บทที่ 3 กำเนิดจอมมารคนใหม่และวงกตที่ไม่สิ้นสุด

1723 Words
อาริยะถูกจองจำในคุกใต้ดินที่มืดมิดและอับชื้นที่สุดของปราสาทเอเธเรีย โซ่ตรวนพันธนาการร่างกายที่อ่อนแอของเขา แสงอรุณ ดาบศักดิ์สิทธิ์ของเขาถูกยึดไป ความสิ้นหวังกัดกินหัวใจของเขาอย่างช้าๆ เขาถูกหักหลังจากคนที่เขาไว้ใจที่สุด ถูกทรยศโดยอาณาจักรที่เขาเพิ่งช่วยชีวิตไว้ อุดมการณ์ที่เคยยึดมั่น... ความดีงาม... ความยุติธรรม... มันคืออะไรกันแน่? หากผลตอบแทนของความดีคือสิ่งนี้... "ความดีงาม... มันมีค่าอะไร... หากสุดท้ายต้องลงเอยเช่นนี้?" อาริยะพึมพำกับตัวเอง น้ำตาแห่งความขมขื่นไหลอาบแก้ม ในความมืดมิดและความสิ้นหวังนั้นเอง "แก่นพลังปีศาจ" ที่เขายังคงซ่อนไว้กับตัวเริ่มตอบสนอง มันสั่นสะท้านและเปล่งแสงสีดำจางๆ เสียงกระซิบที่เย้ายวนดังขึ้นในหัวของเขา... มันไม่ได้เป็นเพียงเสียง แต่เป็นภาพมายาที่แก่นพลังปีศาจสร้างขึ้น... ภาพของราชาเธโอเดนและเหล่าขุนนางที่หัวเราะเยาะเย้ยเขา... ภาพของกาเลนที่ทรยศ... ภาพของตัวเองที่แข็งแกร่งขึ้นจนไม่มีใครกล้าต่อกร... "พลังนี้จะทำให้เจ้าล้างแค้นได้" เสียงนั้นกระซิบ "เจ้าจะสามารถปกป้องทุกสิ่งที่เคยสูญเสียไป... จะไม่มีใครกล้าหักหลังเจ้าอีก... จงยอมรับข้า แล้วความเจ็บปวดทั้งหมดจะมลายหายไป เหลือเพียงพลังอำนาจอันไร้เทียมทาน" "ยอมรับข้าสิ... แล้วเจ้าจะไม่ต้องเจ็บปวดอีกต่อไป... เจ้าจะแข็งแกร่งเหนือใคร... เจ้าจะทำให้พวกมันทั้งหมดต้องชดใช้!" อาริยะหลับตาลง ความขัดแย้งต่อสู้กันในใจอย่างรุนแรง แต่ในที่สุด... ความเจ็บปวดและความสิ้นหวังก็มีชัยเหนือทุกสิ่ง เขาไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว แสงสว่างได้ทอดทิ้งเขาไปแล้ว... เหลือเพียงความมืดเท่านั้นที่เป็นเพื่อน "ข้า... ยอมรับ" ทันใดนั้น พลังมืดมหาศาลก็ระเบิดออกมาจากแก่นพลังปีศาจ ไหลทะลักเข้าสู่ร่างของอาริยะราวกับเขื่อนแตก ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วทุกอณูเซลล์ แต่ในขณะเดียวกัน พลังอำนาจอันไร้ขีดจำกัดก็เอ่อล้นขึ้นมาแทนที่ โซ่ตรวนที่พันธนาการเขาขาดสะบั้นราวกับเส้นด้าย ดวงตาของอาริยะเบิกกว้าง... บัดนี้มันไม่ใช่สีฟ้าสดใสอีกต่อไป แต่เป็นสีแดงฉาน... เหมือนกับดวงตาของจอมมารเงามืด อาริยะในสภาพที่พลังมืดเข้าครอบงำอย่างสมบูรณ์ ทำลายประตูคุกและสังหารทหารยามที่ขวางทางอย่างง่ายดาย เขาไม่ได้ฆ่าอย่างบ้าคลั่งไร้สติ แต่ทุกการเคลื่อนไหวของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชาและเฉียบขาด เขาไม่ใช่ผู้กล้าอาริยะคนเดิมอีกต่อไปแล้ว ระหว่างการหลบหนีออกจากเมืองหลวง ภาพหลอนจากแก่นพลังปีศาจฉายชัดขึ้นในความคิดของเขาอีกครั้ง... ภาพของตัวเองในฐานะจอมมารที่เขาเพิ่งปราบไป การต่อสู้ครั้งนั้น... วินาทีที่ถูกดาบแสงอรุณของ "ตัวเองในอดีต" แทงทะลุหัวใจ... ความเจ็บปวดนั้น... ความสิ้นหวังนั้น... บัดนี้เขารู้สึกถึงมันได้อย่างชัดเจน ราวกับเป็นประสบการณ์ของตัวเอง "วงจร... มันเริ่มอีกครั้ง..." คำพูดสุดท้ายของจอมมารคนก่อนก้องอยู่ในหัวของเขา ตอนนี้เขาเข้าใจความหมายของมันแล้ว... เข้าใจอย่างถ่องแท้ อาริยะไม่ได้มุ่งหน้าไปที่ใดอย่างไร้จุดหมาย เขามุ่งหน้ากลับไปยังทิศเหนือ... สู่หุบเขาเงามรณะ... สู่ปราสาททมิฬของจอมมารคนก่อน... สถานที่ที่เขาเคยรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด บัดนี้เขารู้แล้วว่าทำไม... เพราะมันคือบ้านของเขา... ชะตากรรมของเขา... ณ บัลลังก์เดิมที่เคยว่างเปล่า อาริยะทรุดตัวลงนั่ง เกราะทมิฬที่หลงเหลืออยู่ของจอมมารคนก่อนลอยขึ้นมาประกอบเข้ากับร่างของเขาอย่างพอดิบพอดี ราวกับมันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ ดาบแสงอรุณที่ถูกทิ้งไว้ในคุก บัดนี้ไม่สำคัญอีกต่อไป ในมือของเขาปรากฏดาบเล่มใหม่... ดาบที่หล่อหลอมขึ้นจากพลังมืดและความสิ้นหวังของเขาเอง... ดาบทมิฬ "เงาราตรี" (Nightshadow) เขากลายเป็นจอมมารเงามืดคนใหม่อย่างสมบูรณ์ ความทรงจำในฐานะอาริยะผู้กล้าเริ่มเลือนรางและบิดเบี้ยว ถูกแทนที่ด้วยความขมขื่น ความโกรธแค้น และความเข้าใจอันเย็นชาใน "ชะตากรรม" ที่ไม่อาจหลีกหนี เขาคืออาริยะ... และเขาก็คือจอมมาร... จอมมารที่อาริยะคนต่อไปจะต้องเดินทางมาปราบ... เวลาผ่านไปหลายปี... หรืออาจจะหลายสิบปี... ไม่มีใครรู้แน่ชัด จอมมารอาริยะปกครองดินแดนทางเหนือด้วยความหวาดกลัว อาณาเขตแห่งความมืดของเขาขยายกว้างออกไปยิ่งกว่าจอมมารคนก่อน สัตว์อสูรแข็งแกร่งขึ้น ดุร้ายขึ้น ผู้คนในเอรีดอร์ต้องทนทุกข์ทรมานภายใต้เงื้อมมือของจอมมารตนใหม่... โดยที่ไม่เคยรู้เลยว่าจอมมารตนนี้ก็คือผู้กล้าที่พวกเขาเคยยกย่องสรรเสริญ จอมมารอาริยะนั่งอยู่บนบัลลังก์ในปราสาททมิฬ เขารอคอย... รอคอยอย่างอดทน... รอคอยการมาถึงของผู้กล้าคนใหม่... ผู้ที่จะมาพร้อมกับดาบแสงอรุณและความหวังลมๆ แล้งๆ แบบเดียวกับที่เขาเคยมี... และแล้ววันนั้นก็มาถึง... เขาสัมผัสได้ถึงพลังงานแสงสว่างอันคุ้นเคยที่กำลังใกล้เข้ามา... เด็กหนุ่มคนหนึ่ง... ที่มีดวงตาเปล่งประกายด้วยอุดมการณ์... ที่มีชื่อว่า... "อาริยะ"... จอมมารอาริยะแสยะยิ้มบางๆ เป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเศร้าและความสมเพชในชะตากรรม เขามองดูผู้กล้าอาริยะ (ตัวเองในอดีต) ที่บุกเข้ามาในท้องพระโรงด้วยท่าทางมุ่งมั่นแบบเดียวกับที่เขาเคยเป็นเมื่อนานแสนนานมาแล้ว "เจ้ามาช้ากว่าที่ข้าคิดนะ... ผู้กล้า" จอมมารอาริยะกล่าว เสียงของเขาแหบพร่าและเย็นชาเสียจนบาดลึกเข้าไปในกระดูก ผู้กล้าอาริยะคนใหม่ชี้ดาบแสงอรุณมาที่เขา "วันนี้คือวันสิ้นสุดของเจ้า จอมมาร!" การต่อสู้ครั้งใหม่ได้เริ่มต้นขึ้น... แต่ครั้งนี้มันแตกต่างออกไป จอมมารอาริยะ (อนาคต) ไม่ได้ต่อสู้เพื่อเอาชนะอย่างเดียว แต่ในทุกการปะทะดาบ ทุกมนตราที่ปล่อยออกมา เขากำลังถ่ายทอดความจริงอันโหดร้ายของวงจรนี้ให้กับผู้กล้าอาริยะ (ปัจจุบัน) ภาพความเจ็บปวด ความสิ้นหวัง การหักหลัง และการกลายเป็นจอมมารซ้ำแล้วซ้ำเล่า... มันถาโถมเข้าสู่จิตใจของผู้กล้าหนุ่มจนแทบแหลกสลาย ผู้กล้าอาริยะทรุดลงกับพื้น ดาบแสงอรุณหลุดจากมือ เขามองจอมมารตรงหน้า... มองเห็นตัวเองในอนาคตที่บิดเบี้ยว... และเข้าใจแล้วว่าชัยชนะแบบเดิมๆ ไม่มีความหมายใดเลย ผู้กล้าอาริยะ (ปัจจุบัน) : "ข้า... ข้าจะไม่เดินตามรอยเจ้า... ข้าจะไม่ยอมให้วงจรนี้ดำเนินต่อไป!" แทนที่จะรอให้โชคชะตานำพาไปสู่การหักหลังและความสิ้นหวัง... ผู้กล้าอาริยะตัดสินใจในสิ่งที่ไม่มี "อาริยะ" คนใดเคยทำมาก่อน เขาลุกขึ้นยืนอีกครั้ง... แต่มือของเขาไม่ได้เอื้อมไปหยิบดาบแสงอรุณ... หากแต่ยื่นตรงไปยัง "แก่นพลังปีศาจ" ที่จอมมารอาริยะ (อนาคต) จงใจเผยออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน... แก่นพลังที่เต้นระริกด้วยความมืดมิดอันเย้ายวน จอมมารอาริยะ (อนาคต) (ด้วยน้ำเสียงที่แฝงความประหลาดใจและหวาดหวั่นเล็กน้อย) : "เจ้า... เจ้าจะทำอะไร?" ผู้กล้าอาริยะ (ปัจจุบัน) (ดวงตาเปล่งประกายด้วยแสงอันเย็นชาและเด็ดเดี่ยว) : "ข้าจะกลืนกินมัน... กลืนกินวงจรนี้... ด้วยตัวของข้าเอง!" ไม่รอช้า ผู้กล้าอาริยะคว้าจับแก่นพลังปีศาจนั้น... และแทนที่จะให้มันครอบงำ... เขาใช้เจตจำนงค์อันแรงกล้าและความเข้าใจในวงจรที่เพิ่งได้รับมา... "ผสาน" ตัวเองเข้ากับมันด้วยสติสัมปชัญญะครบถ้วน! เสียงกรีดร้องอันโหยหวนดังขึ้น... ไม่ใช่จากอาริยะ... แต่จากแก่นพลังปีศาจนั้นเอง พลังมืดมหาศาลพยายามจะกลืนกินเขา แต่พลังแสงที่ยังหลงเหลืออยู่ในตัวผู้กล้าก็ต่อต้านอย่างสุดกำลัง ร่างของอาริยะเริ่มบิดเบี้ยว แสงและเงาหมุนวนรอบตัวเขาราวกับพายุคลั่ง จอมมารอาริยะ (อนาคต) มองภาพนั้นด้วยความตกตะลึงระคนหวาดกลัว นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาคาดคิด... ไม่ใช่จุดจบที่วงจรเคยลิขิตไว้... ร่างของเขาค่อยๆ สลายไป... ไม่ใช่เพราะถูกปราบ... แต่เพราะ "บทบาท" ของเขาในวงจรนี้กำลังจะสิ้นสุดลงด้วยวิธีการที่แตกต่างออกไป เมื่อแสงและเงาสงบลง... ร่างที่ยืนอยู่ตรงนั้นไม่ใช่อาริยะผู้กล้า... และก็ไม่ใช่จอมมารเงามืด... แต่เป็นสิ่งมีชีวิตรูปแบบใหม่... ร่างของเขาสูงใหญ่ขึ้นเล็กน้อย ผิวซีดขาวราวกับหินอ่อน ดวงตาทั้งสองข้างกลายเป็นสีเทาหม่นที่ลุ่มลึกราวกับห้วงอเวจีที่ไร้ก้นบึ้ง ไม่มีประกายแสงแห่งความหวัง... และก็ไม่มีเปลวไฟแห่งความโกรธแค้น... มีเพียงความว่างเปล่าอันเยือกเย็นและความเข้าใจในทุกสรรพสิ่ง เกราะทมิฬของจอมมารสลายไป กลายเป็นส่วนหนึ่งของผิวหนังที่แข็งแกร่งดุจเหล็กกล้า ดาบแสงอรุณและดาบเงาราตรี... ทั้งสองเล่มลอยขึ้นมาหลอมรวมกันเป็นดาบเล่มใหม่... ดาบสีเทาที่ไม่มีวันหมองหม่น... "ดาบแห่งสมดุล" หรือ "ดาบแห่งจุดจบ" เขาคือ "สมอแห่งโศกนาฏกรรม" (The Anchor of Tragedy) ตัวตนที่อยู่เหนือกาลเวลาและความตาย เขาไม่ได้ทำลายวงจร... แต่เขา "หยุด" มันไว้ที่ตัวเอง เขาแบกรับความทรงจำ ความเจ็บปวด และชะตากรรมของ "อาริยะ" ทุกคนไว้ในร่างเดียว... ชั่วนิรันดร์ โลกอาจจะปลอดภัยจากจอมมารคนใหม่... อาณาจักรเอรีดอร์อาจจะไม่ต้องเผชิญกับความหวาดกลัวอีกต่อไป... แต่ราคาที่ต้องจ่ายคือการดำรงอยู่ของ "สมอแห่งโศกนาฏกรรม" นี้ เขาจะเฝ้ามองโลกจากปราสาททมิฬที่บัดนี้เงียบสงัด... ปราสาทที่กลายเป็นสุสานของวงจร... และเป็นคุกนิรันดร์ของเขาเอง ไม่มีการเฉลิมฉลอง... ไม่มีผู้กล้าให้สรรเสริญ... มีเพียงความเงียบงันและความจริงอันน่าสะพรึงกลัวที่ว่า... บางครั้ง... การเสียสละที่ยิ่งใหญ่ที่สุด... ก็คือการยอมรับในโศกนาฏกรรม... และแบกรับมันไว้เพียงผู้เดียว... ตลอดกาล
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD