บทนำ

1210 Words
บรรยากาศในห้องรับแขกใหญ่ในตอนนี้ถ้าจะเปรียบให้เห็นภาพก็คือเหมือนอยู่ในลานประหารไม่มีผิด เพราะชายหนุ่มที่เป็นแขกซึ่งมาเยือนโดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้ากำลังใช้สายตาคมดุจ้องมองไปที่ลูกหนี้รายหนึ่งที่เบี้ยวนัดและติดต่อไม่ได้ทำให้เขาต้องมาที่นี่ด้วยตัวเอง ที่จริงให้ลูกน้องมาก็ได้ แต่เพราะต้องการให้ผู้ชายวัยกลางคนนี้รู้ว่าเขาไม่ใช่หมูในอวยที่จะมาให้เฉือดได้ง่าย ๆ อย่างที่คิด “ตกลงคุณจะเอายังไงครับ ผมไม่ได้อยากเร่งรัดเรื่องพวกนี้หรอกนะ แต่มันเลยกำหนดมานานแล้ว และดูเหมือนว่าคุณก็จงใจหลบหน้าผมด้วย” ชายหนุ่มเจ้าของห้องเอ่ยถามคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่งและท่าทางที่สบาย ๆ ซึ่งต่างจากอีกคนที่นั่งบีบมือเหงื่อไหลซึมออกมาก่อนจะตอบเสียงอึกอัก “ผะ ผมไม่ได้หลบหน้านะครับ แต่พอดีช่วงนี้ยุ่ง ๆ เลยไม่ได้รับสายใครเลย” “ยุ่งเรื่องอะไรครับ เรื่องงานหรือเรื่องผู้หญิง” เจ้าของใบหน้าคมดุถามพร้อมกับยกยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย คำพูดของชายหนุ่มตรงหน้าทำให้คนมีชนักติดหลังถึงกลับสะดุ้ง เพราะไม่คิดว่าคนตรงหน้าจะรู้เรื่องนี้ด้วย แต่ความจริงแล้วสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ลืมคิดไปว่าไม่มีเรื่องไหนสามารถรอดสายตาของผู้ชายคนนี้ไปได้ “ผมจะรีบหาเงินมาใช้คืนให้เร็วที่สุดครับ” เมื่อไม่มีทางเลือกศักดิ์สิทธิ์จำต้องพูดออกมาทั้งที่ยังไม่รู้เลยว่าจะไปหาเงินหลายล้านที่ไหนมาคืนอัคนี แต่ตอนนี้ถ้าเขาไม่รับปากชีวิตคงไม่เหลือแน่ อัคนียกยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อยแล้วลุกยืนก่อนจะพูดเสียงเรียบออกมา “ผมให้เวลาคุณสองเดือนในการหาเงินมาคืน ถ้าครบกำหนดแล้วทุกอย่างยังเงียบอยู่คุณคงรู้นะว่าอะไรจะเกิดขึ้น” พูดจบอัคนีก็เดินออกจากห้องทำงานนี้ไปพร้อมกับลูกน้องคนสนิท อัคนีเข้ามานั่งในรถแล้วหันไปมองบ้านหลังใหญ่ตรงหน้าก่อนจะพยักหน้าให้ลูกน้องขับรถออกไปจากที่นี่ “นายจะให้ผมทำยังไงกับคุณศักดิ์สิทธิ์หรือเปล่าครับ” ไกรเอ่ยถามอย่างรู้ใจเมื่อเห็นสายตาของเจ้านายตัวเอง “จับตามองเอาไว้ฉันสังหรณ์ใจว่าคุณศักดิ์สิทธิ์จะเล่นแง่แน่นอน” สายตาของเขาไม่เคยพลาดประกอบกับข้อมูลที่ให้คนไปสืบมาทำให้ต้องระวังชายวัยกลางคนคนนี้ให้มาก อัคนีไม่ได้ปล่อยเงินกู้ให้คนอื่นมากมาย ที่ให้ศักดิ์สิทธิ์เพราะเขาเป็นเพื่อนเก่าของพ่อด้วยความที่รู้จักกันมานานเลยยอมช่วยเหลือ ที่จริงเงินสิบล้านมันไม่ได้มากมายอะไรสำหรับเขา แต่ที่ต้องทำเพราะไม่อยากให้คนอื่นคิดว่าเขาไก่อ่อนที่จะมาทำอะไรแบบนี้ได้ง่าย ๆ “ได้ครับเดี๋ยวผมจะให้คนจับตาคอยเฝ้าคุณศักดิ์สิทธิ์ทุกฝีก้าว” ไกรพูดและหยิบโทรศัพท์สั่งงานลูกน้องทันที ... ตึกสูงโอ่อ่าหรูหราตรงหน้าเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีเจ้าของชื่ออัคนี เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในและนอกวงการเป็นอย่างมาก ใคร ๆ ก็อยากร่วมงานกับที่นี่ เพราะความมั่นคงและมั่งคั่งทำให้เป็นที่น่าเชื่อถือไม่น้อย นอกจากนั้นแล้วเสียงลือว่าเจ้าของบริษัทนี้หน้าตาหล่อเหลา มีความดุดันทำให้สาว ๆ ทั้งหลายอยากทำความรู้จักคุณอัคนีทั้งนั้น แต่ใช่ว่าผู้หญิงทุกคนจะได้เข้าใกล้เขาได้ง่าย ๆ เพราะคนอย่างอัคนีใคร ๆ ก็รู้ว่าช่างเลือกมากแค่ไหน “คุณปรางขวัญมารออยู่ที่ห้องรับรองค่ะ” ชลธิชาเลขานุการสาวคู่ใจบอกเจ้านายออกไป อัคนีมองไปที่ห้องรับรองแล้วยกนาฬิกาเรือนหรูขึ้นมาดูแล้วถอนหายใจออกมา “ให้รอไปก่อนผมมีนัดคุยงานกับฝ่ายออกแบบ” พูดจบชายหนุ่มก็เดินเข้าไปในห้องทำงานของตัวเอง ชลธิชาเองก็รู้ว่าตัวเองต้องทำอย่างไรกับผู้หญิงที่มานั่งรอเจ้านายอยู่ในห้องรับรอง เพราะไม่ใช่คนแรกที่มานั่งรอและเฝ้าอัคนี เวลาผ่านไปร่วมสองชั่วโมงแล้วที่ปรางขวัญมานั่งรออัคนีอยู่ในห้องนี้ เธอโทรไปหาเขาก็ไม่รับสาย เลขานุการของเขาก็แค่เอาเครื่องดื่มและของว่างมาเสิร์ฟให้เท่านั้นเอง “นี่คุณจะให้ฉันรอไปถึงไหนเนี่ย” ปรางขวัญพูดกับตัวเองก่อนจะตัดสินใจเดินออกจากห้องไปที่ห้องทำงานของอัคนี “นี่เธอคุณอัคนีเขายังไม่เข้ามาอีกเหรอ” “บอสเข้ามาแล้วค่ะ” ชลธิชาบอกผู้หญิงคนล่าสุดของเจ้านายตัวเอง “อ้าว! เขามาแล้วทำไมเธอไม่ไปบอกฉันล่ะ แล้วนี่เขาอยู่ที่ไหนเธอไม่ได้บอกหรือไงว่าฉันมาหา” ปรางขวัญถามด้วยความไม่พอใจ ชลธิชาเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวร่างเพรียวก่อนจะพูดออกมา “ดิฉันบอกบอสแล้วค่ะ แต่พอดีว่าบอสมีงานด่วนต้องจัดการและไม่ต้องการให้คนอื่นรบกวน ถ้าคุณปรางขวัญอยากจะพบบอสก็ต้องรอก่อนนะคะ” “เธอแกล้งฉันใช่ไหม!” ปรางขวัญชี้หน้าเลขานุการสาวที่เธอไม่เคยชอบหน้าเลย “ดิฉันไม่ได้แกล้งนะคะ ทุกอย่างเป็นคำสั่งของบอสค่ะ” “ฉันไม่เชื่อหรอก ถ้าเขารู้ว่าฉันมาหาไม่มีทางที่คุณอัคนีจะไม่ให้ฉันเจอหรอก เธอลืมไปแล้วหรือไงว่าฉันเป็นใครมีความสำคัญมากแค่ไหน เดี๋ยวฉันจะให้เขาเธอออก” ปรางขวัญพูดอย่างคนถือดี โดยที่ไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองได้ถูกปลดจากผู้หญิงของอัคนีแล้ว และที่เสียงที่ดังก้องไปทั่วทำให้คนที่นั่งทำงานอยู่ในห้องต้องขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจ และลูกน้องคนสนิทก็ไม่ต้องให้เจ้านายเอ่ยปากอะไรไกรก้มศีรษะเล็กน้อยแล้วเดินออกมาจากห้องทำงานไปจัดการทันที “ที่นี่ไม่ใช่ตลาดสดนะครับคุณปรางขวัญกรุณาเงียบเสียงด้วย” “คุณอัคนีเขาให้นายมาตามฉันให้เข้าไปพบแล้วใช่ไหม...หลีกไปสิ” ปรางขวัญพูดพร้อมกับเดินไปที่หน้าห้องทำงานของอัคนี แต่ชายหนุ่มที่เป็นลูกน้องคนสนิทของชายหนุ่มกลับยืนนิ่งไม่ยอมขยับ “ตอนนี้นายยังไม่สะดวกที่จะให้คุณเข้าไป กรุณาเข้าไปรอในห้องรับรองก่อนครับ” ไกรพูดแล้วผายมือเชิญหญิงสาวไปทางห้องรับรอง และต้องพูดออกมาอีกครั้งเมื่อเห็นว่าปรางขวัญไม่ยอมเดินไป “คุณคงรู้ใช่ไหมว่านายไม่ชอบให้ใครขัดใจ ถ้าขืนคุณยังดื้อไม่ฟังอาจจะไม่ได้อะไรจากนายอีกเลยก็ได้นะครับ” เท่านั้นแหละปรางขวัญก็ชะงักนิ่งไปนิดอย่างเพิ่งนึกได้ก่อนจะสะบัดหน้าแล้วเดินกระแทกเท้าไปทันที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD