ลูอีสถือวิสาสะกุมมือของเธอเอาไว้อย่างรวดเร็ว เขาจูงมือเธอเดินเข้ามาในงานพร้อมกับจับมือของเธอมาคล้องแขนเขาเอาไว้
ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาส่งยิ้มให้เธออย่างยินดี ตรงข้ามกับดาฟเน่ที่ขมวดคิ้วมองหน้าเขา
"...ลูอีส ไม่สิ เคาน์มาริติน ท่านพึ่งได้เลื่อนยศและในงานนี้คืองานเลี้ยงฉลองของท่าน มีสตรีมากมายที่ดี กว่าข้าเยอะแยะ"
"ข้าไม่สนใจอยู่แล้ว ดาฟเน่ ข้าบอกท่านไปแล้วก่อนที่ข้าจะจากไปว่าท่านคือรักแรกและรักเดียวในชีวิตข้า ที่ข้ากลับมาที่นี่ก็เพราะว่าข้า อยากมาหาท่าน... จริงอยู่ที่ในเมื่อก่อนข้าเป็นเด็กและท่านอาจจะมองว่าชีวิตที่จะใช้ร่วมกับข้ามันไม่มีทางร่ำรวยและประสบความสำเร็จ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้นแล้วนะ ข้าคือเคาน์ที่เป็นผู้นำตระกูล ถึงข้าจะยังยิ่งใหญ่ไม่เท่ามาเดลีนหรือว่าเมอลิน แต่ข้าสัญญานะ ว่าข้าจะดูแลท่านให้ดีที่สุด และจะนำพามาริตินให้เติบโตขึ้นมาอย่างแน่นอน"
เธอเห็นนะ..เห็นความตั้งใจอันแรงกล้าในสายตาของเขา
"..ข้าขอเพียงโอกาสเท่านั้น เพียงโอกาสจากท่าน"
"ด้วยอายุและอะไรหลายๆอย่างของข้า มันเกินเลยการมีความรักมามากเหลือเกิน ข้าไม่พร้อมจะเปิดรับใครเข้ามา...."
"ไม่เป็นไรครับ เพราะข้าจะรอท่านเอง จนกว่าที่ท่านจะพร้อมเปิดรับข้าเข้าไป"
เขาจูงมือเธอมาที่ฟอล์อเต้นรำ ก่อนจะก้มหน้าลงเพื่อคำนับกันและกันและเริ่มเต้นรำกันช้าๆ เขามองมาที่เธอราวกับว่าที่แห่งนี้มีเพียงแค่เรา ดวงตาของเขานั้นใสซื่ออีกทั้งยังดูไร้พิษสง
ความรักจากเขาคือความรักที่บริสุทธิ์และสวยงามมากจริงๆ ถึงแม้ว่าจะเริ่มต้นมาจากความผิด แต่เขาก็พิสูจน์ให้เห็นว่าเขามั่นคงกับความรักครั้งนี้แค่ไหน
ถึงเธอจะรู้สึกเอ็นดูแต่เธอไม่อยากทำลายชีวิตที่กำลังรุ่งโรจน์ของเขา...ลูอีสควรจะได้พบเจอสตรีที่ดีพร้อมและเหมาะสมเพื่อไปเป็นเคาน์เตสของเขา มากกว่าสตรีที่ชื่อเสียงไม่ดีเช่นเธอ
ควรจะต้องปฏิเสธและปล่อยเขาไป
อีสเซยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม วันนี้เขาไม่อยากดื่มไวน์เพราะอยากดื่มอะไรที่แรงกว่านั้น สายตาของเขามองไปที่ฟอล์อเต้นรำ จับจ้องไปที่ใบหน้างดงามของดาฟเน่ วันนี้เธอสวมชุดสีชมพูดูสวยหวานและงดงามสะกดสายตา
เขาเองก็พึ่งกลับมาจากชายแดน พึ่งจะจัดการเรื่องสงครามจบลง ความห่างเหินมันเริ่มชัดเจนในความสัมพันธ์ของเรา อาจจะเป็นเพราะระยะทางหรือว่าอะไรสักอย่างที่มาขั้นกลาง แต่ทว่าเขาก็ไม่ได้รับรายงานว่าเธอไปคบใครที่ไหนเลย มีเพียงแกรนด์ดยุคเบอริฮานเท่านั้น
ซึ่งหมอนั่นเป็นสหายแน่นอนเพราะเขาตามสืบมานาน แกรนด์ดยุคยังคงควงสตรีอื่นไปพบดาฟเน่ และในบางครั้งเขาก็ยังทิ้งเธอเอาไว้และไปกับสตรีที่เขาพบพึ่งพบเจอ
คนที่เขาหวาดกลัวที่สุดก็จบลงไปแล้ว เธอหย่ากับลอร์ดมาเดลีนเรียบร้อย เพราะฉะนั้นในตอนนี้หัวใจของดาฟเน่ดูจะว่าง ไม่มีใครอยู่ในนั้นรวมทั้งเขาด้วย...
ทำยังไงดีนะ ต้องทำยังไงที่จะสามารถแสดงความเป็นเจ้าของเธอได้อย่างเต็มที่ บุรุษพวกนี้จะได้ไม่มายุ่งกับเธออีก!!
"เหตุใดวันนี้ถึงดื่มเหล้าล่ะครับเสด็จพี่"
อีสเซมองหน้าเอ็ดวินน้องชายต่างมารดาของเขาที่เกิดจากสนมเช่นกัน เอ็ดวินถูกส่งไปอยู่ที่ชายแดนตั้งแต่เด็ก เราทั้งสองไปพบเจอกันที่ชายแดน
"มองพี่ดาฟเน่อยู่หรือครับ ความรักของเสด็จพี่นี่น่านับถือจริงๆนะ กาลเวลามิอาจทำอะไรความมั่นคงของท่านได้เลย"
"....เป็นเช่นนั้นเอ็ดวิน และตอนนี้พี่กำลังปวดใจเพราะบุรุษมากมายพวกนั้นกำลังมายุ่มย่ามกับนาง"
"เหตุใดถึงต้องวิตกกังวล พี่ดาฟเน่เป็นจักรพรรดินีไม่ได้ก็จริงแต่เป็นสนมได้นี่ และหากนางคลอดองค์ชายออกมา เสด็จพี่ก็สามารถเลื่อนยศของนางให้เป็นจักรพรรดินีได้เลย!!"
รอยยิ้มปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของอีสเซ ใช่แล้ว! แค่ให้เธอเป็นสนมก็จบแล้ว คราวนี้เขาจะได้โอบกอดเธอทั้งวันทั้งคืนอีกทั้งจะไม่มีบุรุษใดที่กล้ามายุ่งกับนางอีก!
ดาฟเน่ก้มหน้าลงให้ลูอีสพอเป็นพิธี เธอเลือกจะเดินออกมาอย่างรวดเร็ว เพราะมีบุรุษกำลังเดินเข้ามาหาเธอราวกับว่าพวกเขาจะชวนเธอเต้นรำ
เธอเต้นรำแย่จะตายยังจะมาชวนเธอเต้นอีก!!
"เจ้าไม่เห็นสายตาขององค์จักรพรรดิรึไง เขามองมาที่เจ้าตอนที่เจ้าเต้นรำกับเคาน์มาริตินราวกับจะแผดเผาเจ้าทั้งเป็น!"
กาเลนกล่าวพร้อมกับส่งแก้วไวน์ให้ดาฟเน่
"น่าแปลกที่วันนี้ข้างกายของเจ้าไร้สตรี?"
"น่าแปลกเช่นกันที่สตรีในค่ำคืนนี้ต่างก็เป็นสตรีที่ข้าเคยมีค่ำคืนที่งดงามด้วยแล้ว เจ้าก็รู้ว่าข้าไม่ชอบกินอาหารจานเดิม"
"ดวงชะตาของสตรีเมืองนี้ช่างน่าเห็นใจจริงๆ"
เธอส่ายหน้าเบาๆพร้อมกับยกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่ม
"สายัณห์สวัสดิ์ครับท่านหญิงเมอลิน"
ดาฟเน่หันไปมองก็พบเจอใบหน้าที่ดูสุภาพและอ่อนโยนของไวท์เคาน์ฟินตั้น เขาคือคนที่ช่วยพาดาฟเน่กลับมาที่มาเดลีนในตอนที่เธอเข้ามาในร่างดาฟเน่
"สายัณห์สวัสดิ์ค่ะ พึ่งมีโอกาสได้พบกันนะคะท่านไวท์เคาน์ ข้าอยากจะขอบคุณท่านมานานแสนนาน"
"ข้ามิชอบงานเช่นนี้สักเท่าไหร่...เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นเลี้ยงน้ำชาข้าสักมื้อได้ไหมครับ"
เธอส่งยิ้มให้เขาพอเป็นมารยาท
"ด้วยความยินดีค่ะ ข้าจะส่งจดหมายนัดไปที่คฤหาสน์ฟินตั้นเอง"
เขาส่งยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยนก่อนจะปลีกตัวออกไป
"อิจฉาแฮะ ข้าก็อยากให้สตรีเข้าหาข้าเช่นนี้บ้าง!"
"เจ้าเป็นบุรุษกาเลน มารยาทของสตรีชนชั้นสูงข้อแรกคือห้ามเข้าหาบุรุษก่อน นับคือการกระทำที่เสียเกียรติอย่างยิ่งสำหรับสตรี"
"...ข้าจะไปรู้ได้ยังไง อย่าลืมสิว่าวิชานี้ข้าเป็นคนจ้างเจ้าไปสอบแทน!"
ดาฟเน่ส่ายหน้าเบาๆ
"เรื่องเบซิลเป็นอย่างไรบ้าง เขาไปฝึกกับทหารที่เบอริฮานสองเดือนแล้ว ส่งตัวเขากลับมาให้ข้าสักที!"
"เด็กคนนั้นมีความสามารถมากทีเดียว สอนเพียงครั้งเดียวก็จดจำได้ทั้งหมด อีกทั้งยังว่านอนสอนง่าย เจ้าไปซื้อเขามาจากไหนกัน?"
"เอาไว้ว่างๆข้าจะพาเจ้าไป ฝากดูแลเขาด้วย หากเขาถูกรังแกข้าจะไปเผาคฤหาสน์เบอริฮานซะ!!"
กาเลนหรี่ตามองดาฟเน่
"แปลกๆแฮะ ความห่วงใยที่เกินพอดีนี้ อย่าบอกนะว่าเจ้าจะเลี้ยงเขาเอาไว้เป็นชายบำเรอ!! อ่า สุดยอดเลยดาฟเน่!! สมกับเป็นเพื่อนข้าจริงๆเช่นนั้นข้าควรจะสอนหลักสูตรที่ข้าถนัดที่สุดให้เขาด้วย นั่นก็คือการปรนเปรอสตรียามที่อยู่บนเตียง..."
"คุยกันท่าทางสนุกสนานดีนะ ข้าขอร่วมวงด้วยได้รึเปล่า?"
อีสเซเดินเข้ามาด้านหลังดาฟเน่ เขาใช้มือโอบเอวของเธอเอาไว้หลวมๆ
"แน่นอนฝ่าบาท พระองค์สามารถชนะสงครามได้ในเวลาเพียงหนึ่งปี ทรงพระปรีชาสามารถมากเลยนะครับ"
"...ข้าต้องการทำให้มันจบไวที่สุด เพราะดอกไม้ที่แสนงดงามของข้าอยู่ที่เมืองหลวงแห่งนี้ และแน่นอนมันชอบจะมีแมลงมากมายมาดมดอมตลอด นั่นสร้างความลำคานใจแก่ข้ายิ่งนัก..."
...ด่าข้ารึเปล่าฟะ!! แต่ข้ากับดาฟเน่เป็นสหายกันนะเว้ย!!
"บางทีดอกไม้ที่งดงามของฝ่าบาทอาจจะเหี่ยวแห้งไปแล้วก็ได้นะครับ มิมีสิ่งใดที่คงอยู่ตลอดไป ทุกอย่างแปรผันตามวันและเวลาๆ ความรู้สึกในใจก็เช่นกัน"
อีสเซยกยิ้ม เขาก้มหน้าลงสูดดมกลิ่นกายของดาฟเน่เบาๆ
"คนที่ยังฝังใจกับความรักครั้งเก่าเช่นแกรนด์ดยุค ไม่น่ามีสิทธิ์มาแนะนำข้านะ หากเวลาสามารถเยียวยาจิตใจได้จริง เจ้าก็ควรจะเปิดรับความรักใครใหม่สิ..."
กาเลนมองไปที่อีสเซด้วยสายตาที่แสดงออกชัดเจนว่าเขาไม่พอใจ
"อย่าคิดว่าตำแหน่งสูงกว่าแล้วจะพูดอะไรก็ได้นะครับ ข้าอาจจะต่อยท่านสักหมัดแลกกับการนอนคุกสักเดือนก็ได้..."
อีสเซหัวเราะร่า
ดาฟเน่รู้สึกถึงความกดดันมหาศาลจากทั้งสองคน เธอยังมิได้หันไปสบตากับอีสเซเลย นั่นอาจจะเป็นเพราะว่าเธอกำลังหวาดกลัว หัวใจตัวเอง
เธอกลัวว่าหากตัวเองหันกลับไปมองเขาเธอจะต้องกลับไปรักเขาอีก...แต่ตอนนี้ทั้งสองคนกำลังจะทะเลาะกัน และเธอไม่อาจปล่อยให้มันเป็นเช่นนั้นได้!!
เธอหมุนตัวไปหาอีสเซพร้อมทั้งส่งยิ้มที่เธอบรรจงปั้นแต่งมันขึ้นมาให้งดงามที่สุด มอบให้เขา เธอยกมือขึ้นมาจัดปกเสื้อให้เขาเล็กน้อย
"...คิดถึงจังเลยค่ะ"
สายตาของอีสเซนั้นดูตกใจกับคำกล่าวของเธอ เขาลืมไปด้วยซ้ำว่าจะพูดอะไรต่อไป รอยยิ้มที่งดงามที่เขาคิดถึง ดวงตาที่มองเขาอย่างเย้ายวนที่เขาโหยหา นี่คือดาฟเน่ที่เขารักหมดหัวใจแน่นอน..
"คืนนี้..อยู่กับข้าได้ไหม?"
"นั่นคือคำถามหรือว่าเป็นการบังคับคะ?"
"เป็นคำขอร้องต่างหาก คำขอร้องที่น่าสงสารของข้า"
ดาฟเน่หัวเราะเบาๆเธอยกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่มแก้เขิน
"เพล้ง!!!"
แก้วไวน์ในมือของดาฟเน่ตกลงที่พื้น มือของเธอมันไร้เรี่ยวแรงที่จะถือแก้วต่อไป ขาทั้งสองข้างมันล้มลงดีที่อีสเซรับเธอเอาไว้ทัน ดวงตาทั้งสองข้างเบิกกว้างอย่างตกใจ!!
เบื้องหน้าของเธอคือลอร์ดมาเดลีนอดีตสามี เขาควงคู่มากับสตรีใบหน้าหมดจดผู้หนึ่ง สตรีผู้นั้นส่งยิ้มให้เธออย่างไร้เดียงสา
กาเลนเห็นสหายแทบจะล้มทั้งยืนก็ตกใจ เขามองไปยังทางที่ดาฟเน่มอง...ลอร์ดมาเดลีนกำลังเดินมาหาดาฟเน่ และสตรีที่เขาควงมา..
พระเจ้า!! สตรีที่เขาควงมาคือเวด้า!!!