นี่ก็เป็นเวลาร่วมหนึ่งเดือนแล้วที่กานต์ธีราเข้ามาทำงานที่บริษัทของอัคนี การทำงานในแต่ละวันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะมีบททดสอบมาให้ทำอยู่บ่อย ๆ สิ่งที่เจอมากที่สุดคืออารมณ์ของเจ้านายที่เกรี้ยวกราดบ้างเวลาที่มีงานผิดพลาดหรือไม่ทันใจ ซึ่งดูเหมือนว่าเลขานุการและคนสนิทคู่ใจจะชินกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“คนที่สามของวันนี้แล้ว” ชลธิชาพูดเปรยเบา ๆ พร้อมกับส่ายหน้าไปมาอย่างอ่อนใจเมื่อเห็นฝ่ายบัญชีเดินตาแดง ๆ ออกมาจากห้องทำงานของอัคนี วันนี้เธอเห็นเหตุการณ์แบบนี้มาสามครั้ง และทุกคนมีอาการไม่ได้ต่างกันเลย ไม่รู้ว่าช่วงนี้เจ้านายเป็นอะไรถึงได้เคร่งเครียดเรื่องงานมากกว่าปกติ ถึงแม้จะทำงานด้วยกันมานานแต่ก็อดเกร็งไม่ได้
“คุณอัคนีเป็นแบบนี้บ่อยเหรอคะ” กานต์ธีราถามด้วยความอยากรู้ เพราะหนึ่งเดือนที่ทำงานที่นี่มาเธอเจอมาสามสี่ครั้งแล้ว
“ก็ไม่ค่อยบ่อยหรอกจ้ะ แต่ถ้าเป็นแล้วก็น่ากลัวกว่าทอร์นาโดเสียอีก” ชลธิชาพูดและยังไม่ทันได้พูดอะไรออกมาอีกเสียงอินเตอร์คอมก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงเข้มดุของอัคนี
“กานต์ธีราเข้ามาพบผมด้วย”
กานต์ธีรารีบส่งเสียงแล้วหยิบสมุดติดมือเข้าไปในห้องทำงานใหญ่ด้วย โดยมีสายตาของไกรและชลธิชามองตามไปด้วยความเป็นห่วง
“ช่วงนี้บอสเครียดอะไรหรือเปล่าคะ” ชลธิชาเอ่ยถามคนสนิทของอัคนีด้วยความอยากรู้
“พอดีนายมีเรื่องต้องคิดนิดหน่อยน่ะครับ” ไกรตอบเท่าที่ตอบได้ ที่จริงแล้วตอนนี้ภายในบริษัทกำลังมีเกลือเป็นหนอนทำให้อัคนีเรียกดูเอกสารย้อนหลังหลายอย่าง คนรอบข้างเลยโดนผลกระทบไปด้วยและดูท่าคนที่จะโดนเยอะกว่าใครคงไม่พ้นผู้หญิงที่เพิ่งเดินเข้าไปในห้องเมื่อกี้นี้
...
กานต์ธีราเดินเข้ามาในห้องทำงานและก็เห็นว่าอัคนีนั่งหน้าเครียดอยู่คิ้วทั้งสองข้างขมวดจนเธอกลัวว่าคิ้วมันจะไม่คืนรูปเดิมแล้ว
“กานต์ธีรา! ยืนเหม่อคิดอะไรอยู่” อัคนีพูดเสียงดังทำให้คนที่คิดอะไรเพลิน ๆ ถึงกับสะดุ้ง
“เปล่าค่ะ คุณอัคนีเรียกฉันมามีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ” กานต์ธีราถามและเปิดสมุดโน้ตเตรียมจด แต่สิ่งที่ออกจากปากของผู้ชายตรงหน้าทำให้เธอหน้าชาไปทันที
“ทำงานให้คุ้มกับเงินที่ผมเสียไปหน่อยได้ไหม ไม่ใช่เอาแต่เหม่อลอยคิดเรื่องไร้สาระแบบนี้ เงินที่ผมเสียให้คุณกับแม่ไปไม่ใช่น้อย ๆ นะ” อัคนีพูดตำหนิออกมา ส่วนหนึ่งก็ยังโมโหที่โครงการของเขาโดนคู่แข่งหลอกแบบงานไปทำให้เกิดความเสียหายไม่น้อยเลย
“ขอโทษค่ะ ฉันจะไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก” กานต์ธีราพูดและพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา ในใจก็บอกตัวเองว่าให้อดทน เพราะเธอไม่มีทางเลือกอื่นในเมื่อรับความช่วยเหลือจากเขามาแล้วก็ต้องทนรับได้ทุกอย่าง
“เดี๋ยวคุณหาข้อมูลตามที่ผมเขียนในห้องเก็บเอกสาร ผมต้องการทุกอย่างให้เรียบร้อยภายในพรุ่งนี้เช้า” อัคนีพูดแล้วดันกระดาษแผ่นที่เขาเขียนไว้ไปตรงหน้ากานต์ธีรา
กานต์ธีราหยิบขึ้นมาดูและต้องทำตาโตขึ้นมาเมื่อเห็นว่าสิ่งที่อัคนีต้องการมันมากมายหลายอย่าง ดูแล้วต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการทำ และตอนนี้มันก็บ่ายสามโมงแล้วอีกไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงเวลาเลิกงาน และเธอก็ต้องรีบกลับไปทำหน้าที่สาวใช้ส่วนตัวให้กับอัคนีอีก
“มีปัญหาอะไรหรือเปล่า หรือว่าทำไม่ได้เดี๋ยวจะได้ให้คนอื่นที่มีความสามารถทำ” อัคนีแกล้งพูดแล้วเอื้อมมือหวังไปหยิบกระดาษคืน แต่กานต์ธีราก็เอากระดาษหลบแล้วพูดออกมา
“ฉันทำได้ค่ะ” เธอตอบเสียงหนักแน่น และรู้ได้ทันทีว่าอัคนีพูดแขวะและตำหนิว่าเธอไม่มีความสามารถมากพอที่จะทำงานแบบนี้
“ดี ถ้าอย่างนั้นก็ออกไปทำได้แล้ว” อัคนียกยิ้มมุมปากอย่างร้าย ๆ แล้วหันมาสนใจงานตรงหน้าต่อ ไม่น่าเชื่อว่าการที่ได้พูดจาเหน็บแนมกานต์ธีราจะทำให้เขาหายหงุดหงิดไปได้
กานต์ธีราเดินออกมาจากห้องทำงานก็เห็นสายตาของไกรและชลธิชามองมา ทำให้เธอต้องส่งยิ้มให้ทั้งคู่เพื่อบอกว่าไม่มีอะไร เธอโอเค
“บอสเรียกไปสั่งงานอะไรเหรอ” ชลธิชาถามขึ้นมา
“คุณอัคนีสั่งให้หาข้อมูลของโครงการต่าง ๆ ย้อนหลังไปห้าปีค่ะ” กานต์ธีราพูดแล้วส่งกระดาษให้เลขานุการรุ่นพี่ดู
ชลธิชารับมาดูก็ต้องตาโตด้วยความตกใจ เพราะงานพวกนี้เป็นงานเก่าที่ตั้งแต่เธอยังไม่ได้เข้ามาทำงานเลยด้วยซ้ำ ไม่บ่อยนักที่อัคนีจะเรียกดูงานเก่าแบบนี้
“งานนี้บอสให้ส่งเมื่อไรเดี๋ยวพี่ช่วยทำ”
“พรุ่งนี้เช้าค่ะ”
“พรุ่งนี้เช้า! แล้วจะทำทันเหรอเกรซ” ชลธิชาพูดอย่างตกใจ
“ไม่ทันก็ต้องทันค่ะ เดี๋ยวเกรซขอตัวไปห้องเก็บเอกสารก่อนนะคะ” กานต์ธีรายิ้มเซียว ๆ ให้ทั้งสองคนแล้วเดินตรงไปที่ห้องเก็บเอกสารซึ่งอยู่โซนซ้ายมือสุดห้องติดบันไดหนีไฟ
ชลธิชาและไกรมองตามร่างบางของกานต์ธีราไปด้วยความเห็นใจ ชลธิชาไม่รู้ว่าทำไมตลอดเวลาที่ทำงานด้วยกันอัคนีถึงจ้องจะใช้งานหญิงสาวรุ่นน้องคนนี้นัก เธอจำได้ว่าสัปดาห์แรกที่กานต์ธีราเข้ามาทำงานเจ้านายของเธอสั่งงานเหมือนหญิงสาวเป็นพนักงานส่งเอกสารเลย ทั้งส่งเอกสารและซื้อของทำให้เธออดสงสารไม่ได้
ส่วนไกรเขารู้ดีว่าที่เจ้านายทำแบบนี้เพราะคิดดูถูกและอยากกลั่นแกล้งกดดันให้กานต์ธีราเสียใจ เห็นอัคนีเพียบพร้อมทุกอย่าง แต่เขามีปมเรื่องผู้หญิงด้วยความที่ถูกอดีตคนรักหักหลังเห็นเงินทองสำคัญกว่าความรักที่มีให้กัน ทำให้ตั้งแต่วันนั้นอัคนีคิดว่าผู้หญิงทุกคนซื้อได้ด้วยเงิน ยิ่งกานต์ธีราเข้ามาอยู่ในฐานะลูกหนี้ด้วยแล้วยิ่งไปกันใหญ่
...
กานต์ธีรานั่งค้นหาเอกสารอยู่ในห้องแคบ ๆ มือหนึ่งก็เปิดหาข้อมูลส่วนมืออีกข้างก็คอยจดสรุปเนื้อหาออกมาเพื่อเอาไปพิมพ์และส่งให้อัคนีได้ตรวจอีกครั้ง แต่ระหว่างที่กำลังมีสมาธิอยู่กับงานตรงหน้าเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น พอหยิบมาดูก็ต้องถอนหายใจแล้วรีบรับสายทันที
“แม่โทรมามีอะไรหรือเปล่าคะ” ไม่บ่อยนักที่แม่จะโทรมาหา และทุกครั้งที่โทรมาหาก็จะมีแต่เรื่องเดิม ๆ
“ทำอะไรอยู่ว่างหรือเปล่า” ญาณีถาม
+++++