เห็นมาตั้งแต่เด็ก

1305 Words
เขาเห็นเธอตั้งแต่วันแรกที่เธอลืมตาดูโลก จนถึงวันนี้มันไม่ได้มีอะไรคืบหน้าไปมากกว่าคนข้างบ้านเลย แม้มารดาของเขาจะเชียร์ออกนอกหน้า แต่เคลซีย์ก็รักษาระยะห่างกับเขาเสมอ ดังนั้นถ้าเลือกเธอมาเป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันเรื่องเซ็กส์ ก็คงไม่น่าจะมีปัญหาจุกจิกกวนใจ “ดี” แดร์เรนตอบสั้นๆ แล้วตั้งใจดูไฟล์บนหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างละเอียด ไม่ใช่ว่าจ้องจับผิดแต่ต้องการตรวจดูวงจรการทำงาน เขาก็อปปี้ไฟล์ส่งต่อให้กับเลขาคนสนิท ที่นั่งทำงานอยู่หน้าห้องเขาตอนนี้ นอกจากแกรี่มีหน้าที่รับผิดชอบงานในบริษัทแล้ว ยังดูแลงานลับของเขาด้วย อีกทั้งยังมีหน้าที่รักษาความปลอดภัย เพราะวงการค้าขายอาวุธมีความเสี่ยง มีศัตรูอยู่รอบด้าน ฉะนั้นจึงมีบอดี้การ์ดลับคอยดูแลแดร์เรนอยู่ตลอด “แล้วเรื่องที่ฉันขอล่ะคะ คุณอนุญาตไหม” แคลร์ขอเขาสืบเรื่องของราลีโอน กรุ๊ป เธอสามารถเจาะระบบเข้าไปดูข้อมูลได้ เป็นวิธีที่ไม่ถูกต้องนัก แต่ถ้าไม่ทำแบบนี้ก็จะไม่มีทางรู้เบื้องหลังได้เลย เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเธอตามแดร์เรนไปพบริชาร์ด และได้เจอกับปานฟ้าเพื่อนสนิทของเธอด้วย เจ้านายหนุ่มระแคะระคายเรื่องราลีโอน เลยรีบกลับมาเธอจึงขอรับอาสาช่วยสืบ เบื้องหน้าราลีโอน กรุ๊ปทำธุรกิจหลากหลาย จับทั้งอสังหาฯ ลงทุนและเข้าซื้อบริษัทที่มองเห็นความเป็นไปได้ แต่เบื้องหลังเหมือนตั้งใจจะทำอะไรบางอย่าง ถึงกว้านซื้อที่ติดแนวชายแดนเกือบทั้งหมด แดร์เรนสังหรณ์ใจว่าจะเป็นเรื่องไม่ดี เมื่อไม่นานมานี้ราลีโอน กรุ๊ปมาติดต่อเรื่องพัฒนาซอฟต์แวร์ด้วย ดูจากเนื้อหาพอสังเขปก็รู้ว่าไม่ได้นำไปใช้งานในรูปแบบธรรมดาๆ แน่นอน “ไม่อนุญาต” เจ้าพ่อเทคประเมินแล้วว่าเสี่ยงเกินไปที่จะให้แคลร์เข้ามายุ่ง เขาไม่อยากมีปัญหากับครอบครัวของเธอ และราลีโอนก็ไม่ใช่คนธรรมดาที่จะเข้าไปยุ่งแบบสุ่มสี่สุ่มห้า “นะคะ ฉันดูแลตัวเองได้ คุณก็รู้ว่าฉันเก่งแค่ไหน ไม่มีทางทิ้งรอยให้แกะแน่ค่ะ” “ไม่” เคลซีย์เม้มริมฝีปากเข้าหากันเมื่อถูกปฏิเสธ แดร์เรนจ้องตาเธอนิ่ง ค้นหาความรู้สึกในแววตาลึกที่ไม่ได้บ่งบอกอารมณ์ใดๆ ไม่เคยมีสักครั้งที่เขาคาดเดาเธอได้ผ่านสายตา “ห้ามทำลับหลัง” เขาไม่รู้หรอกว่าเธอคิดอะไรอยู่ แค่พูดดักทางเอาไว้ก่อน ชายหนุ่มจำได้ว่าแคลร์เป็นคนดื้อตาใส เหมือนจะยอมอ่อนข้อแต่ที่จริงแล้วดื้อมาก โดยเฉพาะอะไรที่ห้ามก็มักจะชอบแอบทำ “ไม่เห็นต้องดักกันเลย ไม่ทำหรอกค่ะ” “อืม” “ก็บอกว่าไม่ทำไงคะ” เมื่อยืนยันไปแล้วเขายังมองเธอไม่ว่าตา เหมือนจ้องจับผิด เธอเลยบอกให้เขาวางใจ ไม่ทำ...ยังไงไหว แคลร์ตั้งใจไว้แล้วว่าถ้าเขาไม่อนุญาตก็จะแอบทำแบบลับๆ แดร์เรนยังคงจ้องไม่วางตา เขาเคยสงสัยจนเลิกสงสัยไปแล้ว ว่าทำไมถึงไม่สามารถอ่านความรู้สึกผ่านแววตาคู่นั้นได้ บางทีอาจเป็นเพราะเธอไม่มีความรู้สึก ในที่สุดก็ละสายตาแล้วจ้องมองนาฬิกาบนข้อมือ เห็นว่าเป็นเวลาพักเที่ยงพอดี และเขาต้องออกไปทำธุระที่อื่นต่อ “อืม ไปพักเถอะ” “แล้วคุณล่ะคะ?” “ทำไม?” “คุณไม่ไปทานข้าวเหรอคะ?” เธอเห็นว่าเที่ยงแล้ว ไม่ได้จะชวนเขาไปกินข้าว หรือรอให้เขาชวนเพราะไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้น แคลร์แค่เป็นห่วงอยากให้เขากินอาหารครบมื้อ “เดี๋ยวไป” “ค่ะ งั้นฉันขอตัวนะคะ” เธอชินแล้วกับคำพูดสั้นๆ ห้วนๆ ของเขา แดนเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก ถ้าไม่จำเป็นเขาจะไม่ค่อยพูด แดร์เรนพยักหน้ารับรู้ แคลร์จึงเดินออกมาเอ่ยทักทายเลขาหน้าห้องก่อนจะกลับไปที่แผนก เธอทำงานด้าน IT ที่ทำงานอยู่ถัดจากห้องประธานไปห้าชั้น เพื่อนร่วมงานเธอไม่ค่อยสนิท เพราะไม่มีใครกล้าเข้ามาคุยด้วย กลัวจะโดนนินทาว่ามาตีสนิทกับเธอเพราะต้องการเอาหน้า บางคนก็ว่าเธอเป็นเด็กเส้น มีแค่เอเลนาคนเดียวที่ทำตัวเหมือนเพื่อนร่วมงานทั่วไป และเธอไม่ได้ทำ IT หรอก แต่อยู่แผนกประสานงานทั่วไป แคลร์เจอกับเอเลนาโดยบังเอิญในวันที่กำลังเดินไปกินข้าว หล่อนเข้ามาทักทายพูดคุย และชวนเธอไปร้านอร่อยในย่านนี้ จากนั้นมาทั้งสองคนก็ไปกินข้าวด้วยกันตลอด เคลซีย์อดคิดถึงเพื่อนสนิทไม่ได้ ป่านนี้คงสนุกกันน่าดู ปานฟ้ากับเจมส์ได้ทำงานในที่เดียวกัน ต่างจากเธอที่อยู่คนเดียวแล้วก็โดดเดี่ยวมากด้วย “ไง ว่างรึยัง ไปกินข้าวกันไหม?” เมื่อมาถึงโต๊ะเธอเห็นเอเลนามายืนรออยู่ก่อนแล้ว หญิงสาวเอ่ยชวนไปพักเที่ยงด้วยกัน แน่นอนว่าเธอเต็มใจเป็นอย่างยิ่ง ดีกว่านั่งกินคนเดียวเป็นไหนๆ “ไปสิ วันนี้กินอะไรดีล่ะ” แคลร์บอกพร้อมกับหยิบกระเป๋าสะพายขึ้นมาจากโต๊ะ “อยากกินอะไรเบาๆ ว่าแต่เธอหิวมากไหม หาร้านที่มีทั้งจานหลักแล้วก็สลัดนะ” แคลร์รู้สึกไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ เธอกะว่าจะกินแค่สลัดก็พอ ช่วงนี้ไม่ค่อยอยากกินอะไร เบื่อๆ ไปหมดทุกสิ่งอย่าง “ได้เลย เดี๋ยวฉันจัดให้” “ขอบใจนะเอเลนาที่อยู่เป็นเพื่อน ชวนไปกินข้าวทุกวันเลย” “เรียกแอลก็พอ ไม่ต้องเต็มยศขนาดนั้น” “จ้าแอล” เอเลนาเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างทะมัดทะแมง ในสายตาของแคลร์หล่อนเป็นผู้หญิงที่สวยมาก ผิวขาวแบบชาวรัสเซีย หน้าตาจิ้มลิ้มผมสีบลอนด์สว่าง แต่พฤติกรรมของเธอกลับไม่ได้สวยหวานเหมือนหน้าตา แอลเป็นผู้หญิงห้าวๆ ไม่รักสวยรักงาม ไม่แต่งตัว แต่เธอก็ดึงดูดสายตาผู้คนรอบข้าง ทั้งสองคนเดินมาที่ร้านอาหารที่อยู่หัวมุมตึก ไม่ไกลจากที่ทำงานมากนัก เป็นร้านอาหารที่มีเมนูหลากหลาย แน่นอนว่ามีสลัดและมีเมนูหลักอื่นๆ สำหรับทั้งสองคน แคลร์ใช้เวลาเลือกไม่นานเพราะเธอสั่งแค่สลัดกับกาแฟดำเท่านั้น ส่วนแอลเลือกสเต็กจานใหญ่กับซุปฟักทอง แคลร์กดยิ้มแล้วนึกสงสัย ตัวก็เล็กนิดเดียวเอาไปยัดไว้ตรงไหนหมดนะ รอไม่กี่นาทีอาหารก็มาเสิร์ฟที่โต๊ะ การกินเป็นไปอย่างเงียบสงบ แอลไม่ค่อยชวนคุยเท่าไหร่ และไม่เคยละล้างละล้วงเรื่องส่วนตัว มันก็ค่อนข้างแปลกอยู่เหมือนกัน เหมือนแอลมาทำหน้าที่กินข้าวเป็นเพื่อนเธอ กินเสร็จก็กลับออฟฟิศ เจอกันอีกทีก็เที่ยงของอีกวัน “อิ่มรึเปล่า สั่งอะไรเพิ่มไหม” เอเลนาเห็นแคลร์กินน้อยเลยเอ่ยถาม “อิ่มแล้วล่ะ ช่วงนี้ไม่ค่อยอยากกินอะไร” เพราะเธอมีเรื่องให้คบคิด หลังจากงานประมูลนั้น แคลร์ก็คิดมาตลอดว่าอยากสืบสาวเรื่องราวของราลีโอน กรุ๊ป ได้ยินมาว่ามีเรื่องที่ดินของเพื่อนรักเข้ามาเกี่ยวข้อง เลยอยากรู้มากเป็นพิเศษ แต่แดร์เรนไม่อนุญาตให้ทำ เธอเลยต้องคิดวิธีแอบสืบแบบไม่ให้ถูกจับได้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD