“ไม่ใช่อย่างที่ป้าคิดหรอกครับ ที่จริงแล้วกานต์ธีราเป็นลูกหนี้ของผมเองที่เอาเข้ามาอยู่ในบ้านเพราะกลัวเขากับแม่จะหนีไม่ใช่หนี้ต่างหาก” อัคนีพูดเหตุผลของตัวเองให้ป้าแววรู้ แต่ในใจเขากลับบอกว่าตอนที่ได้เห็นหน้าหญิงสาวครั้งแรกสายตาความเย่อหยิ่งทันคนทำให้เขานึกอยากเอาชนะผู้หญิงคนนี้ ยิ่งรู้ว่าเงินของตัวเองบันดาลได้ทุกอย่างก็ยิ่งน่าสนุกไปใหญ่
“ถ้าคุณไฟบอกแบบนี้ป้าก็จะเชื่อค่ะ สรุปคือป้าต้องสอนงานให้เขารู้ว่าต้องดูแลคุณไฟในเรื่องต่าง ๆ ยังไงใช่ไหมคะ” ป้าแววถามอีกครั้ง เพราะไม่อยากเซ้าซี้เนื่องจากรู้นิสัยเจ้านายของตัวเองดีว่าเป็นคนยังไง
ด้วยความที่อัคนีเป็นลูกชายและทายาทคนเดียวของสองตระกูลผู้มั่งคั่งทำให้ได้รับการดูแลเอาใจมาตั้งแต่เล็ก อะไรที่อยากได้ก็มักจะได้เสมอ เมื่อไม่มีทายาทคนอื่นทรัพย์สมบัติสองตระกูลก็ตกเป็นของอัคนีด้วยความชอบธรรม ทำให้เขาเป็นที่ปรารถนาของผู้หญิงที่จ้องเข้ามาเพื่อว่าจะสุขสบาย แต่อัคนีก็ไม่เคยจริงจังกับใครเพราะคิดว่าทุกคนที่เข้ามาก็หวังในเงินทองชื่อเสียงของเขาทั้งนั้น ไม่อย่างนั้นชายหนุ่มจะครองตัวเป็นโสดได้ยังไงจนถึงอายุสามสิบห้าปี
“เดี๋ยวผมรบกวนให้ใครขึ้นไปตามกานต์ธีราลงมาหาผมที่นี่ด้วยนะครับ”
“ได้ค่ะ” ป้าแววรับคำแล้วเดินออกจากห้องทำงานและก็สั่งให้สาวใช้คนหนึ่งไปเรียกแขกคนใหม่ให้ลงมาพบเจ้านายที่ห้องทำงาน
...
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นทำให้คนที่เพิ่งเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จต้องรีบเดินมาเปิดประตู พอเปิดออกก็เห็นว่าเป็นสาวใช้ที่เป็นคนถือกระเป๋าเธอมาส่งที่ห้องนี้
“มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“คุณไฟให้มาเชิญคุณไปพบที่ห้องทำงานค่ะ” วารีตอบ
“ได้ค่ะ แล้วห้องทำงานที่ว่าอยู่ที่ไหนเหรอคะ” กานต์ธีราพูดพร้อมกับปิดประตูห้องนอนไปด้วย
“เดี๋ยวดิฉันพาไปค่ะ” วารีพูดแค่นั้นก็เดินนำหญิงสาวที่เป็นแขกของเจ้านายลงมาที่ห้องทำงานของเจ้านาย
“ขอบคุณมากนะคะ” กานต์ธีราพูดและยิ้มให้สาวใช้ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเปิดประตูเข้าห้องทำงานไป
อัคนีเงยหน้าขึ้นมองเมื่อได้ยินเสียงเคาะและเปิดประตูเข้ามา และสายตาก็เห็นว่ากานต์ธีราเปิดจากชุดเมื่อกี้เป็นชุดแสกกางเกงขาสั้นสีฟ้าสดใสดูแล้วอ่อนวัยลงกว่าเดิม
“คุณอัคนีเรียกฉันมามีอะไรหรือเปล่าคะ”
“นั่งสิ” อัคนีพูดแล้วชี้มือไปที่เก้าอี้ตรงข้ามตัวเอง เมื่อเห็นว่าหญิงสาวนั่งเรียบร้อยแล้วเขาก็เริ่มพูดเรื่องธุระตัวเองออกมาทันที
“เดี๋ยวป้าแววจะบอกว่าหน้าที่ของคุณที่ต้องดูแลผมมีอะไรบ้าง”
“ค่ะ”
“ส่วนเรื่องงานที่บริษัทคุณไปจัดการให้เรียบร้อย ถ้าเรียบร้อยแล้วก็บอกผมจะได้พาคุณไปทำงานที่บริษัททันที”
“ค่ะ”
อัคนีขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่ากานต์ธีราตอบรับแค่สั้น ๆ ไม่พูดหรือแย้งอะไรออกมาสักคำ
“พูดเป็นแค่นี้หรือไง มีอะไรจะถามก็พูดออกมาไม่ต้องอมพะนำอยู่”
“ไม่มีค่ะ” กานต์ธีราตอบสั้น ๆ เหมือนเดิมทำให้เจ้าของบ้านรู้สึกโมโหไม่น้อย
“ไม่พูดมากก็ดีเพราะผมเกลียดคนพูดมาก” พูดจบอัคนีก็หยิบซองเอกสารขึ้นมาวางไว้ตรงหน้าของกานต์ธีรา
“อะไรคะ” กานต์ธีราถามออกมา
“อยากรู้ก็เปิดดูเองสิ”
กานต์ธีราถอนใจแล้วหยิบเอกสารขึ้นมาดูและต้องเลิกคิ้วสูงขึ้นเมื่อเห็นหัวข้อกระดาษเด่นหราอยู่ตรงหน้า
“สัญญาลูกหนี้เหรอคะ” เกิดมาเพิ่งเคยเห็นว่ามีสัญญาแบบนี้ด้วย ปกติมีแต่สัญญาเงินกู้
“ใช่ อ่านให้ละเอียดนะถ้าสงสัยตรงไหนก็ถามมา”
แม้จะไม่เข้าใจแต่กานต์ธีราก็ก้มอ่านสัญญาที่ว่านี้อย่างตั้งใจ โดยรวม ๆ อัคนีระบุว่าเธอต้องชำระหนี้เป็นจำนวนเท่าไรต่อเดือน และกว่าจะหมดเป็นระยะเวลากี่ปี พอเห็นระยะเวลาแล้วก็อยากจะร้องไห้เพราะมันช่างนานเหลือเกิน
“ถ้าฉันมีเงินมาคืนเป็นก้อนสัญญาที่ว่านี้จะจบลงก่อนได้ใช่ไหมคะ”
“ได้สิ ดีด้วยซ้ำเพราะผมจะได้เงินคืนครบเร็ว ๆ แต่คุณมั่นใจเหรอว่าตัวเองจะหาได้เงินไม่ใช่น้อย ๆ นะ” อัคนีพูดอย่างดูถูก
“ฉันจะพยายามทุกวิธีทางที่จะรีบหาเงินมาคืนคุณให้เร็วที่สุด”
“ผมมีวิธีที่ทำให้คุณได้เงินก้อนเร็ว ๆ อยู่ที่ว่าคุณจะสนใจหรือเปล่า” อัคนีถามขึ้นด้วยดวงตาที่เรียบนิ่งแต่มุมปากเขายกสูงขึ้นเล็กน้อย
“วิธีอะไรคะ”
“นอกจากงานที่บริษัทและสาวใช้ส่วนตัวของผมแล้ว ผมมีงานพิเศษให้คุณทำด้วย” อัคนีพูดออกมา
“งานอะไรคะ” กานต์ธีราถามขึ้นด้วยความหวั่นใจ
“งานบนเตียง ใช้เวลาไม่นานผมให้คุณครั้งละแสนถ้าคุณกล้าทำผมก็ยินดีที่จะจ่าย”
สิ้นเสียงพูดของอัคนีคนที่นั่งฟังอย่างกานต์ธีราก็รู้สึกลมออกหูและหน้าชาขึ้นมาทันที
“ฉันนึกอยู่แล้วว่าคุณต้องไม่ใช่พ่อพระ คุณมันก็ไม่ต่างจากเสี่ยสุชาติและนักเลงพวกนั้นหรอก มันเป็นเรื่องของเวรกรรมที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ แต่ฉันอยากบอกอะไรให้คุณทราบสักอย่างนะคะคุณอัคนี...ฉันไม่ใช่ผู้หญิงขายตัวและฉันไม่ยินดีที่จะใช้วิธีหาเงินแบบที่คุณว่าเลย” กานต์ธีราพูดช้า ๆ ชัด ๆ และหนักแน่นทั้งที่ในตัวเธอกำลังสั่นไปด้วยความกลัวและโมโห
“งั้นเหรอ...แต่ที่ผ่านมาผมก็เห็นว่าเงินสามารถบันดาลได้ทุกอย่างไม่ว่าใครก็อยากได้อยากมีทั้งนั้น ถ้าไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำเพราะผมไม่เคยบังคับใจใคร”
“แต่ผมจะบอกอะไรคุณให้นะ อย่าเพิ่งมั่นใจไปว่าไม่อยากทำงานพิเศษที่ผมบอก ไม่แน่วันข้างหน้าคุณอาจจะต้องทำก็ได้” อัคนีพูดและยิ้มมุมปากอย่างร้าย
กานต์ธีราหน้านิ่งแล้วตอบเสียงดังฟังชัดออกมา
“ขอบคุณในความหวังดีและข้อเสนอที่คุณหยิบยื่นมาให้นะคะ แต่ฉันคงต้องบอกตามตรงว่า ฉันไม่คิดจะรับงานพิเศษนี้อย่างแน่นอน”
อัคนีลุกขึ้นยื่นแล้วมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาหมิ่น ๆ ก่อนจะพูดเสียงไม่ได้ต่างจากเดิมแม้แต่น้อย
“แล้วเรามาคอยดูกันว่าคุณจะทำได้อย่างที่พูดหรือเปล่า” พูดจบเขาก็เดินออกจากห้องทำงานไปทันที
++++++