แผนของแม่

878 Words
ในยุคที่โรคระบาดส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจแบบนี้ คนทำมาหากินด้วยอาชีพพิเศษเช่นแสงดาวก็พลอยได้รับความเดือดร้อนตามมาด้วยอีกคำรบหนึ่ง ก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่เดือน การค้าขายเรื่องอย่างว่าผ่านทางแพลตฟอร์มต่างๆ ยังคงลื่นไหล หากแต่เพราะระบบเศรษฐกิจที่พังลงอย่างไม่เป็นท่าทำให้สาวๆ ที่หมดทางเลือกหันมาประกอบอาชีพอย่างเธอจนดาษดื่น เบียดสาวใหญ่วัยเกือบสี่สิบอย่างเธอจนกระเด็นตกอันดับไปอย่างไม่เป็นท่า ลำพังแค่ตัวเธอเองเพียงคนเดียวก็คงไม่น่าห่วงสักเท่าไหร่ เอิร์นหรือน้ำอิง บุตรสาวที่กำลังเรียนมัธยมปลายปีสุดท้ายนี่สิที่น่าเป็นห่วงกว่า ในสายตาของแสงดาว บุตรสาวเช่นน้ำอิงคือหินก้อนใหญ่ ที่คอยถ่วงทุกก้าวเดินของเธอให้เป็นไปด้วยความยากลำบาก ความทุกข์ยากทำให้เธออดไม่ได้ที่จะริษยาในความโชคดีของบุตรสาวจนยากที่จะกู้ความเป็นแม่กลับคืนมา เพราะถ้าเทียบกันดูแล้ว ชีวิตช่วงวัยรุ่นของเธอกับน้ำอิงช่างแตกต่างกันไม่น้อยเลย แสงดาวมีชีวิตวัยรุ่นที่ค่อนข้างโลดโผน เมื่อเทียบกับน้ำอิงแล้วช่างต่างกันราวฟ้ากับเหว เธอตั้งครรภ์ลูกคนแรกตั้งแต่ยังไม่จบชั้นมัธยมต้น ในขณะที่น้ำอิงเติบโตมาจนถึงวัยเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย สาวน้อยก็ยังไม่ประสาในเรื่องอย่างว่าเช่นมารดาเลยแม้แต่น้อย โชคดีที่ลูกชายคนแรกถูกแยกไปอุปการะด้วยครอบครัวของฝ่ายชาย เพียงไม่นานความสัมพันธ์ระหว่างแสงดาวกับพ่อเด็กก็ขาดสะบั้นลง เพราะเธอเองขาดคุณสมบัติของภรรยาและแม่ที่ดี แต่ความอิสระในครั้งนั้นกลับทำให้เธอภาคภูมิใจ และใช้ชีวิตอย่างเหลวแหลกเรื่อยมาจนตั้งท้องน้ำอิงเป็นคนที่สองในวัยยี่สิบปีบริบูรณ์ เมื่อแรก…ฝ่ายชายก็คอยส่งเสียและรับเด็กหญิงไปช่วยเลี้ยงดูบ้างในบางคราว จนวันที่เขามีครอบครัวใหม่ พันธะของความเป็นพ่อแม่ก็ถูกตัดขาดลงด้วยเงินก้อนโตที่แสงดาวเอาไปละลายเพียงเดือนเดียวก็หมดเกลี้ยง ความรักสบายในช่วงเวลานั้นทำให้เธอตัดสินใจหากินด้วยการขายเรือนร่างผ่านทางอินเตอร์เน็ตอย่างเป็นล่ำเป็นสัน จ้างคนข้างบ้านให้เลี้ยงดูบุตรสาวอย่างขาดๆ เกินๆ โชคดีที่น้ำอิงเป็นเด็กรักดี ประกอบกับมีคนเอ็นดูและช่วยอบรมในทางอ้อม สาวน้อยจึงรอดพ้นปากเหยี่ยวปากกาและไร้เล่ห์เหลี่ยมมาจนทุกวันนี้ เธอทราบเพียงแค่ว่ามารดามีอาชีพค้าขายออนไลน์ และต้องออกไปพักค้างคืนนอกบ้านเพื่อแพ็คสินค้าส่งอยู่บ่อยครั้ง หน้าที่ของน้ำอิงก็คือคอยดูแลบ้าน ซักเสื้อผ้า และทำทุกอย่างเพื่อรองรับอารมณ์อันแปรปรวนของแสงดาวที่เกรี้ยวกราดกลับมาในแต่ละวัน หากแต่เด็กสาวกลับทนได้ เพราะแรงกตัญญูที่มีต่อมารดาเป็นล้นพ้น… ข่าวการประมูลเวอร์จิ้นที่จบลงด้วยยอดเงินหลักแสนของนักศึกษาสาวรายหนึ่งทำให้แสงดาวตาลุกโชน น่าเสียดายที่วัยสาวของเธอร่วงโรยไปไกลเกินกว่าที่จะย้อมแมวได้ นี่ถ้าหากเธอเป็นเด็กสาวมัธยมปลายผิวใสๆ แบบบุตรสาวเธอล่ะก็ ยอดปิดการประมูลที่ได้มาก็คงไม่น้อยกว่านักศึกษาสาวรายนี้ไปสักเท่าไหร่.. เด็กสาวมัธยมปลายอย่างนั้นหรือ? แสงดาวฉุกใจคิด ริมฝีปากที่เคลือบสีฉูดฉาดอยู่เป็นนิจยกยิ้มขึ้นมาด้วยความพึงพอใจ นึกชื่นชมในความฉลาดของตนเองอยู่พักใหญ่ ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นจากโต๊ะคอมพิวเตอร์แล้วเดินออกไปทางปลายเตียงเพื่อทำตามประสงค์ “อีเอิร์น มึงเอาชุดนักเรียนมาให้กูยืมสักชุดสิ” ความคิดเลวทรามที่ผุดขึ้นมาภายในหัวสมองทำให้แสงดาวไม่รอช้า เปิดประตูห้องออกไปหาบุตรสาวในทันที ซึ่งอีกฝ่ายก็ได้แต่ทำตาโตและถามคำถามออกไปด้วยความไร้เดียงสา “ชุดนักเรียนเอิร์นเหรอแม่? แม่จะเอาไปทำอะไรจ๊ะ เอิร์นมีอยู่แค่สามชุดเอง ชุดที่รีดอยู่ต้องใส่พรุ่งนี้ ส่วนอีกสองชุดที่ซักไว้ก็ยังไม่แห้งเลย” เด็กสาวมองชุดที่กำลังรีดอยู่บนโต๊ะรองรีดเก่าๆ ด้วยความหวงแหน “โอ๊ย อีโง่ คิดให้ยุ่งยากไปได้ ชุดที่เปียกอยู่มึงก็ไปเอามารีดให้แห้งสิ ส่วนชุดนี้กูจะยืม เงินกูหาซื้อมาทั้งนั้น กูจะยืมตอนไหนก็ย่อมได้ อย่ามาเรื่องมากกับกูเชียวนะอีเอิร์น” แสงดาวพูดพลางคว้าเสื้อผ้าที่บุตรสาวกำลังรีดอยู่ติดมือเข้าห้องไปด้วยอย่างไม่ยี่หระ น้ำอิงมองตามแล้วได้แต่ทอดถอนใจ ก่อนจะเดินไปหยิบชุดนักเรียนที่แห้งหมาดมากที่สุดมารีดต่อจนแห้งสนิท เพื่อใช้สวมไปโรงเรียนในวันพรุ่งนี้…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD