เนื่องจากความสัมพันธ์ที่มาเดลีนมันน่าปวดหัวเกินไปทำให้ดาฟเน่เลือกที่จะออกมาก่อน เธอกำลังนั่งรถม้าไปที่เมอลิน พร้อมกับไอลา
คฤหาสน์สีทองอร่ามถูกตกแต่งอย่างหรูหรา นี่คือบ้านของดาฟเน่ เธอคือบุตรีคนเดียวของน้องสาวจักรพรรดินี ทุกคนที่เมอลินตายในสงคราม องค์จักรพรรดิองค์ก่อนจึงได้ดูแลดาฟเน่เป็นอย่างดี เธอเติบโตขึ้นมาพร้อมกับอิสเซ เมื่อก่อนเขาเป็นเพียงองค์ชายที่เกิดจากสนมผู้หนึ่ง แต่องค์จักรพรรดินีไม่มีบุตร ทำให้เกิดข่าวลือว่าพระนางเป็นหมัน แต่ความจริงมันคือองค์จักรพรรดินีและองค์จักรพรรดิมีความขัดแย้งที่รุนแรงต่อกัน
อิสเซก็เลยได้ขึ้นเป็นองค์รัชทายาท ส่วนเธอถูกส่งไปแต่งงานกับลาร์ซเพราะเขาสามารถนำชัยชนะมาให้ราชอาณาจักรบาทีเรี่ยนได้ เขาถือเป็นวีรบุรุษแห่งสงคราม
ดาฟเน่ที่ถูกตามใจมาตลอดกลับถูกบังคับให้ไปแต่งงานกับลอร์ดที่ต่ำต้อยเช่นลาร์ซในใจพลันรู้สึกรังเกียจและน้อยใจไปตามๆกัน และการกระทำทุกอย่างของเธอมันคือการต่อต้านลาร์ซ
ที่ราชอาณาจักรบาทีเรี่ยนมีกฎหมายการหย่าของชนชั้นสูง จะหย่ากันได้ก็ต่อเมื่ออยู่ด้วยกันห้าปี เธอกับลาร์ซแต่งงานมาได้สี่ปีแล้ว อีกเพียงปีเดียวก็จะสามารถหย่ากับเขาได้ ระหว่างนี้เธอก็แค่อยู่ที่นี่ไปก่อนเท่านั้นเอง!!
"องค์จักรพรรดิเชิญท่านหญิงไปที่พระราชวังค่ะ ท่านควรจะรีบแต่งตัว..."
ดาฟเน่ถอนหายใจพร้อมกับล้มตัวนอนบนโซฟา มันไม่สบายอย่างที่คิดเอาไว้สินะ เพราะดาฟเน่คือสตรีที่สร้างเรื่องเอาไว้เยอะพอสมควร ความสัมพันธ์ที่มันยุ่งเหยิงและมั่วซั่วพวกนี้ จะเอายังไงดี
ไปลองดูก่อนก็แล้วกันว่าระหว่างเธอและองค์จักรพรรดิ ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนไปในทางไหนกันแน่ จะได้ตั้งรับถูก
"นี่เป็นเอกสารทรัพย์สินทั้งหมดที่องค์จักรพรรดิส่งมาให้ครับ ท่านหญิงกรุณาลงนามตรงนี้ด้วย"
พ่อบ้านส่งกระดาษมาให้เธอพร้อมกับตราประทับ เงินและทองมากมายกว่าที่เวด้าจะหามาได้ทั้งชีวิต ถูกส่งมาให้ง่ายๆเพียงเพราะเสน่ห์หางั้นรึ
นี่เป็นเหตุผลที่องค์จักรพรรดิไม่คิดไต่สวนคนที่เป็นศัตรูกับดาฟเน่สินะ...
ท่าทางจะเกิดคำว่ารักไปไกลพอสมควร องค์จักรพรรดิอิสเซจึงมิยอมอภิเษกกับสตรีใดเลยแม้แต่คนเดียว...
วันนี้เธอรวบผมเอาไว้ด้านหลังอย่างสง่างามและเรียบร้อย ชุดที่สวมก็เป็นผ้าไหมชั้นดีและมิดชิด ข้ารับใช้ในพระราชวังแทบจะก้มหน้าลงติดพื้นเมื่อเห็นดาฟเน่เดินผ่าน
"ท่านหญิงเข้าได้ด้านในเถอะค่ะ"
เราเดินมาถึงคฤหาสน์ด้านหลังที่มีสีทองอร่ามคล้ายกับเมอลินอยู่หลายส่วน มีดอกกุหลาบสีแดงปลูกเอาไว้มากมายที่ด้านหน้าของคฤหาสน์ มันงดงามยากจะละสายตา กุหลาบสีแดงเบ่งบานออกมาท่ามกลางวันที่ฝนตกปรอยๆ ตามคำกล่าวขอไอลาที่ยืนรออยู่หน้าประตูนั่นก็เพียงพอแล้วว่าการพบกันระหว่างเธอและองค์จักรพรรดิมันค่อนข้างส่วนตัวมากทีเดียว
หลบหนีมิได้ มีแต่จะต้องเข้าไปเท่านั้นจึงจะรู้ว่าข้างในมีอะไรรอเธออยู่
ประตูสีทองบานใหญ่เปิดออก เธอเดินเข้าไปด้านในด้วยความรู้สึกหวั่นใจ
"ดาฟ ข้ารอเจ้าอยู่นานเลย ได้ข่าวว่าเจ้าถูกลอบทำร้ายอีกแล้ว! ให้ตายเถอะ!!"
ชายผู้นั้นเดินเข้ามาหาเธอพร้อมกับจับจูงมือเธอไปนั่งบนโซฟาเคียงข้างเขา มือที่เย็นเฉียบถูกยกขึ้นมากุมหน้าเธอเอาไว้ เขามองเธอด้วยแววตาที่หลงใหล มุมปากของเขายกยิ้มที่มาอย่างดีใจ
"โชคดีที่เจ้าปลอดภัย โชคดีจริงๆ...."
"ขออภัยเพคะ คือศีรษะของหม่อมฉันถูกกระทบกระเทือน ทำให้จดจำเรื่องต่างๆมิได้..รวมไปถึงเรื่องของพระองค์"
ฉับพลันแววตาของอิสเซแปรเปลี่ยนไปเป็นแววตาที่โกรธเคือง เขาปล่อยมือออกจากใบหน้าของเธอพร้อมกับเอนหลังนอนลงบนโซฟา
"ข้าควรจะฆ่าเขาซะ! ลอร์ดมาเดลีน!!"
บรรยากาศรอบๆข้างนั้นเยือกเย็นขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ จากชายที่แสนจะอ่อนโยนเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นชายที่ดูน่ากลัวจนเธอเองยังต้องหวั่นใจ
"...ขั้นแรกข้าควรจะแก้กฎหมายเสียก่อน ให้เจ้าหย่ากับเขาและมาแต่งงานกับข้าแทน ดาฟที่รักเราจะได้อยู่ด้วยกัน"
เขาเด้งตัวลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว อิสเซนั่งคุกเข่าลงที่พื้นพร้อมทั้งซบหน้าลงมาที่ตักของเธอราวกับว่าเขาเป็นเด็กที่ต้องการไออุ่นจากตักมารดา
"พระองค์ ช่วยอธิบายให้หม่อมฉันฟังได้ไหมคะ ว่าเรื่องราวของเรามัน...เริ่มจากตรงไหน? ขออภัยที่ต้องกล่าวตามตรงแต่หม่อมฉันไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับพระองค์เลย"
ชั่วขณะหนึ่งเธอเห็นว่ามุมปากของอิสเซยิ้ม แต่ไม่นานมันก็กลับมาเศร้าเช่นเดิม
ดาฟเน่คิดว่าชายผู้นี้ช่างน่ากลัวและเข้าถึงยากมากทีเดียว เขามีหลายบุคลิคในเวลาเดียวกัน...ซึ่งมันคลับคล้ายคลับคลาว่ามันคืออาการป่วยอย่างหนึ่ง
ในตอนที่เขามองมาที่เธอมันจะมีความหลงใหลมากมายในสายตานั้นแต่ตอนที่สายตาเขาเปลี่ยนไปหรือแม้ว่าตอนที่เขาโกรธเขาจะไม่มองหน้าเธอ
"ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรเลยดาฟ ขั้นแรกเจ้าเรียกชื่อข้าเฉยๆก็พอ อิสเซ เรียกชื่อข้า ระหว่างเราไม่มียศถาบรรดาศักดิ์ใดๆ มีเพียงแค่บุรุษและสตรีที่รักกันเท่านั้นเอง อย่ากล่าวคำห่างเหินเช่นนั้นกับข้าอีกเลยนะ"
เขายกขาของเธอขึ้นมาวางพาดบนบ่าของเขา ก่อนจะใช้มือถอดรองเท้าของเธอออกมา อิสเซพรมจูบตั้งแต่ปลายเท้าไล่ลงมาเรื่อยๆจนถึงกางเกงซับในตัวบางของเธอ ดาฟเน่รีบยกมือขึ้นมาปิดกระโปรงเอาไว้อย่างรวดเร็ว
"ให้ข้าสัมผัสเจ้าหน่อยเถิด ช่วงเวลาที่มิได้เจอกันช่างทรมาน..ข้ามีได้ปลดปล่อยกับสตรีอื่นตามคำสั่งของเจ้า ข้าอดทนเพื่อรอเจ้ามาเติมเต็มความต้องการของข้า..."
ใบหน้าที่หล่อเหลาของอิสเซมันฉายแววเจ็บปวด นัยน์ตาที่แสนเศร้านั้นจ้องมองมาที่เธออย่างอ้อนวอน เจ้าจับมือของเธอให้มากุมที่ตัวตนที่ตื่นขึ้นมาภายในกางเกงอย่างร้องขอ
"เห็นไหมว่ามันตื่นแล้ว ดาฟข้าทรมาน..."
หัวใจของเธอกำลังเต้นแรงถึงแม้ว่าดาฟเน่จะผ่านบุรุษมานับไม่ถ้วนแต่ว่าเวด้าไม่เคยทำเรื่องอย่าว่ามาก่อน และเธอจะไม่ทำเรื่องเช่นนี้กับองค์จักรพรรดิเด็ดขาด!!
"ข้า ต้องการเวลาค่ะ อิสเซบางทีท่านควรจะให้เวลาข้าในการจดจำเรื่องราวของเรา"
"...ได้สิ เช่นนั้นใช้ปากทำให้ได้ไหม?"
ปาก? ให้ตายเถอะ!! ไอ้หมอนี่!!
"ดาฟได้โปรดเถอะนะ เพียงแค่เห็นเจ้ามันก็ตื่นตัวขึ้นมาไม่หยุดเลย..."
"ข้าบอกท่านไปแล้วว่าข้าจะอะไรไม่ได้ และนั่นมันหมายถึงการที่ข้าจะทำเรื่องอย่างว่าไม่เป็นด้วย!!"
นัยน์ตาของอิสเซนั้นรื้นไปด้วยน้ำตา เขาก้มหน้าลงซบที่ตักของเธอพร้อมกับสะอื้นเบาๆ
"....ไม่รักข้าแล้วงั้นเหรอ? ดาฟ..เจ้าเคยรักข้าที่สุดนี่นา"
เธอยกมือขึ้นมานวดขมับเบาๆ นี่เธอกำลังรับมือกับเด็กสามขวบอยู่หรืออย่างไรกัน
เขาเงยหน้าขึ้นมามองเธอพร้อมกับลุกขึ้นยืน อิสเซถอดกางเกงออกพร้อมกับจับไหล่ของเธอเอาไว้
"อ้าปากสิดาฟ ค่อยๆใช้ลิ้นของเจ้าเล่นกับมัน..."
เธอเอียงหน้าหลบพร้อมกับยกมือขึ้นมาจับตัวตนของเขาเอาไว้อย่างรวดเร็วเพราะมันกำลังจะโดนริมฝีปากของเธอ
"...อ่า บางทีใช้มือก็ไม่เลวเท่าไหร่"
.......
ดาฟเน่กำลังนั่งอยู่ในรถม้าขากลับ เธอใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดที่มืออย่างแรงจนมันเป็นสีแดง
"ท่านหญิงคะ..."
ไอลายกมือขึ้นมาจับมือของเธอเอาไว้ราวกับว่านางกำลังห้ามปราม
"มือของท่านหญิงมิได้สกปรกอะไร ไม่ต้องเช็ดแล้วค่ะ เดี๋ยวจะเป็นแผลเอาได้..."
ดาฟเน่หลับตาลง ด้านนอกรถม้าฝนกำลังตกลงมาอย่างหนัก เธอหลับตาเพื่อฟังเสียงฝนที่กระทบหลังคารถม้า นี่เป็นการผ่อนคลายอย่างหนึ่ง
กับเหตุการณ์ที่พึ่งผ่านมานี้เธอไม่รู้จะโทษใครจริงๆ ในสายตาของอิสเซดาฟเน่คือสตรีที่เขารัก การที่เขาจะกระทำเรื่องอย่างว่ากับดาฟเน่มันก็ไม่ผิด...
ผิดสิโว้ย!! ดาฟเน่มีสามีแล้ว!!
ความเสน่หาขององค์จักรพรรดิหาใช่เรื่องที่เธอจะหนีพ้น มีอีกร้อยชีวิตก็คงมิอาจหลบหนีเขาได้ เพราะอีกฝ่ายเป็นผู้มีอำนาจมากที่สุดในจักรวรรดิ
การเป็นดาฟเน่มันไม่ใช่เรื่องง่ายจริงๆ...
'พึ่งรู้งั้นหรือ?'
รอบข้างของเธอพลันมืดมิดไปหมด เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากมือทั้งสองข้างกำลังสั่นเทาเพราะสตรีที่ยืนอยู่หน้าเธอคือดาฟเน่
ดาฟเน่ตัวจริง!!!
ดาฟเน่กำลังยืนกอดอกมองมาที่เธออย่างดูแคลน ใบหน้าที่งดงามนั้นบิดเบี้ยวด้วยอารมณ์ขุ่นมัว
"อยากมีชีวิตนักไม่ใช่รึไง เหตุใดเจอเพียงแค่เรื่องแรกเจ้าก็ท้อแล้วล่ะ อยากเป็นชนชั้นสูงที่มีอำนาจและงดงาม อยากทำลายข้า เหอะ! เป็นข้าเพียงไม่กี่วันก็แสดงความอ่อนแอถึงเพียงนี้...."
เธอกำมือแน่นด้วยความโกรธแค้น
"เจ้าเป็นคนใส่ร้ายข้า ยังมีหน้ามากล่าวเรื่องเช่นนี้อีกงั้นหรือ!!"
"...เวด้า เจ้าเป็นสตรีที่ทำให้ข้าเสียศักดิ์ศรีเป็นอย่างมาก เจ้าทำให้ข้าพ่ายแพ้ทั้งที่ความเป็นจริงข้าชนะเจ้าในทุกอย่าง.."
พ่ายแพ้อะไร นางกล่าวอะไรของนาง!!
"หากอยากจะอยู่ในร่างของข้าต่อไปก็ควรพยายามหน่อยสิเวด้า ใครจะยอมให้เจ้าได้อยู่ในร่างของข้าไปตลอดกัน!!"
"...เจ้าเนี่ยนะพ่ายแพ้ข้า?"
"ใช่ ข้าแพ้เจ้าเรื่องหนึ่ง เวด้าหากว่าอยากจะใช้ร่างของข้าต่อไป ก็จงไปนอนกับใครสักคนสิ"
"พูดบ้าอะไร..."
"รักในศักดิ์ศรีมากนักไม่ใช่รึไง ทำตัวเป็นสตรีที่ดีเลิศเลอ ใสซื่อ บริสุทธิ์"
ดาฟเน่ส่ายหน้าเบาๆ พร้อมกับหัวเราะเยาะเวด้า
"เลือกเอาเวด้า ว่าจะเป็นคนดีแต่ว่าไร้ลมหายใจ หรือว่าเจ้าจะยอมแปดเปื้อนเพื่อมีชีวิตต่อ ข้าให้เวลาเจ้าสามวัน หลังเที่ยงคืนวันที่สามเจ้าจะกลายเป็นวิญญาณเรร่อนหากเจ้ายังไม่ยอมทำตามที่ข้าสั่ง!...."