ดาฟเน่ถอดหมวกปีกกว้างที่สวมอยู่ออกมาวางไว้บนเก้าอี้ วันนี้เธอสวมชุดเดรสสีน้ำตาลพร้อมกับเสื้อคลุมเรียบๆ และสวมหมวกปีกกว้างสีเดียวกับชุดเพื่อไม่ให้สะดุดตา
เธอนั่งลงตรงข้ามกาเลนที่กำลังนั่งพิงโซฟาตัวยาวด้วยท่าทีสบายๆ เขามองหน้าเธอพร้อมกับส่งยิ้มที่แสนจะเจ้าเล่ห์ให้
"ข้าคิดว่าเจ้าจะนัดข้าทันทีที่งานเลี้ยงที่คฤหาสน์เบอริฮานจบซะอีก ทิ้งเวลาไปนานจนมันอดหงุดหงิดไม่ได้เลยแฮะ"
"ข้ามีปัญหานิดหน่อย เข้าเรื่องเลยก็แล้วกัน ข้ามาวันนี้ก็เพราะจะมาบอกกล่าวความลับแก่ท่านแกรนด์ดยุค..."
กาเลนเลิกคิ้วมองหน้าดาฟเน่อย่างสงสัยพร้อมกับยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม
"ความลับของพ่อข้างั้นหรือ?"
"ผิดแล้ว ความลับของข้าต่างหาก"
เขาหัวเราะเบาๆพร้อมกันมองหน้าเธอ ราวกับว่าเรื่องที่เธอหกล่าวออกมามันคือเรื่องตลก
"ดาฟเน่ ถึงข้าจะถูกใจเจ้า แต่ข้ามิได้อยากรู้เรื่องราวของเจ้าขนาดนั้น แต่ถ้าเจ้าบอกกล่าวถึงรสนิยมที่ร้อนแรงบนเตียง บางทีข้าอาจจะอยากฟัง...."
"กาเลน ที่ข้ามาหาเจ้าวันนี้ก็เพราะว่าข้ารู้เรื่องความลับหรือแม้กระทั่งเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าทุกเรื่อง ไม่เว้นแม้แต่นิสัยการนอนที่เจ้าจะต้องมีตุ๊กตาหมีตัวเก่าโสโครกที่เจ้าต้องกอดนอนทุกคืนมิเช่นนั้นเจ้าจะฝันร้าย..."
แววตาสนุกสนานของกาเลนได้เปลี่ยนไปในทันทีเพราะเขาค่อนข้างจะตกใจที่เธอกล่าวถึงหมีเท็ดดี้แสน่ารักของเขา..
รู้ได้ยังไงวะ!!
"นี่เจ้า..จ้างคนตามสืบเรื่องข้างั้นเรอะ!!"
"มีสติหน่อยกาเลน หากว่าข้าตามสืบเรื่องของเจ้าจริงๆเรื่องราวพวกนี้ มันใช่เรื่องที่จะตามสืบกันได้งั้นหรือ ข้ารู้แม้กระทั่งว่ารักครั้งแรกของเจ้าคือนักบุญหญิง..."
"ปึง!!"
เขาฟาดมือลงไปที่โต๊ะอย่างแรงราวกับจะบอกกล่าวให้เธอหยุดยั้งคำพูดที่จะกล่าวออกมา
"ระวังคำพูดหน่อยดาฟเน่! นั่นใช่สิ่งที่เจ้าจะกล่าวออกมาได้งั้นหรือ?"
เขามองหน้าเธอด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธ
"เจ้าเป็นใครกันแน่!"
เธอมองหน้าของเขาพร้อมกับยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม กาเลนนั้นถึงจะเป็นเศษสวะแต่ว่าเขาก็คือเพื่อนที่ดีคนหนึ่ง อาจจะเป็นเพราะว่าเธอมีเขาเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวก็ได้มันถึงทำให้เธอมั่นใจว่าลึกๆในใจเขาจะต้องเชื่อถือคำพูดของเธอและจะยอมช่วยเหลือเธอโดยไม่ยาก
"กาเลน ลองคิดดูสิ ว่าใครกันที่รู้เรื่องราวชีวิตของเจ้าทุกอย่าง?"
เขาเองก็ไม่ใช่คนมีเพื่อนเยอะ ตรงกันข้ามเขาไม่มีเพื่อนเลยต่างหาก มีเพียงสตรีผู้เดียวที่เป็นเพื่อนสนิทเขา แต่ว่าเธอตายไปแล้วนี่นา!!
"เวด้า?..."
แววตาของเขาเบิกกว้างขึ้นมาทันทีที่เขาเห็นมุมปากของเธอยกยิ้มขึ้นมาราวกับถูกใจในคำตอบ
"พระเจ้า!! ไม่จริงน่า!!"
เขาลุกขึ้นพร้อมกับยกมือขึ้นมากุมหัวราวกับคนที่เสียสติ
"นี่มันบ้าไปแล้วบ้าชัดๆ!!"
"...ในตอนที่ข้าลืมตาขึ้นมาครั้งแรกข้าก็คิดเช่นนั้น มันไม่มีทางเป็นไปแต่...แต่ทว่ามันเป็นไปแล้ว ข้าหายใจ และใช้ชีวิตอยู่ในร่างนี้จริงๆ"
"ข้าคิดว่าข้าคงจะดื่มมากไป หรือว่าในเหล้านี่ผสมยาหลอนประสาทอะไรเอาไว้รึเปล่าวะ!!"
"เพี๊ยะ!!"
เธอฟาดฝ่ามือไปที่หน้าของเขาอย่างแรง เพื่อเรียกสติของกาเลนกลับมา เขายกมือขึ้นมาลูบแก้มที่ถูกตีเบาๆเพราะว่าเขารู้สึกเจ็บเป็นอย่างมาก แสดงว่านี่คือความจริงงั้นเรอะ!!
"...ข้าอยู่ในร่างนี้ ใช้ชีวิตในนามของท่านหญิงที่ทรงอำนาจและเป็นที่รัก แต่ข้ารู้สึกได้เลยว่ามันไร้อิสระกาเลน ข้าสามารถตายได้ทุกเวลาที่อีสเซโกรธหรือว่าไม่พอใจ เขามิได้บังคับแต่บางครั้งเป็นข้าที่ต้องคอยเอาอกเอาใจเขาเพื่อให้ตัวเองได้อยู่รอด เพื่อพึ่งพาอำนาจของเขา..."
"เขาก็ดูรักเจ้าดีนี่ แววตาขององค์จักรพรรดิเป็นตัวบ่งบอกได้ดีว่าเขารักเจ้ามากแค่ไหน"
ดาฟเน่ส่ายหน้าเบาๆ
"เขารักดาฟเน่คนเก่าต่างหาก ไม่ใช่ข้า.."
กาเลนยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม ถึงแม้ว่าจะไม่อยากยอมรับเท่าไหร่และลักษณะการพูดและท่าทางของดาฟเน่ในตอนนี้มันคือเวด้าชัดๆ
"ไม่หรอกนะ ตอนนี้เจ้าคือดาฟเน่ เป็นดาฟเน่คนเดียวทั้งตอนนี้และตอนไป เขามองมาที่เจ้าก็คือว่าเขารักเจ้านั่นแหละ!"
เธอเงยหน้าขึ้นมามองหน้ากาเลน หัวใจพลันอบอุ่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกกับคำพูดของเขา คิดไม่ผิดจริงๆที่วันนี้เธอยอมเสี่ยงมาพูดกับเขา
"แล้วกับนักบุญหญิง เจ้ายังรักนางอยู่งั้นหรือ?"
"...ตลอดไป"
เรื่องราวความรักของกาเลนคือชนวนความขัดแย้งของเขาและพ่อเลยก็ว่าได้ กาเลนในวัยสิบหกตกหลุมรักนักบุญแอนที่แสนจะอ่อนโยน เขาจึงเข้าไปสารภาพรักกับนาง ที่น่ายินดีคือนางเองก็รักเขาเช่นกัน ทั้งสองคบหาและอยู่ด้วยกันได้ราวปีเศษ พ่อก็มารับกาเลนกลับคฤหาสน์เบอริฮานเพื่อไปเรียนรู้การขึ้นเป็นผู้นำตระกูล เขาในตอนนั้นยังเด็กและไร้ความสามารถที่จะขัดขวางพ่อผู้ทรงอำนาจของเขาได้ จึงจำยอมกลับมาที่เบอริฮานเพื่อเรียนรู้ในเรื่องต่างๆ
นักบุญหญิงแอนถูกบังคับให้แต่งงานกับบารอนผู้หนึ่ง และนั่นคือฝีมือพ่อของเขาที่ทำลงไปเพื่อให้กาเลนตัดใจจากนาง
ในใจเขาเจ็บปวดและเคียดแค้นเป็นอย่างมาก เขาจึงตั้งใจศึกษาเล่าเรียนอย่างหนัก และจ้างเวด้ามาเข้าเรียกแทนในบางวิชาเพื่อที่จะจบหลักสูตรการเป็นผู้นำตระกูลโดยไวที่สุด สิ่งแรกที่กาเลนกระทำหลังจากที่เขาขึ้นเป็นผู้นำตระกูลก็คือไปตามหานักบุญหญิงแอน แต่ทว่าเวลาห้าปีมันนานเกินไป นางหย่ากับบารอนผู้นั้นแล้วมาแต่งงานกับชาวไร่ผู้หนึ่ง ทั้งสองคนใช้ชีวิตเรียบง่ายพร้อมกับลูกสาวที่น่ารักผู้หนึ่งในแถบชนบท..
นั่นคือเหตุผลที่กาเลนทำตัวเป็นเศษสวะเช่นนี้ อาจจะเป็นเพราะว่าเขากำลังประชดชีวิตตัวเองและแก้แค้นพ่อของเขา
"ชอบเขางั้นหรือ? องค์จักรพรรดิน่ะ"
"ไม่รู้สิ เวลาอยู่กับเขามันมีทั้งความสุขและความเศร้าขัดแย้งกันเต็มไปหมด"
"แล้วเจ้าจะเอายังไงต่อไป"
"ที่ตระกูลจาเมลที่บางอย่างที่ไม่ปกติ นักเวทผู้หนึ่งล้มป่วยเพราะพลังเวทไหลย้อนกลับ ซึ่งเวลาที่เขาล้มป่วยก็คือหลังจากวันที่ข้าตายหนึ่งวัน และตอนนี้ทุกคนในตระกูลกำลังล้มป่วยตามๆกันไป ข้ารู้ว่ามันดูงี่เง่าแต่ข้าก็อยากจะลองสืบดูว่าที่เขาล้มป่วยมันเกี่ยวข้องกับที่ข้ามาอยู่ในร่างนี้รึเปล่า?"
"ข้าจะช่วยเจ้าเอง! ในตอนที่เจ้าถูกใส่ร้าย ข้าทำอะไรไม่ได้สักอย่างทั้งที่ข้าขึ้นเป็นผู้นำตระกูลแล้ว มันโชคดีที่เจ้ามานั่งอยู่ต่อหน้าข้าอีกครั้ง ต่อให้เจ้าจะไม่ใช่เวด้าคนเดิมแต่ข้าก็ยินดีจะปกป้องเจ้า"
เธอส่งยิ้มให้กาเลนอย่างขอบคุณ หัวใจพลันรู้สึกมีความสุขอย่างไม่เคยมีมากก่อนตั้งแต่เธอมาอยู่ในร่างดาฟเน่ มันราวกับว่าเธอได้แบ่งเบาเรื่องที่อึดอัดใจในให้กาเลนรับรู้ คำกล่าวที่จริงใจไร้คำหวานของเขามันทำให้เธอรู้สึกดีมากจริงๆ
"กาเลน ในตอนนี้เจ้านั้นมีทุกอย่างในมือ ทั้งเงินทอง อำนาจ หรือแม้แต่บริวาร เหตุใดถึงยังทำตัวประท้วงพ่อเจ้าเป็นเด็กๆอยู่อีก ลุกขึ้นมาสู้สิเพื่อนรัก เจ้าควรจะเอาความสำเร็จและความยิ่งใหญ่ที่เจ้านำพาเบอริฮานไปไกลกว่าเขามาตอกหน้าเขาสิถึงจะถูก ถึงแม้ตอนนี้พ่อเจ้าจะไม่ได้เป็นผู้นำตระกูลแล้ว แต่เขาคือหัวหน้าสภาอาวุโส..."
กาเลนมองหน้าดาฟเน่ก่อนที่เขาจะส่งยิ้มให้เธอ
"ที่ผ่านมาอาจจะเป็นเพราะว่าข้าไม่เหลือใครให้ปกป้องแล้ว แต่ตอนนี้ข้ามีเจ้า ตำแหน่งสภาอาวุโสอะไรนั่น ข้าจะแย่งมาเองและไปนั่งแทนที่ของเขา จนเขาเป็นเพียงแค่ชายชราที่ไร้พิษสงผู้หนึ่ง"
นี่สิ ถึงจะสมกับเป็นกาเลนที่เธอรู้จัก
"อีกอย่าง ความเจ็บปวดจากความรักที่อยู่ในใจน่ะปล่อยมันออกไปบ้างได้แล้ว เจ้าควรจะได้พบเจ้าสตรีดีๆและเพียบพร้อม กาเลนข้าอยากจะเห็นเจ้ามีความสุขกับความรักอีกครั้งนะ"
"ที่จริงการที่สามารถโอบกอดสตรีที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละคืนก็ไม่แย่ เพราะข้าจะต้องใช้เวลาลุ้นไปกับลีลาและท่าทางของสตรีแต่ละนางว่าผู้ใดจะถูกใจข้ามากที่สุด...ข้าจะช่วยเจ้า แต่ก็ไม่คิดจะละทิ้งสตรีมากมายที่ข้าเลี้ยงดูเอาไว้หรอกนะ ข้าไม่คิดจะแต่งงานดาฟเน่ ความรักมันเจ็บปวดจนหัวใจข้ามิอาจเปิดรับใครได้แล้ว"
เธอเข้าใจเขานะ เพราะเขาคาดหวังเอาไว้เป็นอย่างมากว่านักบุญหญิงแอนจะรอเขา แต่เธอก็เข้าใจนักบุญหญิงแอนเช่นกันเพราะกาเลนไม่เคยส่งจดหมายไปหานางสักฉบับ ใครมันจะไปรอวะ!!
"แล้วกับลอร์ดมาเดลีนล่ะ เขาคือสามีตามกฎหมายของเจ้านี่!"
เธอยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆ
"กับลาร์ซ ข้าจะหย่ากับเขาปีหน้า ไม่มีความรักหรือว่าความรู้สึกใดๆอยู่แน่นอน "
"มีข่าวลือว่าความสัมพันธ์ระหว่างดาฟเน่และลอร์ดมาเดลีนซับซ้อนมาก ข้าเคยอ่านเจอนะว่าทั้งคู่ตกหลุมรักกันและกันตั้งแต่แรกพบ แต่ความรักที่แสนจะโรแมนติกของคนทั้งคู่ถูกขัดขวางด้วยฝีมือขององค์จักรพรรดิ.."
ดาฟเน่ตกใจเล็กน้อย เธอวางแก้วเหล้าลงบนโต๊ะ
"ข้าไม่เห็นรู้เรื่องเลย"
"เจ้าในตอนนั้นเคยอ่านหนังสือพิมพ์ซะที่ไหน วันๆอยู่แต่กับกระบอกปืน!!"
"...แต่ท่าทางของลาร์ซที่มีต่อข้า เขาไม่น่าจะรักดาฟเน่นะ เขาดูเกลียดนางมากกว่า"
"ดูสิ่งที่ดาฟเน่กระทำด้วย สตรีที่เป็นชู้กับน้องชายตัวเองใครจะไปรักนางลง!!"
อย่าบอกนะว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นฝีมือของอีสเซ รวมทั้งที่ดาฟเน่เป็นชู้กับลูอีส?