ตอนที่ 8 พระชายาผู้ (ร้าย) เดียงสา Part1

1492 Words
-เช้าของวันใหม่- อากาศที่สดใสไม่ได้ทำให้หลิวหรงผิงสดชื่นขึ้นมาแต่อย่างใด เพราะความฝันบ้าๆ เมื่อคืนทำเอานางนอนไม่หลับจนฟ้าเกือบจะสางแล้วนั่นเอง หญิงสาวเอาแต่นั่งหาวอยู่บนเก้าอี้ในศาลาริมสระน้ำด้านหน้าเรือนของตน มีกอบัวขึ้นโดยรอบให้เห็นเป็นประปรายสลับกับฝูงปลาที่แหวกว่ายไปมาดวงตาเรียวหงส์มีน้ำตาระรื่นออกมาเล็กน้อยจากการนั่งหาวตั้งแต่เช้าของวันนี้ นางนั่งเท้าคางกับขอบศาลาคิดไม่ตกกับสิ่งที่ได้พบเห็นในความฝันเมื่อคืนนี้ “นี่ซิ่วอิงข้าแต่งงานกับจวิ้นอ๋องนานเท่าใดแล้วนะ” “เกือบสามเดือนแล้วเพคะ” “สามเดือนเลยงั้นหรือ หากอยู่แบบนี้ต่อไปข้าคงได้เป็นบ้าจริงๆ อย่างแน่นอน” “หากว่าเป็นเมื่อก่อนคุณชายคงได้พาพระชายาไปเที่ยวที่งานโคมไฟแล้วนะเพคะ แต่เวลานี้ท่านออกเรือนแล้วช่างน่าเสียดายจริงๆ” “เสียดายอะไร แล้วงานโคมไฟนี่คือที่ไหนงั้นหรือ” “ก็งานเทศกาลโคมไฟที่จัดขึ้นในตัวเมืองอย่างไรเล่าเพคะ” “มีด้วยหรือ ถ้าเช่นนั้นพวกเราก็ออกไปเที่ยวกันเถอะ” “ไปไม่ได้นะเพคะ” เสี่ยวเถาที่กำลังเด็ดกลีบดอกไม้อยู่นั้นก็รีบหยุดมือลงก่อนจะหันมาคัดค้านนางเสียงดัง “เพราะเหตุใด” “ท่านออกเรือนแล้วก็ต้องให้ท่านอ๋องเป็นคนพาไปเท่านั้นเพคะ” “ไปเองก็ได้นี่ เห็นหรือไม่ข้ามีขา” พูดจบก็ชี้ไปที่ขาของตนเองบ่งบอกว่านางยังคงเดินได้และขาของนางก็ยังอยู่ครบทั้งสองข้าง “โธ่พระชายาท่านเป็นสตรีที่ออกเรือนแล้วไม่ว่าจะออกไปที่ไหนแห่งหนใดก็ต้องรายงานท่านอ๋องก่อนทุกเรื่องนะเพคะ” “ใช่เพคะแล้วบ่าวก็เชื่อว่าท่านอ๋องไม่มีทางอนุญาตอย่างแน่นอน” ทั้งสองพูดจบก็ก้มหน้าลงก่อนจะลงมือเด็ดดอกไม้เพื่อนำไปทำเป็นเครื่องหอมไว้ผสมใช้เวลาอาบน้ำต่อไป หลิวหรงผิงที่รู้สึกเบื่อหน่ายอยู่นั้นก็ตัดสินใจแน่วแน่ไม่ว่าอย่างไรนางก็ต้องได้ออกไปจากจวนหลังนี้ ‘ไม่สิแค่เพียงได้ก้าวขาออกนอกประตูจวนแค่นี้นางก็ดีใจมากแล้ว’ อยู่ๆ นางก็ลุกพรวดพราดขึ้นมาทำเอาสาวใช้คนสนิททั้งสองถึงกับรีบลุกขึ้นตามแทบไม่ทัน “พระชายาจะไปไหนหรือเพคะ” “ข้าจะไปหาท่านอ๋อง” หญิงสาวเอ่ยบอกสาวใช้ของตนก่อนจะรีบเดินไปตามโถงทางเดินที่ทอดยาวไปสู่เรือนใหญ่อย่างรวดเร็ว ซิ่วอิงรีบวิ่งตามพระชายาของตนไปติดๆ ส่วนเสี่ยวเถานั้นก็รีบเก็บข้าวของวางกองไว้บนโต๊ะก่อนจะรีบวิ่งตามไปอีกคน “พระชายาอย่าไปเลยนะเพคะหากท่านอ๋องพบท่านเข้าต้องเป็นเรื่องอีกแน่เลย” “ทำไมล่ะข้าแค่อยากออกไปเที่ยวชมงานหากชาวบ้านพบว่าจวิ้นอ๋องให้ความสำคัญกับเทศกาลนี้ถึงกลับมาเที่ยวชมงานด้วยกัน ชาวบ้านคงรู้สึกดีใจไม่น้อยเลย” “แต่ว่าพระชายา” นางยกมือขึ้นก่อนจะเอ่ยต่อไปว่า “พอแล้วๆ ไม่ลองขอก็ไม่รู้ไม่ใช่หรือ” ทั้งสามเดินเข้าไปในเรือนใหญ่แต่ก็ถูกสาวใช้หน้าเรือนเข้ามาขวางทางเอาไว้ “หากไม่มีคำสั่งของท่านอ๋องก็เข้าไปไม่ได้” สาวใช้ผู้นั้นเอ่ยออกมาห้วนๆ ทั้งยังจ้องมองนางไม่วางตา ‘ดูๆ ไปแล้วคงถูกอบรมให้ทำกิริยาเช่นนี้กับนางสินะ’ “ข้าจะพบสามี” หลิวหรงผิงแกล้งบ้าต่อก่อนจะผลักหญิงสาวทั้งสองให้พ้นทาง “อะ โอ๊ย! นี่ท่าน” “ถอยไปนะอย่ามาแตะต้องพระชายาของข้า” เป็นเสี่ยวเถาและซิ่วอิงที่เข้ามายืนขวางทางพวกนางเอาไว้ หลิวหรงผิงหันไปมองก่อนจะแสยะยิ้มอย่างพอใจแล้วรีบวิ่งเข้าไปในเรือนใหญ่อย่างรวดเร็ว องค์รักษ์คนสนิททั้งสองของจวิ้นอ๋องที่ยืนรอรับใช้เขาอยู่นอกห้องตำรานั้นเมื่อมองเห็นหลิวหรงผิงวิ่งตรงมาทางที่พวกเขายืนอยู่ ไม่ทันได้เตรียมการสกัดแต่อย่างใดก็ถูกนางผลักออกไปเต็มแรงจนทั้งสองผงะตกใจไปไม่น้อย ‘พระชายาที่ดูบอบบางเหตุไฉนถึงได้แรงเยอะเช่นนี้กันนะ’ “เหตุใดเจ้าไม่จับนางไว้เล่าหานเฟิง” “เจ้ากล้าแตะต้องพระชายางั้นหรือ” หานเฟิงหันขวับไปต่อความกับตงหยางทันทีทำเอาเขาเองก็เถียงไม่ออกเช่นกัน ทั้งคู่รีบวิ่งเข้าไปด้านในตามหลังของหลิวหรงผิงไปติดๆ “ท่านอ๋อง ข้าอยากไปเที่ยวงานโคมไฟในเมือง” เมื่อวิ่งเข้ามาด้านในแล้วก็รีบตะโกนบอกเขาออกไปทันทีด้วยกลัวว่าจะถูกจับโยนออกไปข้างนอกเสียก่อน “ใครอนุญาตให้เจ้าเข้ามา!” เสียงนั้นดุดันแต่ไม่อาจทำให้หลิวหรงผิงเกรงกลัวแต่อย่างใด “ท่านอ๋องขออภัยพ่ะย่ะค่ะข้าน้อยตั้งตัวไม่ทัน พระชายาวิ่งเร็วเหลือเกิน” นางหันไปยิ้มให้พวกเขาก่อนจะเข้าไปนั่งบนเก้าอี้หยิบเอาถ้วยน้ำชาขึ้นมายกซดดื่มท่ามกลางการจับจ้องมองจากสามบุรุษ เสียงถอนหายใจของจวิ้นอ๋องดังแว่วออกมาเบาๆ สามเดือนที่ผ่านมาเขาพยายามหลีกเลี่ยงไม่เข้าใกล้สตรีผู้นี้แต่ก็ยังถูกนางตามติดมาโดยตลอด วันดีคืนดีก็แอบเข้ามาหาเขาตอนที่กำลังจะอาบน้ำยังดีที่ไหวตัวทันไม่แก้ผ้าไปหมดไม่เช่นนั้นไม่อยากจะคิดเลยจริงๆ “เจ้าอย่ามาก่อกวนข้าๆ ยังมีงานที่ต้องสะสางอีกมากมายนัก” “ข้าอยากไปเที่ยว” เสียงออดอ้อนพลางเสียงฝีเท้าที่เดินก้าวเข้ามาใกล้ตัวทำเอาเขาผงะไปก่อนจะเอ่ยออกไปด้วยเสียงอันดังว่า “ไม่ได้!” “แต่ว่า” “ข้ามีงานต้องทำ” “ข้าไปกับเสี่ยวเถา อ้อซิ่วอิงด้วย” จวิ้นอ๋องขมวดคิ้วแน่นก่อนจะหันไปมองสตรีบ้าที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขาคนนี้ ‘นางฟังรู้เรื่องด้วยหรือ’ เมื่อหลิวหรงผิงเอาแต่ยิ้มให้เขาและดูท่าว่าจะไม่มีทางยอมจากไปง่ายๆ หากไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปเที่ยวงานในครั้งนี้ ‘สตรีบ้าเช่นนางหากปล่อยให้ออกไปจากจวนไม่ขายหน้าผู้คนแย่หรือ’ เมื่อเงยหน้าขึ้นมองใบหน้างดงามนั้นก็เห็นนางเอียงคอมองมาที่เขาอยู่ก่อนแล้ว “ข้าไม่กวนท่านอย่างแน่นอนเพียงแค่ท่านอนุญาตให้ข้าไปเที่ยวชมงานเท่านั้น” จวิ้นอ๋องหลับตาลงก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างอดอนอดกลั้นที่สุดแล้ว “ข้าสัญญา” พูดจบก็ยื่นนิ้วขึ้นจรดขมับของนางเหมือนคนกำลังพูดสัตย์สาบานอยู่อย่างไรอย่างนั้น “ข้าจำได้ว่าเจ้าเป็นบ้าไม่อาจพูดจาฉะฉานได้เช่นนี้แล้วนี่อะไร” ‘หืม ให้ตายสิลืมไปเลยว่าเวลานี้นางกำลังรับบทคนบ้า' “หูฝาดแน่ๆ หรือว่าแท้จริงแล้วท่านเองก็ชอบข้าถึงได้ดูจะใส่ใจข้าเช่นนี้” “เหลวไหล” “ให้ข้าไปได้ใช่หรือไม่” “เออ!” ชายหนุ่มที่เริ่มรำคาญเสียงเจื้อยแจ้วนั้นก็เผลอพูดออกมาเพื่อตัดรำคาญแต่แล้วก็ต้องตกใจในสิ่งที่ตนเองนั้นพูดออกไป ‘ให้ตายสินี่ข้าเผลอตอบรับนางไปได้อย่างไรกันนะ’ “ขอบพระทัยเพคะท่านอ๋องผู้รูปงามที่สุดในใต้หล้า” “อะ ออกไปได้แล้ว” “เพค่า” หลิวหรงผิงเหยียดยิ้มออกมาจ้องมองบุรุษผู้ที่กำลังหัวเสียอยู่ตรงหน้านางนั้นก่อนจะย่อตัวขอบคุณเขาอย่างล้อเลียนเล็กน้อย จวิ้นอ๋องเบือนหน้าหนีไร้คำพูดใดๆ ออกมาจากปากเขา หางตาของเขาเห็นเพียงแผ่นหลังบอบบางที่ทั้งวิ่งทั้งกระโดดออกไปจากห้องตำราพลางสีหน้าที่เจื่อนลงของสององค์รักษ์ “ท่านอ๋องขังนางเอาไว้ที่เรือนก็ได้นี่ขอรับ” “ไม่ได้หรอก ฮองเฮาส่งคนมาสอดแนมเช่นนี้หากข้าลงโทษนางโดยไม่มีความผิดอันใดสตรีบ้าเช่นนางคงได้หาเรื่องไปเพ็ดทูลกับฮองเฮาให้ข้าเข้าหอกับนางอีกเป็นแน่” “เช่นนั้นก็…” “ไปจัดเตรียมรถม้าให้นาง ข้าต้องสะสางงานต่อพวกเจ้าออกไปได้แล้ว” “พ่ะย่ะค่ะ/พ่ะย่ะค่ะ” เมื่อสององค์รักษ์ออกไปแล้วจวิ้นอ๋องก็หลับตาลงก่อนจะบ่นพึมพำกับตนเองว่า ‘เวรกรรมอะไรของข้ากันนะ!’
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD