คุณลุง

1800 Words
กิจวัตรประจำวันของเธอก็ยังคงเป็นเช่นเดิมเหมือนเคย.. ตอนเช้าไปส่งน้องดรีมที่โรงเรียนแล้วเธอก็ไปทำงานทันที การเดินทางไปทำงานของเธอนั้นคือการนั่งรถเมล์ไปเพราะมันไม่ไกลและประหยัดด้วยตอนแรกว่าจะนั่งรถไฟฟ้าไปแต่มันจะต้องเดินไกลเธอเลยเลือกนั่งรถเมล์เอาถึงแม้ว่าจะร้อนและควันเยอะแต่เพื่อความสะดวกของพวกเธอดังนั้นเธอจะต้องยอมทนกับเรื่องพวกนี้.. บ่อยครั้งที่เธอสงสารลูกนะแต่เธอเองก็ทำอะไรได้ไม่มากนัก “เดี๋ยวตอนเย็นคุณแม่มารับนะคะห้ามดื้อห้ามซนห้าม…” “ค่า ๆ ทราบแล้วเจ้าค่ะคุณนายแม่..” “ดื้อนะเราอะ.. ฝากด้วยนะคะคุณครู..” “ได้เลยค่ะแม่น้องทอฝัน.. ไปกันค่ะวันนี้มีของเล่นใหม่ ๆ มาให้พวกเราได้เล่นด้วยนะ..” “ว้าว.. จริงเหรอคะ? คุณแม่คะ คุณแม่ไปได้แล้วคะน้องดรีมจะไปเล่นแล้วคุณแม่ก็เดินระวัง ๆ ด้วยนะคะ ห้ามดื้อห้ามซน ห้ามยกของหนักนะคะน้องดรีมเป็นห่วง..” “ได้ค่ะน้องดรีมคุณแม่จะไม่ดื้อไม่ซนคุณแม่สัญญาค่ะ..” “ไปได้แล้วค่ะเดี๋ยวสายเดี๋ยวจะโดนพี่เอ็มคนสวยดุเอา..” ฮ่า ฮ่า ฮ่า “ได้ค่ะไปแล้วนะ…” “ค่า..” “เด็ก ๆ จ๊ะมานั่งกันตรงนี้ก่อนลูกครูมีอะไรจะบอก..” ตึกตึกตึก… “สวัสดีคุณลุงใจดีก่อนเร้ว..” “สาวัดดีค้า.. / สาวัดดีค้าบ..” “เชิญได้เลยค่ะถ้าคุณต้องการพูดอะไรกับเด็ก ๆ ก็เชิญได้เลยค่ะ..” “ขอบคุณครับ..” เสียงเจื้อยแจ้วของเด็ก ๆ ตอนแรกเขาคิดว่าถ้าเขามาสถานที่แห่งนี้เขาคงจะอยู่ได้ไม่น่าเกินห้านาทีสิบนาทีแต่เมื่อเขาได้เห็นท่าทีของเด็ก ๆ ที่นี่ที่กำลังหัวเราะและกรีดร้องด้วยความดีใจกับสิ่งที่ตนเองได้เห็นนั้นมันก็ทำให้เขาคิดว่าจริง ๆ แล้วเด็กพวกนี้ก็ไม่ได้น่ารำคาญสักเท่าไหร่ จุดประสงค์ที่เขามาที่นี่มันก็ไม่ได้มีอะไรมากแค่อยากจะช่วยเหลือสังคมก็เท่านั้นเอง.. “คุณพัทดูสนใจเด็กคนนั้นนะครับ” “ก็เด็กมันน่ารักน่าเอ็นดูพ่อแม่คงจะหน้าตาดี..” “ผมก็ว่าอย่างนั้นครับและดูเป็นเด็กฉลาดด้วย..” “ฉลาดได้แม่..” “อะไรนะครับ?” “ไม่มีอะไรหูฝาดไปเองละสิ.. พักผ่อนเยอะ ๆ นะช่วงนี้ดูนายอ๋อง ๆ อยู่นะหรือว่าฉันใช้งานนายหนักเกินไป..” “ถ้าให้ผมหยุดมากกว่านี้คงจะต้องลาออกแล้วละครับคุณพัท..” “งั้นเหรอ? เอา ๆ มาช่วยดูหน่อยว่าที่นี่มีอะไรที่น่าช่วยเหลืออีกนอกจากของเล่นเด็ก ๆ ” “ครับเดี๋ยวผมจะลองเดินสำรวจรอบนอกดูนะครับ..” “ขอบใจมากพิบูล.. ” การที่เขามาที่นี่เป็นเพราะเขาสงสารเด็ก ๆ เขาได้โทรมาสอบถามทางวัดและโรงเรียนแล้วว่าต้องการให้ช่วยสิ่งใดบ้างทางวัดบอกทางวัดไม่ได้ต้องการสิ่งใดแต่โรงเรียนอาจจะต้องการเพราะโรงเรียนแห่งนี้เก่าแก่มากแล้วและโครงสร้างต่าง ๆ ของโรงเรียนมันก็เริ่มทรุดโทรม ปัจจัยในการก่อสร้างนั้นส่วนใหญ่แล้วจะมาจากการเปิดรับบริจาคและนั่นก็หมายความว่าต้องใช้เวลานานมากกว่าสิ่งที่ทรุดโทรมหรือผุพังจะสามารถซ่อมแซมได้และเขาก็คิดว่าถ้าเขายื่นมือมาช่วยละ.. มันจะน่าจะเป็นผลดีกับเด็ก ๆ ที่นี่อยู่มากโข.. ตึกตึกตึก.. “ขอบคุณมาก ๆ นะคะที่ท่านเมตตามาช่วยเหลือเด็ก ๆ แค่นี้พวกเราก็ดีใจแล้วค่ะเพราะอันที่จริงพวกเราสอนเด็ก ๆ แบบตามมีตามเกิดไม่ได้เลิศหรูใด ๆ เลยแต่การเรียนการสอนของเรานั้นก็ไม่น้อยหน้าโรงเรียนดัง ๆ นะคะเพียงแค่เด็ก ๆ ขาดปัจจัยในการศึกษาเท่าเรียนก็เท่านั้นเอง มีเด็กหลายคนที่บ้านยากไร้ก็ต้องมาอาศัยวัดอยู่และมาเรียนที่นี่เอาแต่จะบอกว่าไม่มีใครยื่นมือมาช่วยเหลือหรือไม่มีองค์กรใดมาช่วยก็เป็นไปไม่ได้เพราะว่ามีคนมาช่วยบริจาคอยู่เป็นประจำค่ะแต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อเด็ก ๆ ถ้าเป็นไปได้.. ดิฉันอยากจะรบกวนท่านหน่อยค่ะ ดิฉันอยากได้ปากกา ดินสอ สมุด และเครื่องใช้สำหรับการเรียนให้เด็ก ๆ มากกว่าเงินทองค่ะ.. ดิฉันอยากให้ท่านช่วยเป็นกระบอกเสียงให้กับพวกเราสักหน่อยจะได้หรือไม่คะ..” “คุณครูไม่ต้องห่วงนะครับเรื่องนั้นเดี๋ยวผมกับลูกน้องจะเป็นคนจัดการให้เองและเรื่องซ่อมแซมอาคารเรียนนั้นผมจะลองเอาไปคุยกับคนรู้จักดูว่ามีใครสนใจร่วมสมทบบุญกับพวกผมรึเปล่า.. เรื่องที่คุณครูกังวลอยู่ปล่อยให้มันเป็นหน้าที่ของพวกผมนะครับคุณครูทำหน้าที่เป็นครูที่น่ารักให้กับเด็ก ๆ ต่อไปก็พอแล้วครับ..” นั่นสินะโรงเรียนต้องการอะไรมากที่สุดถ้าไม่ใช้อุปกรณ์การเรียนและห้องเรียนทำไมเรื่องแบบนี้เขาถึงคิดไม่ได้.. ~~~~ “ทำไมวันนี้น้องดรีมอารมณ์ดีจังเลยคะ?” “วันนี้มีคุณลุงใจดีสองคนมาที่โรงเรียนค่ะ” “มาที่โรงเรียน.. มาทำอะไรคะ? มาให้ขนมน้องดรีมกับเพื่อน ๆ เหรอคะ?” “ให้สมุดวาดรูป ดินสอแล้วก็ยางลบค่ะ..” “อ้อ.. แบบนี้นี่เองแล้วน้องดรีมได้สมุดวาดรูปแบบไหนคะ?” “น้องดรีมได้สมุดแบบนี้ค่ะ..” พรึบ.. ลูกสาวของเธอชอบสัตว์เรื่องนี้เธอรู้ดีดังนั้นเธอไม่แปลกใจเลยที่น้องดรีมจะเลือกสมุดวาดรูปที่เป็นรูปสัตว์ แต่ก็ดีนะที่อย่างน้อย ๆ ก็มีคนบริจาคสิ่งของที่ทำให้เด็ก ๆ มีวิวัฒนาการและได้ฝึกให้เด็ก ๆ มีสมาธิกับสิ่งที่ตนเองทำ เธอไม่ได้ว่าร้ายใครนะที่เขาเอาของกินหรือขนมมาให้เด็ก ๆ แต่เธอคิดว่าการให้สมุด ดินสอหรือแม้แต่ยางลบก้อนเล็ก ๆ มันดีมากสำหรับเด็ก ๆ เลยเพราะพวกเขาได้ใช้จริงและสามารถใช้ได้นานด้วย.. เป็นความคิดที่ดีนะเนี่ย.. “แล้วน้องดรีมระบายไปได้กี่หน้าแล้วคะ?” “หลายหน้าอยู่ค่ะคุณแม่..” “ไหนขอดูหน่อยได้ไหมคะว่าระบายอะไรไปบ้างแล้ว..” “ได้เลยค้า..” “อ่า.. โอเคได้เยอะอยู่นะน้องดรีม..” เมื่อเธอเปิดดูเธอก็เห็นน้องดรีมระบายได้เยอะจริงๆ นะแบบว่าระบายหน้าละหนึ่งรูปจนมันเยอะอย่างที่น้องดรีมบอกจริง ๆ “น้องดรีมเก่งใช่ไหมคะคุณแม่” “น้องดรีมคะต่อไปถ้าน้องดรีมระบายสี.. น้องดรีมต้องระบายหน้านั้นให้เต็มและให้เสร็จก่อนนะคะน้องดรีมอย่าเลือกระบายแค่ในสิ่งที่น้องดรีมชอบเพราะเด็กบางคนเขาไม่มีโอกาสได้มีสมุดวาดรูปสวย ๆ อย่างน้องดรีม.. เด็กที่เขาอยู่ห่างไกลและไม่มีเงินไม่มีผู้บริจาคสิ่งของให้พวกเขาเลยนั้นพวกเขาจะไม่เคยได้รับสมุดระบายภาพสวย ๆ แบบนี้นะคะ.. ดังนั้นต่อไปน้องดรีมต้องห้ามเลือกทำในสิ่งที่ตนเองชอบและละเลยในสิ่งที่ตนเองไม่ชอบนะคะน้องดรีมต้องฝืนใจทำมันบ้างแม้บางครั้งน้องดรีมอาจจะไม่มีความสุขในการวาดสิ่ง ๆ นั้น.. อาหารและเสื้อผ้าก็เช่นกันน้องดรีมต้องห้ามเลือกกินนะคะ เสื้อผ้าก็ด้วยใส่อันที่หนูใส่ได้มีอะไรก็ใส่อันนั้นนะคะเข้าใจรึเปล่า.. ถ้าใส่ไม่ได้แล้วคุณแม่จะเอาเสื้อผ้าของน้องดรีมไปบริจาคให้กับเด็กคนอื่นที่เขาเองก็ต้องการเสื้อผ้าสวย ๆ น่ารัก ๆ เหมือนที่น้องดรีมเคยมี.. ดังนั้นน้องดรีมยินดีที่จะให้คุณแม่สอนและนำเสื้อผ้าเก่า ๆ สภาพดี ๆ ของน้องดรีมไปให้เด็กคนอื่นรึเปล่าคะ?” “ได้สิคะคุณแม่.. น้องดรีมขอโทษค่ะ ต่อไปน้องดรีมจะระบายทุกรูปเลย น้องดรีมจะใส่เสื้อผ้าอย่างระมัดระวังนะคะน้องดรีมอยากให้เด็กคนอื่นได้ใส่เสื้อผ้าสวย ๆ เหมือนกับน้องดรีมเช่นกัน” “เก่งมากค่ะแต่ว่าตอนนี้พวกเราไปหาคุณตาดีกว่าไหมคุณตาน่าจะรอกินข้าวแล้ว..” “ไปค๊าคุณแม่.. น้องดรีมหิวแล้ว..” ตึกตึกตึก.. ความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ของน้องดรีมบางครั้งมันก็คือกำลังใจที่ดีที่สุดของเธอและเป็นกำลังใจให้เธอในการมีชีวิตอยู่ต่อไปเธอยอมรับนะว่าสำหรับเธอมันไม่ง่ายเลยในการใช้ชีวิตให้อยู่รอดจนถึงทุกวันนี้เธอต้องรับคำพูดแย่ ๆ จากใครหลาย ๆ คนมานานนับหลายปีแต่เพียงแค่เธได้เห็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของน้องดรีมแล้วมันจึงทำให้เธอต้องฉุกคิดขึ้นมาว่า.. น้องดรีมคือสิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับเธอ ชีวิตนี้เธอยังมีน้องดรีมและพ่อที่เป็นที่รักของเธอ ดังนั้นเธอจะต้องสนใจทั้งสองคนให้มากเพราะคนอื่นที่พูดจาว่าร้ายเธอเขาไม่ได้หาให้เธอกินเลยสักคน แต่สำหรับพ่อและน้องดรีม.. ทั้งสองคนหาให้เธอกินและทำให้เธอมีความรักที่อบอุ่น.. “ถ้าวันอาทิตย์อากาศดีพวกเราไปเที่ยวกันอีกไหมคะน้องดรีม?” “ไปค่ะคุณแม่ไปไหนน้องดรีมไปด้วยคุณตาจ๋าก็ไปด้วยเช่นกันใช่ไหมคะ?” “ไปด้วยจ้าไปด้วย ตาจ๋าไปด้วยทุกที่ที่มีน้องดรีมกับแม่ของเรานั่นแหละ..” เย้~~ “ถ้าอย่างนั้นก็รอดูอากาศกันนะว่าจะอากาศดีรึเปล่า ถ้าอากาศดีพวกเราไปเล่นที่สวนสาธารณะกันนะคะ” “ค่า~~ น้องดรีมอยากไปค่ะ..” “งั้นกินข้าวแล้วไปอาบน้ำนอนกันนะ นอนเร็ว ๆ จะได้โตเร็ว ๆ ” “ค่า~~ ” ฮ่า ฮ๋า ฮ่า.. “เจื้อยแจ้วจริง ๆ เลยหลานตา.. มา ๆ กินข้าวกัน..” ทุกเสียหัวเราะและรอยยิ้มของพวกเราสำหรับพวกเราแล้วคือกำลังใจที่ดีที่สุดแต่เธอไม่รู้หรอกว่าคนอื่นจะคิดยังไงแต่ถึงอย่างนั้นเธอก็จะไม่ยอมให้คำพูดของคนอื่นต้องมาทำให้ครอบครัวของเธอมาทุกข์หรือเศร้าใจเด็ดขาด.. แม่คนนี้จะขอปกป้องลูกสาวที่น่ารักของเธอเอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD