“เอาไว้ฉันมีความสุขแล้วค่อยมาคุยเรื่องเงินกันทีหลังนะจ๊ะ” ชายคนที่กำลังคร่อมตัวเธอพูดขึ้นมาพร้อมกับมือหนาที่กำลังจะถอดเสื้อผ้าของเธอ แต่ก่อนที่ทุกอย่างจะเลวร้ายไปมากกว่าชายหน้าหื่นก็ชะงักค้างไปเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรมาจ่อที่หัวด้านหลัง
“กลางวันแสก ๆ มึงยังกล้าทำเลวอีกเหรอ” เสียงเข้มและเย็นดังขึ้นจากด้านหลัง กานต์ธีราพอเห็นว่ามีคนมาช่วยเธอก็รีบดิ้นรนหาทางเอาตัวรอดทันที
“ช่วยฉันด้วยค่ะ!!”
อัคนีชายตามองหญิงสาวที่ลุกมายืนด้านหลังของเขาเล็กน้อย ก่อนจะหันไปพูดกับชายหน้าหื่นช้า ๆ
“มึงลุกขึ้นช้า ๆ ถ้าตุกติกกูยิงมึงทิ้งแน่”
“มึงเป็นใครมายุ่งอะไรเรื่องของผัวเมียในบ้านคนอื่นเขา” ไอ้คนเลวยังปากดีแม้จะมีปืนจ่ออยู่ที่หัว
“ฉันไม่ได้เป็นเมียเขานะ!” กานต์ธีรารีบพูดออกมาเมื่อเห็นสายตาของพลเมืองดี
“มึงอย่ามายุ่งเรื่องของกูดีกว่าถ้าไม่อยากหายไปจากโลกนี้” ชายชั่วยังไม่วายพูดขู่ และตอนนั้นเองเพื่อนอีกคนที่เดินสำรวจบ้านก็ถูกชายคนหนึ่งหิ้วปีกมาโยนไว้ที่ห้องรับแขก
“มึงคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงกล้าพูดแบบนี้กับกู” อัคนีจ่อปีนไปที่หน้าผากของคนปากดีที่ตอนนี้หน้าซีดอย่างเห็นได้ชัด
“ถ้าเจ้านายกูรู้เรื่องนี้มึงเดือดร้อนแน่”
“อย่างนั้นมึงก็ไปบอกเจ้านายมึงเลยว่ากูชื่ออัคนี เจ้าของที่ดินที่เสี่ยมึงแอบใช้ทำบ่อนอยู่ตอนนี้ ถ้าเจ้านายมึงมีปัญหาก็มาหากูได้ทุกเมื่อ” อัคนียกยิ้มมุมปากอย่างเยาะ ๆ แล้วใช้ด้ามปืนตบไปที่หน้าของชายชั่วอย่างแรงจนอีกฝ่ายหน้าหันเลือดกลบปาก
ชายชั่วที่ออกอาการหื่นและผยองอยู่เมื่อกี้หน้าซีดหนักกว่าเดิมเมื่อรู้ว่าผู้ชายหน้าดุตรงหน้าเป็นใคร ไม่มีใครไม่รู้จักคุณอัคนีหรอก งานนี้นอกจากโดนตบด้วยด้ามปืนกลับไปเขาคงโดนเสี่ยกระทืบอีกแน่
“ไกรจับไอ้สองคนนี้มัดเอาไว้แล้วโทรให้คนของเรามารับตัวมันไปส่งเจ้านายของมันเดี๋ยวฉันจะตามไปทีหลัง” อัคนีหันมาพูดกับคนสนิทด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง แต่แววตาดุดันไม่น้อย แม้เขาจะโหดแค่ไหนแต่การที่ผู้ชายคนนี้จะข่มขืนผู้หญิงมันเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจและยอมรับไม่ได้
“ครับนาย” ไกรรับคำแต่ก่อนจะไปเดินไปหยิบเชือกเขาก็จัดการให้ชายสองคนนั้นสิ้นฤทธิ์เสียก่อน
กานต์ธีรามองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความตกใจ ตอนนี้มือและขาเธอสั่นไปหมดไม่รู้จะจับต้นชนปลายอย่างไรดี เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้มันหนักหนาเหลือเกิน และต้องสะดุ้งด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเสียงเข้มดุพูดขึ้นมา
“ส่วนคุณขึ้นไปเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าเอาที่จำเป็นแล้วลงมาหาผมข้างล่าง ผมให้เวลาสิบห้านาที” อัคนีพูดกับหญิงสาวที่ยืนหน้าซีดขาวอยู่ข้าง ๆ เขา
“จะให้ฉันเก็บเสื้อผ้าไปไหนคะ” กานต์ธีราถามด้วยความอยากรู้ และความไม่ไว้ใจเพราะชายหน้าโหดที่จัดการไอ้คนเลวสองคนนั้นเป็นคนที่มาถามหาแม่เธอเมื่อไม่นานมานี่
“บอกให้ไปเก็บก็ไปเก็บเถอะ หรือจะอยู่รอให้ไอ้สองคนนี้หรือผู้ชายคนอื่นมาข่มขืนอีก ครั้งหน้าผมอาจจะมาช่วยคุณไม่ทันแล้วก็ได้นะ” อัคนีพูดขู่เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ยอมทำตามที่เขาพูด
“ฉันไม่ไปไหนกับคุณทั้งนั้น ฉันจะรอแม่อยู่บ้าน” กานต์ธีราดื้อไม่ยอมทำตามเพราะเธอก็กลัวว่าผู้ชายที่เป็นเหมือนฮีโร่มาชวนแท้จริงแล้วเขาก็เป็นเจ้าหนี้ของแม่คนหนึ่งเหมือนกัน
อัคนีใช้สายตาดุดันมองไปที่ผู้หญิงที่ปากดีเถียงและดื้อไม่ยอมทำตามที่เขาพูดทั้ง ๆ ที่เขาช่วยเหลือให้ผ่านเรื่องเลวร้ายมาได้แท้ ๆ เขาถอนหายใจแล้วพูดเสียงเข้มออกมา
“แล้วแม่คุณอยู่ที่ไหน”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน” กานต์ธีราพูดเสียงแผ่วและทำหน้าเหมือนอยากร้องไห้
“งั้นก็ไปอยู่ที่บ้านผมก่อนแม่คุณกลับมาแล้วค่อยกลับมาที่นี่”
กานต์ธีราเงยหน้ามองผู้ชายที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือตัวเองก่อนจะตัดสินใจถามคำถามที่อยากรู้ออกมา
“คุณเป็นใครแล้วรู้จักแม่ฉันได้ไง”
“มันใช่เรื่องที่ต้องมาอยากรู้ตอนนี้ไหม” อัคนีเท้าเอวแล้วเอ่ยอย่างรำคาญ
“ถ้าคุณไม่บอกว่าเป็นใครฉันคงไม่กล้าไปกับคุณหรอกค่ะ” กานต์ธีราเองก็ยังดื้อดึงไม่ยอมไปไหน
อัคนีถอนใจอย่างหนักแล้วเดินไปนั่งที่โซฟาก่อนจะพูดเสียงเข้มดุขึ้นมา
“เอาล่ะ ในเมื่ออยากรู้ว่าผมเป็นใครก็จะบอกให้ ก็ดีเหมือนกันพูดคุยให้จบ ๆ เพราะผมเองก็รำคาญคุณเต็มที่แล้ว”
“แม่คุณเป็นหนี้ผมอยู่ และมันก็เลยกำหนดชำระเงินค่าดอกเบี้ยมาหลายวันแล้ว แถมแม่คุณก็หายเงียบเข้ากลีบเมฆไม่ติดต่ออะไรมาเลย”
ถึงจะพอรู้อยู่แล้วว่าผู้ชายคนนี้ต้องเป็นเจ้าหนี้อีกคนของแม่ แต่ก็อดเสียใจไม่ได้อยู่ดีที่ท่านแอบไปสร้างหนี้มาอีกแล้ว
“แม่ฉันเป็นหนี้คุณเท่าไรคะ” กานต์ธีราถามเสียงแผ่ว
“ที่ถามนี่เพราะจะใช้เงินคืนหรือไง” อัคนีถามน้ำเสียงเยาะ ๆ
“มันก็คงต้องเป็นแบบนั้นไม่ใช่เหรอ ก็คุณเพิ่งพูดอยู่ว่าแม่ฉันค้างค่าดอกเบี้ยคุณมาหลายวันแล้ว” ถามทั้งที่ในใจก็ภาวนาว่าอย่าให้เป็นจำนวนเงินที่เยอะเลย เพราะแค่หนี้ของพวกคุมบ่อนเธอยังไม่รู้จะไปหามาจากไหนเลย
“ที่จริงแม่ของคุณค้างชำระเงินผมมาหลายเดือนแล้ว ค่าดอกเบี้ยผมใจดียกให้แต่เงินต้นที่เอาไปคุณต้องหามาคืนทั้งหมด” อัคนีพูดขึ้นมาอย่างใจดีก่อนจะพูดต่อ
“แม่คุณเป็นหนี้ผมสามล้าน โดยเอาบ้านหลังนี้ไปค้ำประกันเอาไว้”
กานต์ธีราช็อคกับสิ่งที่ได้ยิน เธอไม่คิดว่าแม่จะสร้างหนี้เยอะขนาดนี้แถมท่านยังแอบเอาบ้านหลังนี้ไปค้ำประกันไว้อีกต่างหาก เท่ากับตอนนี้เธอไม่เหลืออะไรเลยใช่ไหม
“สะ สามล้านเลยเหรอ เป็นไปไม่ได้แม่ของฉันจะเอาเงินไปทำอะไรตั้งเป็นล้าน”
“แม่คุณไม่ได้มาเอาทีเดียวเป็นก้อนหรอกนะแต่ทยอยมาเอาเรื่อย ๆ นี่ผมไม่ได้คิดดอกเบี้ยอะไรเลยนะ”