บทที่ 3 - เหตุเกิดเพราะความเมา [1]

2021 Words
“กรี๊ด!!!” พริมรตากรีดร้องอย่างสุดทนเมื่อขึ้นมาอยู่บนรถส่วนตัวกับโซดา ผู้จัดการส่วนตัวฉายานักปั้นมือทองหลังเสร็จงานทำบุญวันเกิดอายุครบยี่สิบหกปีที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า “เป็นอะไร ประตูรถหนีบหางหรือไง” โซดาหันมาจิกเสียงถามอย่างรู้ทันว่านางเอกสาวชื่อดังต้องไม่พอใจอะไรอีกแน่นอน “พี่โซดา!!!” คนถูกแขวะขึ้นเสียงอย่างไม่พอใจ “อย่ามาขึ้นเสียงใส่พี่” ผู้จัดการส่วนตัวร่างท้วมท่าทางตุ้งติ้งปั้นหน้าดุใส่ ถ้าไม่ใช่เพราะวันนี้เป็นวันพิเศษของพริมรตา เจ้าหล่อนก็คงจะปล่อยให้นางเอกสาวมากับ ‘บ๊วยหวาน’ ผู้ช่วยซึ่งกำลังทำหน้าที่ขับรถอยู่ในขณะนี้แค่สองคนเหมือนเคย “พริมมี่ขอโทษค่ะ” น้ำเสียงของหญิงสาวจอมเหวี่ยงอ่อนลงเมื่ออีกฝ่ายทำท่าโกรธจริงจัง “พริมมี่หงุดหงิดมากไปหน่อยที่ภีมเบี้ยวงานวันเกิด พริมมี่ แฟนคลับก็ถามหา นักข่าวก็ถามกันใหญ่ว่าทำไมภีมไม่มา ทะเลาะกันหรือเปล่า แล้วเมื่อไหร่จะเปิดตัวว่าเป็นแฟนกันสักที พริมมี่แถจนสีข้างแหกหมดแล้วนะคะ ภีมก็ไม่รู้หายไปไหน พริมมี่โทร. หาตั้งแต่เมื่อคืนก็ปิดเครื่องตลอด พี่โซดารู้มั้ยคะว่าตอนนี้ภีมอยู่ที่ไหน” “ถ้ารู้พี่ก็ลากมางานแล้ว” โซดาตอบอย่างหงุดหงิดไม่แพ้กัน “เด็กในสังกัดพี่มีเป็นสิบคน แต่ก็มีแค่เธอกับภีมสองคนเท่านั้นที่ก่อเรื่องให้พี่ไมเกรนขึ้นได้ทุกวี่ทุกวันอย่างนี้” นักปั้นมือทองหยิบยาดมในกระเป๋าแอร์เมสรุ่นลิมิ-เตดอิดิชั่นออกมาสูดปื้ดๆ อย่างแรงสลับกันทั้งสองข้างซ้ายขวา “แต่พริมมี่กับภีมก็ทำให้พี่โซดามีทุกอย่างในวันนี้นะคะ ทั้งเงิน ทั้งบ้าน ทั้งรถ แล้วยังจะกระเป๋าแบรนด์เนมของสะสมสุดโปรดของพี่อีก ซื้อทุกรุ่น ทุกสี ทุกแบรนด์ มีเยอะจนจะเอาไปถมที่ได้อยู่แล้ว พี่โซดาลองคิดดูดีๆ ว่าพริมมี่กับภีมทำเงินให้พี่ตั้งเท่าไหร่แล้ว” “ย่ะ...แม่ตัวเงินตัวทอง” โซดาเน้นคำจิกกัด ทำให้พริมรตาต้องสูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อระงับอารมณ์ ส่วนบ๊วยหวานแทบกลั้นหายใจขณะขับรถเพราะกลัวโดนสะเก็ดระเบิด “ถ้าไม่มีพี่ พริมมี่กับภีมก็ไม่มีวันนี้เหมือนกัน อย่ามาลำเลิกบุญคุณ โดยเฉพาะเธอ ที่เป็นแค่ลูกคนกวาดถนน ถ้าพี่ไม่เห็นว่ามีแววแล้วเก็บมาชุบตัว สร้างประวัติให้ใหม่ ส่งไปโมหน้าที่เกาหลีอีกตั้งกี่รอบกว่าจะสวยเป๊ะขนาดนี้คิดว่าจะมีวันได้เป็นนางเอกแถวหน้าอย่างตอนนี้ได้มั้ย” พริมรตาถึงกับหน้าชาที่ถูกขุดกำพืดเดิมที่เธออยากจะลืมๆ มันไป ถึงแม้สังคมจะเปิดกว้าง และถ้ามีใครรู้ว่าพ่อกับแม่ของเธอเป็นแค่ลูกจ้างกวาดถนนของ กทม. เธอก็คงได้คะแนนสงสารและได้รับการสรรเสริญว่าเป็นคนเก่ง เป็นคนดีที่ถีบตัวเองขึ้นมาอยู่ในที่สูงได้แม้จะเกิดในครอบครัวที่ยากจน แต่เธอไม่ต้องการให้มันเป็นอย่างนั้นเพราะชาติกำเนิดถือเป็นเรื่องที่น่าอับอายที่สุดในชีวิต ทุกวันนี้พริมรตาตัดขาดจากครอบครัว ต่างคนต่างอยู่ โดยเธอจะโอนเงินให้แม่ทุกเดือน เดือนละไม่ต่ำกว่าสองแสนเพื่อเลี้ยงดูอีกหลายชีวิตในครอบครัว อันประกอบด้วย พ่อวัยหกสิบปีที่ขี้เหล้า น้องชายคนรองวัยยี่สิบสองปีจอมเสเพลย์ และน้องสาวคนเล็กวัยยี่สิบปีตัวแสบ ที่ส่อแววว่าจะเรียนไม่จบเพราะติดผู้ชาย “อย่าพูดถึงครอบครัวพริมมี่ได้มั้ย วันนี้วันเกิดพริมมี่แท้ๆ อารมณ์เสียหมด!” นางเอกสาวทิ้งหลังกระแทกพนักพิงแบบเซ็งๆ “พี่โซดาจะให้พริมมี่ให้สัมภาษณ์กั๊กความสัมพันธ์กับภีมอีกนานแค่ไหน ทำไมไม่ให้พูดไปเลยว่าเป็นแฟนกัน” “ถ้าภีมยอมก็ดีสิ” โซดาตวัดเสียงอย่างขัดใจ เพราะถ้าภควัตรยอมพูดว่าเป็นแฟนกับพริมรตาออกสื่อก็จะมีงานคู่หลั่งไหลเข้ามามากกว่าเดิมอีกหลายเท่า นั่นหมายความว่าส่วนแบ่งรายได้ที่โซดาจะได้รับก็จะมากตามไปด้วย “พริมมี่ก็รู้ว่าที่ภีมยอมสร้างกระแสคู่จิ้นตามใจช่องเพื่อเอาใจแฟนคลับอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะเห็นแก่ผู้ใหญ่ที่เคยให้โอกาสตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นเด็กใหม่โนเนม” “เรื่องนั้นพริมมี่รู้ แต่พริมมี่ไม่อยากเป็นแค่คู่จิ้น พริมมี่อยากเป็นคู่จริงงง...” นางเอกสาวลากเสียงยาวอย่าง ‘ว้อนท์’ มาก “ถ้าพริมมี่อยากเป็นแฟนกับภีมจริงๆ ก็ต้องทำให้ภีมรักให้ได้ รีบทำตั้งแต่ตอนที่ภีมยังไม่มีใคร ถ้าภีมเจอคนที่ชอบขึ้นมาเมื่อไหร่พริมมี่ก็จะหมดโอกาสทันที” “ถ้าภีมไปคบกับคนอื่นที่ไม่ใช่พริมมี่ต้องโดนกระแสแอนตี้เยอะแน่ ภีมคงไม่โง่ฆ่าตัวตายแบบนั้นหรอกค่ะ” “คิดว่าภีมแคร์เหรอ” โซดาพูดอย่างรู้นิสัยซุปเปอร์สตาร์หนุ่มดีว่า ที่เขาเข้ามาทำงานในวงการบันเทิงก็เพราะรักการแสดง และมีความใฝ่ฝันอยากเป็นผู้กำกับ หลังเรียนจบปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์จากมหาวิทยาลัยดังรั้วสีชมพู เขาก็ขอพักงานแสดงเพื่อจะไปเรียนต่อเฉพาะทางด้านฟิล์มที่นิวยอร์ก ทว่าผู้ใหญ่ในช่องก็ยื้อไว้จนกระทั่งห้าปีผ่านไปภควัตรก็ยังไม่ได้ไปเรียนต่อตามที่ตั้งใจไว้ แต่โซดารู้ว่าเขายังไม่ละทิ้งความฝัน เขาเพียงแค่รอจังหวะที่เหมาะสมอยู่เท่านั้น “ถ้างั้นพี่โซดาช่วยพริมมี่หน่อยได้มั้ย ถ้าพี่โซดาช่วย ยังไงก็ต้องสำเร็จ” พริมรตาออดอ้อนเสียงอ่อนเสียงหวานพลางขยับเข้ามาบีบนวดเอาใจผู้จัดการส่วนตัวที่นั่งอยู่ที่เบาะหลังของรถด้วยกัน “อือ...ช่วยก็ช่วย” โซดาพยักหน้ารับแบบเชิดๆ ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร เชอะ! “ถ้าพริมมี่กับภีมเป็นแฟนกันจริงๆ ก็วินกันทุกฝ่าย พริมมี่ได้ผู้ชายสมใจ ภีมก็มีคนคอยดูแล พี่ก็จะได้รับทรัพย์จากงานคู่ของเธอสองคน ยิ่งถ้าแต่งงานมีลูกก็รับทรัพย์อีกไม่รู้เท่าไหร่ นี่พี่ได้ข่าวมาว่าเชอร์รี่ที่เพิ่งคลอดลูกแฝด ตอนนี้มีสินค้าจองคิวนางกับลูกให้เป็นพรีเซนเตอร์แล้วนะ ค่าตัวสิบห้าล้านเบาๆ นะยะ” “อย่าเพิ่งฝันไกลขนาดนั้นเลยค่ะ พี่โซดาลืมไปแล้วเหรอว่าภีมไม่ชอบเด็ก ภีมไม่อยากมีลูก” “เออ...จริงด้วย” โซดาไหวไหล่เบาๆ “คนมีปมก็งี้” “เรื่องลูก พริมมี่ก็ไม่อยากมีเหมือนกัน พริมมี่อยากมีแค่หลัว แล้วหลัวของพริมมี่ก็ต้องเป็นภีมคนเดียวเท่านั้นด้วย พี่โซดาต้องช่วยพริมมี่จริงๆ นะ” “ก็บอกแล้วว่าจะช่วยก็ช่วยสิ แต่ถ้าสำเร็จ พี่ขอส่วนแบ่งจากทุกงานของพริมมี่เพิ่มอีกห้าเปอร์เซ็นต์นะ..โอเค้?” “โอเคก็ได้ค่ะ” พริมรตาแอบเซ็ง อยู่ด้วยกันมาแปดปี เธอไม่เคยรู้สึกถึงมิตรภาพหรือความเป็นพี่เป็นน้องจากผู้จัดการส่วนตัวที่ปลุกปั้นกันมาตั้งแต่เป็นวุ้นเลยสักครั้ง ทุกอย่างล้วนเพื่อเงินและผลประโยชน์ทั้งสิ้น อีกสิบห้านาทีเที่ยงคืน ภควัตรนั่งดื่มเบียร์รอเวลาเคาน์ดาวน์อยู่ที่ระเบียงหน้าบ้านพักซึ่งเปิดโล่งมองเห็นวิวทะเลและดวงดาวสุกสกาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืนได้อย่างเต็มตากับณิชา “ปกติคุณดื่มหนักอย่างนี้หรือเปล่า” ณิชาถามพลางมองกระป๋องเบียร์เปล่ามากกว่าสิบกระป๋องที่กองอยู่ข้างตัวพระเอกหนุ่มแล้วยกกระป๋องเบียร์ในมือตัวเองขึ้นจิบ ซึ่งเป็นกระป๋องเดียวที่เธอดื่มตั้งแต่หกโมงเย็นแต่ก็ยังไม่หมดสักที ถึงแม้จะดื่มไม่มาก แต่หญิงสาวที่ปกติไม่แตะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เลยก็เมาจนนั่งหลังไม่ตรง ต้องเอนศีรษะพิงไหล่ของคนข้างกาย “ผมมีงานทุกวัน ดื่มเยอะแบบนี้ไม่ได้หรอก” ภควัตรตอบเสียงอ้อแอ้ยานคาง กำลังเมาได้ที่ “แล้วคุณล่ะ ปกติไม่ดื่มเลยเหรอ ถึงได้เมาง่ายขนาดนี้” “ใครว่าฉันมาววว ฉันไม่มาววว” หญิงสาวโบกไม้โบกมือปฏิเสธทั้งที่เสียงอ้อแอ้ไม่ต่างกัน “อย่ามาปฏิเสธ แก้มคุณแดงแจ๋” เขาเอียงหน้ามาหอมแก้มคนที่เอนซบอยู่กับไหล่ สูดกลิ่นหอมละมุนที่ติดใจนักหนาเข้าจนเต็มปอด “ตาคุณก็เยิ้ม” ริมฝีปากร้อนผ่าวแนบลงบนเปลือกตาหนักอึ้งของหญิงสาวแล้วเลื่อนไปกระซิบเว้าวอนที่ข้างหู “จะให้คำตอบผมได้หรือยัง รอนานแล้วนะ” “คำตอบเรื่องอะไร?” ณิชาเงยหน้าขึ้นสบตาคนที่ก้มมองเธออยู่ “เรื่องคบกันไง” หญิงสาวยิ้มเจ้าเล่ห์แววตาฉ่ำเยิ้มเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ “บอกมาก่อนห้าข้อว่าทำไมถึงชอบช้านนน...แล้วจะตอบว่าจะยอมเป็นแฟนด้วยมั้ย” ภควัตรยิ้มอ่อนพลางรั้งร่างบางเข้ามากอดแนบอก “ข้อหนึ่ง...ตัวคุณอุ่น ข้อสอง...แก้มคุณนุ่ม” ปลายจมูกโด่งกดลงบนแก้มนวลก่อนจะเลื่อนไปที่ริมฝีปากแล้วจูบอย่างอ่อนโยนเนิ่นนาน “ข้อสาม...จูบคุณหวาน” “ตอบอย่างเดียวก็ได้ ไม่ต้องมีท่าประกอบ” เธอประท้วงเสียงแผ่วแต่ไม่ได้มีแววเขินอายเลยสักนิด ตรงกันข้าม เธอกลับรู้สึกเพลิดเพลินกับสัมผัสอ่อนโยนชวนวาบหวามของเขา “ข้อสี่” “หน้าอกคุณสวย” มือใหญ่คว้าหมับเข้าที่ทรวงอกอวบแล้วนวดคลึงผ่านเนื้อผ้า “ข้อห้า” “ตรงนี้คุณแน่น” เขาเลื่อนมือลงไปกอบกุมเนินเนื้อกึ่งกลางร่างกายของหญิงสาวจากภายนอก “ผมจินตนาการไม่ออกเลยว่าถ้าได้เข้าไปอยู่ในตัวคุณจะรู้สึกดีขนาดไหน” “คุณนี่สายหื่นตัวจริงเลยนะเนี่ย” เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้ณิชาลืมอายและปล่อยอารมณ์ให้ล่องลอยไปตามการชักจูงของเขาอย่างง่ายดายกระทั่งเผลอตัวลุกขึ้นเป็นฝ่ายเชิญชวนเขาก่อน “เข้าไปทำกันในห้องดีกว่า” “ทำอะไร” ภควัตรถามย้ำให้แน่ใจว่าไม่ได้เข้าใจผิดหรือคิดไปเองว่าเธอกำลังต้องการเขา เหมือนที่เขาก็กำลังต้องการเธอเช่นกัน ณิชามอบจูบอ่อนหวานแทนคำตอบ ขบเม้มริมฝีปากล่างของเขาอย่างยั่วเย้า ดุนดันปลายลิ้นนุ่มเข้าไปไล้เลียบนลิ้นสากก่อนจะเกี่ยวรัดมาดูดดึงอย่างลึกซึ้ง เธอไม่ได้เจนจัดมากจากไหน แต่ที่จูบได้เร้าใจขนาดนี้ก็เพราะจดจำมาจากครั้งแรกที่ถูกเขาจูบนั่นเอง หญิงสาวได้ยินเสียงคำรามสั่นพร่าในลำคอของเขาก่อนที่ร่างของเธอจะถูกยกลอยขึ้นทั้งที่ปากและลิ้นยังพัวพันกันอยู่ มารู้ตัวอีกทีก็เมื่อแผ่นหลังแตะกับเตียงนอนนุ่ม “ช้านนน..อยากมีเซ็กซ์ที่เร่าร้อนกับคุณ” เธอบอกพลางใช้สองมือประคองใบหน้าเขามาใกล้จนปลายจมูกชนกัน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความเมา หรือเพราะบางเรื่องที่ขุ่นคลั่กอยู่ในใจกันแน่ที่เป็นตัวผลักกันให้เธอกล้าออกปากขอมีเซ็กซ์กับผู้ชายแบบนี้ “อยากได้เดี๋ยวจัดให้” เขาจุ๊บที่ริมฝีปากเธอครั้งหนึ่งแล้วถอยห่างเพื่อถอดเสื้อผ้าทุกชิ้นออกเผยให้เห็นมังกรร้ายตัวบิ๊กเบิ้ม OMG!!! มันใหญ่มาก!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD