ไล่ต้อน

1200 Words
“คุณไล่แอลออกเหรอคะ?” “เปล่า แค่ส่งตัวกลับรัสเซีย” แดนคิดว่าต่อจากนี้จะมีทีมงานของเขาและตัวเขาเองคอยดูแล จึงให้เอเลนากลับไปทำงานที่ค้างไว้ เขาขอยืมตัวหล่อนมาแบบฉุกเฉินเท่านั้น “มีเรื่องอะไรจะแจ้งอีกไหมคะแกรี่?” เคลซีย์หันมาถามเลขาของเขาด้วยใบหน้าบึ้งตึง เมื่อลงกับแดนไม่ได้ลงกับแกรี่ก็แล้วไหน “หมดหน้าที่ผมแล้วครับ” เลขาหนุ่มยิ้มกว้างจนตาแทบปิด บุคลิกของลูกน้องช่างต่างจากเจ้านายราวฟ้ากับเหว แดร์เรนไม่เคยยิ้ม พูดนับคำได้ส่วนใหญ่มีแต่แกรี่ที่ทำหน้าที่พูดแทน เมื่อไม่มีเรื่องให้พูดอีกเขาจึงขอตัวออกไปนอกห้อง เพื่อให้เจ้านายมีพื้นที่ส่วนตัวกับหญิงสาวที่พร้อมจะกินหัวเขาในเวลานี้ ทำได้แค่คิดเท่านั้นล่ะ พอเห็นเขาส่งสายตาดุมาให้ แคลร์ก็หวาดหวั่นก้มหน้ากินอาหารในจานทำไม่รู้ไม่ชี้ “หลบตา? กลัวความผิด?” คนถูกกล่าวหาแทบสำลักเบคอน คิดว่าตัวเองแสดงได้แนบเนียนแล้ว หรือแดนเพียงแค่จับผิดอย่างที่เคยทำ แล้วให้เธอโป๊ะออกมาเองว่าทำผิดอะไรไว้บ้าง แคลร์จึงทำเหมือนไม่รู้เรื่อง เงยหน้ามองตาใสแป๋ว ทั้งที่มีชนักติดหลังอยู่ ไม่เป็นไรหรอกเขาแค่โยนเหรียญถามทาง นิ่งเอาไว้ทำปากแข็งเดี๋ยวก็ผ่านไปเอง เธอพยายามปลอบใจตัวเองว่าอย่างนั้น “เรื่องอะไรคะ? ถ้าเป็นเรื่องกล้อง....ฉันก็บอกไปแล้วนี่คะ” แล้วเขาก็ทำโทษไปแล้วด้วย แค่นึกถึงก็ขนลุกชันไปทั้งตัว มันรู้สึกวาบหวิวที่หัวใจ “…..” แดนไม่ได้ตอบอะไร ทำเพียงแค่จ้องมองนิ่งๆ ส่งสายตาจับผิดอย่างเปิดเผย “ไม่มีจริงๆ นะคะ ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย” กระต่ายขาเดียวรู้สึกร้อนรน สายตาของเขามันทำให้รู้สึกกระสับกระส่าย แล้วยิ่งแก้ตัวก็ยิ่งมีพิรุธไปอีก “กินเสร็จรึยัง?” “คะ? อ่ะ เสร็จแล้วค่ะ” แคลร์รีบกลืนไส้กรอกชิ้นสุดท้ายลงคอ ตามด้วยน้ำส้มคั้นสดอีกหนึ่งแล้ว พยายามระงับความลนลานทางการกระทำ เพื่อไม่ให้ดูมีพิรุธมากนัก สายตาที่เขามองมามันชัดเจนมาว่าเขารู้อะไรบางอย่างแล้ว มันเหมือนกับตอนนั้น...แคลร์ในวัยเก้าขวบทำของเล่นของเขาพังแล้วเอามันไปซ่อน เธอกลัวความผิดเพราะมันเป็นของชิ้นที่แดนโปรดมาก เขารู้ว่าเธอทำมันพัง แล้วเขาก็ถามเธอด้วยแววตาแบบนี้ มันทำให้เสียวสันหลังอย่างบอกไม่ถูก “ตามผมมา” แดนลุกจากเก้าอี้แล้วออกไปด้านนอก แคลร์เดินตามไปห่างๆ แม้กระทั่งตอนนี้ที่เห็นเพียงแค่ด้านหลังของเขา ยังรู้สึกเหมือนมีไอเย็นยะเยือกแผ่ออกมาจากสูทสีเลือดนกที่สวมใส่ เขาพาเธอเข้ามาในห้องทำงานของตัวเอง แล้วสิ่งที่อยู่บนโต๊ะนั้นทำให้เธอตกใจมาก มันคือกระเป๋าสะพายของเธอ! แคลร์ยืนนิ่งทั้งที่ในใจลนลานไปหมดแล้ว หรือว่าเขาจะรู้? แต่อาจจะไม่รู้? เธอคิดหาทางออกอยู่คนเดียวด้วยการคิดในใจ เอาเป็นว่าลองดูก่อนแล้วกันว่าเขาแค่หยักเชิงหรือรู้ความจริง “ในนี้มีอะไร?” แดนรู้อยู่เต็มอก แต่ก็ยังถามออกไป เขารู้จักนิสัยยัยดื้อคนนี้เป็นอย่างดี แคลร์จะปฏิเสธหัวชนฝาจนกว่าจะโดนต้อนจนไปต่อไม่ได้ “มีฮาร์ดดิสกับไดร์ฟสำรองค่ะ” เธอตอบไปตามตรง เพราะมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ เมื่อเขาเปิดดูเขาก็จะเห็นว่าเธอพูดจริง แล้วก็คงหมดข้อสงสัยไปเอง แดนเคาะนิ้วลงบนโต๊ะจ้องมองไปที่กระเป๋าเหมือนกำลังใช้ความคิด แล้วเงยหน้าขึ้นมาจ้องมองนิ่งๆ ไม่ได้พูดอะไร พฤติกรรมแบบนั้นยิ่งทำให้คนถูกมองร้อนตัวเป็นอย่างมาก แคลร์หลุบตาลงอย่างรวดเร็ว จ้องมองพื้นอย่างเอาเป็นเอาตาย เขาจะคาดคั้นด้วยสายตาอีกนานไหม! “ในนี้มีอะไร?” “งานค่ะ มีแต่งานอย่างเดียว” หญิงสาวสูดหายใจลึกๆ ทำใจกล้าตอบแบบฉะฉานมั่นใจสุดพลัง “เปิดให้ดูหน่อย” อันที่จริงเขาเปิดไปเรียบร้อยแล้ว แต่เธอยังไม่รู้เสียหน่อย เลยต้องทำตัวรักษามารยาท ให้หญิงสาวเป็นคนเชื่อมต่อมันเองกับมือ อยากรู้ว่าคนดื้อแบบเธอจะไปสุดที่ตรงไหน “เอ่อ ได้ค่ะ” แคลร์จำต้องเชื่อมต่อฮาร์ดดิสกับคอมพิวเตอร์ของเขา แล้วก็ทึ่งมากที่อุปกรณ์ของแดนนั้น เชื่อมต่อได้ไวแบบสุดๆ ก็เขาเป็นเจ้าพ่อเทคอ่ะเนอะ นึกแล้วอิจฉาอยากได้มาไว้ใช้งานสักตัว ไม่กี่วินาทีไฟล์ที่อยู่ในฮาร์ดดิสของแคลร์ก็ถูกเปิดออก เธอโชว์ให้เขาดูว่ามันมีแต่งานทั้งนั้น มั่นใจมากว่าเขาไม่รู้อย่างแน่นอน เพราะเธอซ่อนไฟล์ลับเอาไว้ในโฟล์เดอร์เรียบร้อยแล้ว “งานของฉันไม่มีอะไรน่าสนใจหรอกค่ะ” “มี เปิดไฟล์นี้” เคลซีย์เสียวสันหลังวาบ เมื่อแดนชี้ไปยังโฟลเดอร์ที่เธอซ่อนความลับเอาไว้! “เอ่อ มันล็อคไว้ค่ะ” “เปิดไม่ได้?” แดร์เรนหมวดคิ้วเข้าหากัน “…..” แคลร์ไม่กล้าตอบได้แต่เม้มปากเข้าหากัน นั่งก้มหน้ามองแป้นคีย์บอร์ดจนเหมือนอยากให้ทะลุผ่านไปได้ ทำไมแดนถึงไล่จี้เธอนักนะ! “แคลร์” คนถูกเรียกรู้สึกเย็นวาบที่ด้านหลัง เมื่อชายหนุ่มผู้ทรงอำนาจ เดินอ้อมมาหยุดยืนอยู่ที่หลังเก้าอี้ ค่อมตัวแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ บ่าของเธอ เพียงเท่านั้นหญิงสาวก็รู้สึกว่าเหมือนมีเข็มนับพันเข็มจิ้มเข้ามาที่คอ “ฉันไม่รู้รหัสค่ะ” “ไม่รู้?” แดร์เรนจับเก้าอี้หมุนมาอีกทาง เพื่อให้ร่างสวยหันมาเผชิญหน้ากับเขา มือแกร่งยกขึ้นจับปลายคางมนไว้ แล้วจ้องมองลึกไปในดวงตาสวย แววตาคู่นั้นไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆ ให้เขาเห็น แต่ร่างกายของเธอต่างหาก ที่ทำให้รับรู้ว่ากำลังตื่นกลัวจากอาการสั่นเทา “......” “บอกความจริงผม แคลร์” เสียงที่กดต่ำลงตอนเรียกชื่อ ทำให้หญิงสาวยิ่งตื่นตระหนก แววตาเขาก็ดุดัน มันน่ากลัวจนขนลุกไปหมด อีกหนึ่งเหตุผลที่แคลร์ไม่อยากอยู่ใกล้แดน ก็เพราะว่าเธอเคยเห็นตอนเขาทำตัวอันตราย ภาพจำนั้นยังติดตาไม่หาย มันทำให้เธอทั้งกลัวและเกรงเขามาก แต่ก็ยังกล้าที่จะดื้อทำตามใจตัวเอง “คือ ฉัน...ฉันน” “บอก ไม่งั้นโดนลงโทษ” คำขู่ไม่ได้เป็นแค่เพียงคำพูดเท่านั้น มือหนาอีกข้างเริ่มเคลื่อนเสื้อคลุมออกจากร่างสวย หญิงสาวสะดุ้งรีบดึงมันขึ้นอย่างรวดเร็ว ของเก่ายังไม่หาย เขาจะทำมันซ้ำอีกแล้วเหรอ! แค่นี้ก็ระบมไปหมดแล้ว!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD