำเนินงาน
กลางวันทำบุญ กลางคืนมีหมอลำ และมีเวทีประกวดนางงามโคกเคียวด้วย เงินจากการจัดงานประกวดจะนำไปสมทบกองผ้าป่า
หลังจากได้ข้อสรุปแล้ว พนักงานจึงนำอาหารมาเสิร์ฟ มีทั้งอาหารและเครื่องดื่มหลายชนิด ระหว่างกินก็พูดคุยเรื่องทั่วไป สักพักหนึ่งเจ้าของร้านก็เอาเครื่องดื่มพิเศษมาให้ลูกค้าลองชิม อวดอ้างสรรพคุณว่าทำให้มีกำลังวังชา กินแล้วเลือดลมสูบฉีดพุ่งปรี๊ด ๆ เพราะเขาหมักเหล้าสูตรนี้เองกับมือ
แก้วเหล้าถูกนำมาเสิร์ฟให้ทุกคน รินรดาก็ได้รับมาหนึ่งแก้ว หญิงสาวไม่อยากกินเท่าไร แต่เธออยากทำตัวกลมกลืนไปกับพวกเขา เธอไม่อยากโดนกล่าวหาว่า ไปเรียนเมืองกรุงไม่กี่ปี พอกลับมาอยู่บ้านนาก็ดัดจริตไม่เข้าพวก