บทนำ 2

1336 Words
หนึ่งชั่วโมงต่อมาประตูห้องรับรองก็เปิดพร้อมกับชายหนุ่มร่างสูงหน้าดุเดินเข้ามา ปรางขวัญยิ้มกว้างทันทีที่เห็นว่าคนที่ตัวเองรอมานานได้เดินเข้ามาหาแล้ว ไม่รอช้าเธอรีบลุกไปโผเข้ากอดอัคนีไว้ทันที “ขวัญคิดถึงคุณมากเลยค่ะ” ไม่พูดเปล่าเธอยังเขย่งปลายเท้าขึ้นไปหอมแก้มสากอย่างเอาใจเหมือนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้อัคนีกลับเอียงหน้าหนี “ไปนั่งก่อนไปผมมีเรื่องจะคุยด้วย” อัคนีผละห่างแล้วเดินไปนั่งที่โซฟารับแขกด้วยท่าทางนิ่ง ๆ ทำให้คนที่รอมาหลายชั่วโมงใจคอไม่ค่อยดี แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังปั้นรอยยิ้มหวานเดินไปนั่งข้าง ๆ “คุณอัคนีมีเรื่องอะไรจะคุยกับขวัญเหรอคะ” อัคนีไม่พูดอะไรแต่หยิบกระดาษแผ่นเล็กออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้ววางไปที่โต๊ะตัวเล็กด้านหน้าของปรางขวัญ หญิงสาวเห็นแบบนั้นก็เอื้อมไปหยิบมาดูและก็ต้องตาโตเมื่อเห็นตัวเลขที่อยู่บนกระดาษ “คุณให้ขวัญทำไมคะ เงินเดือนขวัญคุณก็เพิ่งโอนมาให้เอง” “นี่เป็นเงินที่ผมจะให้คุณเป็นครั้งสุดท้าย และต่อจากนี้เราสองคนคงไม่มีเรื่องต้องติดต่อกันอีก” อัคนีพูดเสียงเรียบนิ่ง “อะ อะไรนะคะ ที่คุณพูดหมายความว่ายังไง” ปรางขวัญถามด้วยความตกใจ “ก็หมายความตามที่พูดไป” “นี่คุณจะทิ้งขวัญเหรอคะ ขวัญทำอะไรผิด” ปรางขวัญร้องไห้ออกมาทันทีเมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังจะถูกเขี่ยทิ้ง เงินทองก้อนโต ชีวิตที่หรูหรากำลังจะหายไป “คุณลืมข้อตกลงระหว่างเราไปแล้วหรือไง เมื่อไรที่ผมบอกว่าหยุดก็คือหยุด เงินก้อนนี้ที่ผมให้ถ้ารู้จักประหยัดไม่ฟุ่มเฟือยคุณก็จะมีกินมีใช้ไปตลอด และที่ผ่านมาคุณก็ได้จากผมไปไม่น้อยเลยนะ” อัคนีถอนหายใจแล้วพูดเสียงเรียบนิ่ง ซึ่งไม่ได้จากใบหน้าคมเข้มเลย “แต่ขวัญรักคุณนะคะ ถ้าขวัญทำอะไรผิดหรือคุณไม่พอใจเรื่องอะไรก็บอกขวัญได้นะคะ ขวัญพร้อมจะปรับปรุงแก้ไข” ปรางขวัญพูดเสียงสั่นเครือออกมา แต่ในใจกำลังกรีดร้องก็จริงอยู่ที่จำนวนเงินที่อัคนีให้มามันมากมาย แต่มันเทียบไม่ได้เลยกับทรัพย์สมบัติทั้งหมดของเขา อัคนีหันไปมองหน้าผู้หญิงคนล่าสุดที่กล้าพูดคำว่ารักออกมาอย่างง่ายดาย ยิ่งเจ้าหล่อนบีบน้ำตาเท่าไรเขายิ่งรู้สึกรำคาญมากขึ้น “อย่ามาพูดคำว่ารักกับผม เพราะสิ่งที่คุณรักจริง ๆ คือเงินของผมมากกว่า และหยุดบีบน้ำตาได้แล้วมันน่ารำคาญ ถ้ายังพูดไม่รู้เรื่องคุณจะไม่ได้เงินจากผมแม้แต่บาทเดียว ตกลงจะเอายังไงจะร้องไห้ต่อหรือจะเก็บเงินไปแล้วไปให้พ้นหน้าผม” อัคนีพูดเสียงเข้ม เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มเอาจริงปรางขวัญก็รีบเช็ดน้ำตาแล้วเก็บเช็คใส่กระเป๋าทันทีก่อนจะพูดเสียงหวานออกมา “ก็ได้ค่ะ ถ้าคุณอัคนีอยากให้ขวัญมาหาอีกเมื่อไรก็โทรบอกได้ตลอดเวลาเลยนะคะ” พูดจบเธอก็รีบเดินออกจากห้องไปทันที ใครจะอยู่ให้โง่ล่ะขืนอยู่ต่อมีหวังเสียเงินก้อนโตแน่ อัคนีถอนหายใจหนัก ๆ ออกมา เขาจำไม่ได้แล้วว่าตัวเองได้ยินคำว่ารักจากผู้หญิงพวกนี้มากี่ครั้งแล้ว สิ่งที่ผู้หญิงทุกคนรักไม่ใช่ตัวเขาหรอก พวกหล่อนรักเงินของเขาต่างหาก เขาไม่เคยเชื่อว่าเรื่องความรักขอแค่มีเงินต่อให้อยากได้อะไรก็ย่อมได้ ++++++ กานต์ธีราเดินเข้ามาในบ้านและก็ต้องถอนหายใจออกมาเมื่อเห็นว่าภายในบ้านเปิดไฟสว่างไปทั่วทั้งหลัง ไม่บอกก็รู้ว่าแม่กลับมาแล้วหลังจากหายไปอยู่ที่บ่อนเป็นอาทิตย์ ที่กลับคงเพราะเงินหมดแล้วนั่นแหละ เพราะถ้าไม่หมดท่านก็คงยังไม่กลับ คิดแล้วน่าหนักใจตั้งแต่พ่อเสียไปแม่ก็เล่นการพนันหนักขึ้นเรื่อย ๆ จากตอนแรกที่เล่นขำ ๆ ตอนนี้ชักจะไม่ขำด้วยแล้ว “กลับมาแล้วเหรอ หิวไหมแม่ทำของโปรดเตรียมไว้ให้” ญาณีเดินออกมาจากครัวร้องทักขึ้นเมื่อเห็นลูกสาวเดินเข้ามาในบ้าน “แม่กลับมาเมื่อไรคะ” กานต์ธีราถามแม่และเดินไปรินน้ำใส่แก้วมาดื่มดับกระหาย “เมื่อกลางวันนี่แหละ” ญาณีตอบแล้วเดินกลับเข้าไปในครัวอีกครั้ง กานต์ธีราเองก็เดินไปล้างมือและมานั่งรอที่โต๊ะกินข้าวที่ตอนนี้มีจานอาหารวางอยู่ ทั้งสองคนนั่งกินข้าวเงียบ ๆ ไม่พูดอะไรกันเลย จนกระทั่งอิ่มก็เป็นการนต์ธีราที่พูดขึ้นมาก่อนเมื่อเห็นท่าทางของแม่ ที่ดูเหมือนจะเอาใจเธอเป็นพิเศษแถมท่านยังชำเลืองมองเป็นระยะอีกด้วย แค่นี้ก็รู้แล้วว่าแม่ต้องมีเรื่องอะไรบางอย่างที่อยากจะพูดกับเธอ “แม่มีอะไรก็พูดมาเถอะค่ะ” “คือว่า พอดีแม่อยากจะยืมเงินเราหน่อย ได้ไหม” ญาณีถามเสียงอ้อมแอ้มเพราะรู้นิสัยลูกสาวตัวเองดีว่ากานต์ธีราเป็นคนประหยัดและไม่ค่อยใช้เงินฟุ่มเฟือย “แม่จะเอาเงินเท่าไร และเอาไปทำอะไรคะ” เธอถามทั้งที่รู้ว่าแม่จะเอาเงินไปทำอะไร เพราะทุกครั้งเวลากลับมาบ้านแบบนี้ท่านมักจะมาขอเงินเสมอมากน้อยก็แล้วแต่ ญาณีพูดไม่ออก เพราะรู้ว่าถ้าบอกไปกานต์ธีราคงโวยวายแน่ แต่เธอไม่มีทางเลือกระหว่างโดนลูกโวยวายกับโดนนักเลงตามมากระทืบเธอยอมโดนกานต์ธีราบ่นดีกว่า เพราะบ่นยังไงลูกสาวก็ช่วยทุกที “หนึ่งแสน” “หนึ่งแสน!!” กานต์ธีราร้องเสียงดังด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าแม่จะเสียพนันเยอะขนาดนี้ “แม่เล่นเสียเยอะขนาดนี้เลยเหรอ ครั้งที่แล้วก็ห้าหมื่นครั้งนี้เป็นแสนเลยนะหนูจะไปหาเงินที่ไหนมาให้บ่อย ๆ” “ก็มันเล่นเพลินไปหน่อยมารู้ตัวอีกทีก็หมดไปเป็นแสนแล้ว เอามาให้ยืมก่อนเดี๋ยวเล่นได้แล้วจะเอามาคืน ครั้งนี้สัญญาว่าคืนแน่” ญาณีพูดอย่างหัวเสีย เพราะไม่คิดว่าจะเล่นเสียเยอะขนาดนี้ปกติแค่ไม่กี่หมื่น แต่ครั้งนี้มันเพลินมือไปจริง ๆ “แม่ก็พูดแบบนี้ทุกที่ สุดท้ายแม่ก็ไม่เคยเอามาคืนหนูเลยแถมยังมาเอาเพิ่มขึ้นทุกครั้ง” เธอจำไม่ได้แล้วว่าแม่พูดประโยคนี้มากี่ครั้งแล้ว ทุกครั้งที่จะขอเงินท่านก็มักจะพูดคำนี้เสมอ “ครั้งนี้คืนจริง ๆ และจะไม่รบกวนเรื่องเงินอีก” ญาณีพูดเสียงเหวี่ยงเพราะไม่พอใจที่กานต์ธีราพูดเหมือนไม่เชื่อในคำพูดของเธอ “ถ้าครั้งนี้หนูไม่มีให้แม่จะว่ายังไง” ญาณีชะงักไปนิดเมื่อได้ยินคำพูดของลูกสาว “ก็ไม่ว่ายังไงก็แค่รอทำศพแม่ก็แล้วกัน เพราะนักเลงคุมบ่อนมันคงไม่ยอมแน่” พูดจบก็เดินหนีขึ้นห้องไปทันที กานต์ธีรานั่งหน้าเครียดอยู่ที่เดิม เพราะรู้ว่าสิ่งที่แม่พูดมันเป็นเรื่องจริงแน่เพราะเคยเห็นตามข่าวว่ามีการทวงหนี้โหดจริง ๆ คิดแล้วก็หนักใจว่าจะทำยังไงดีเงินเก็บที่มีอยู่ก็ใกล้จะหมด ถ้าแม่ยังเป็นแบบนี้เธอจะทำยังไงต่อไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD