ตอนนี้เขาอาจจะมองว่าฉันเป็นพวกบ้า ๆ บอ ๆ แต่ทำไมล่ะในเมื่อเวลาชอบใครสักคนก็อยากจะทำให้เขาพอใจมากที่สุดไม่ใช่หรอ ฉันก็อยากจะให้เสี่ยรู้สึกดีเพราะจากที่สังเกตดูเขามักจะทำหน้าหงุดหงิดใส่ฉันแถมบ่นสบถตลอดเวลาอีกด้วย ไม่รู้ว่าหน้าฉันมันไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจ!!
“เธอได้ที่ฝึกงานรึยัง?” เสียงของจักราทำให้ฉันออกจากภวังค์ความคิด
“อ่อ ดะ ได้แล้วน่ะ นายล่ะ?”
ตอนแรกฉันกับจักราว่าจะไปหาสมัครที่ฝึกงานด้วยกันแต่เพราะเขามัวแต่ยุ่ง ๆ ฉันเลยยังไม่ได้ไปที่ไหนซะทีจนมาเจอเสี่ยนี่แหละ
“อ่าว ได้เมื่อไหร่ไม่เห็นบอกกันบ้าง”
“เพิ่งได้วันนี้แหละ”
“ดีจังถ้าเขารับเด็กฝึกงานเพิ่มเธอบอกฉันด้วยละกัน”
จักราหันมายิ้มให้ฉันอย่างมีความหวัง บางทีฉันอาจจะคุยกับเสี่ยให้เขารับจักราเข้าฝึกงานอีกคนยังไงซะเขาก็เป็นเพื่อนสนิทของฉันจะให้นิ่งดูดายได้ยังไงกัน คงต้องตอบแทนเขาสักหน่อยที่คอยช่วยเหลือฉันมาตลอด ที่เขาไม่ยอมมีแฟนสักทีอาจจะเพราะต้องคอยปกป้องฉันก็ได้ ฉะนั้นการฝึกงานครั้งนี้เขาอาจจะเจอผู้หญิงดี ๆ สักคนมาเป็นแฟน….
“ไปหาอะไรกินกันมั้ย?”
จักราถามขึ้นขณะที่เดินมาอยู่ที่หน้าคณะ เพราะตอนนี้พวกเราเลิกคลาสแล้ว จริง ๆ ก็แทบจะไม่มีอะไรด้วยซ้ำแค่เข้ามาฟังเรื่องเกี่ยวกับการฝึกงานที่แสนจะน่าเบื่อหน่าย ฉันก้มมองดูนาฬิกาเห็นว่ามีเวลาเหลือเฟือกว่าเสี่ยจะมารับ ไปกินข้าวสักหน่อยก็ดีเหมือนกันวันนี้ยังไม่ได้กินอะไรเลยด้วย
ฉันพยักหน้าให้เขาแล้วเดินลัดเลาะไปที่ร้านขายอาหารที่อยู่แถว ๆ คณะบริหารฯ เป็นครั้งแรกที่ฉันเข้ามาร้านแบบนี้ คือมันตกแต่งอย่างหรูต่างจากในโรงอาหารลิบลับเลยล่ะ เขาเลื่อนเก้าอี้โซฟากำมะหยี่อย่างดีให้ฉันนั่งก่อนจะเดินไปที่ฝั่งตรงข้าม
นี่มันโต๊ะกินข้าวแน่หรอ!!?
ฉันไล่นิ้วไปกับโต๊ะกระจกสุดหรูที่ดูเหมือนเอาไว้วางพวกของมีค่าอย่างเพชรอะไรแบบนี้มากกว่าเอามาวางกับข้าว บรรยากาศรอบ ๆ แม้ว่าจะเป็นกระจกรอบด้านแต่แสงไฟที่ใช้ก็ให้ความรู้สึกแบบหรูเวอร์
“นี่ ร้านแบบนี้มันน่าจะแพงนะ…”
“โถ่คิดมากน่า ฉันเลี้ยงเองสั่งเลย ๆ ” จักราหัวเราะเบา ๆ แล้วรีบยื่นเมนูมาให้ฉันดู
“ซะ ซาดี อา บีคาฟาโอ้…มอสสกาโต้ ….ฟอคคาเซีย เอ่ออ”
คือไอ้เมนูชื่อประหลาด ๆ มันคืออะไรบ้างใครช่วยบอกที?!! ฉันเงยหน้าขึ้นมาจักราอย่างไม่รู้จะสั่งอะไร หางตาฉันเห็นร่างสูงแว็บ ๆ เลยหันไปมอง…คนคุ้นเคยกำลังเดินตามมาทางนี้
เสี่ยวี!!
เขาเดินมากับใครคนหนึ่งที่น่าตาดีมาก ๆ ดูหล่อเท่ห์ เนี๊ยบมีสไตล์ดูจากท่าทางการคุยกันแล้วน่าจะเป็นเพื่อนสนิท ฉันจ้องมองตลอดเวลาที่เขาเดินจนเขาเองหันมาเห็นฉันระหว่างที่เดินผ่านโต๊ะ ฉันทำท่าจะทักแต่เขาดันเมินซะก่อนมือที่ยกค้างไว้เลยต้องเอาลงอย่างเก้อ ๆ
“งั้นฉันสั่งให้นะ” จักราพูดบอกฉันแต่ตาเขายังคงมองดูเมนูอยู่
“อืม ตามสบายเลย”
“น้อง ๆ เดี๋ยวขอเป็น……”
ระหว่างที่เขากำลังสั่งอาหารอยู่ฉันก็ได้หันไปมองทางด้านหลังเพื่อดูงว่าเสี่ยนั่งอยู่ตรงไหนแต่ก็มองไม่เห็นเพราะไอ้เก้าอี้บ้านี้มันสูงจนบังมิดหัว
“หาอะไรหรอ?”
“อะ อ่ออ ห้องน้ำน่ะ คือมองหาไว้ก่อนไม่ได้อยากเข้า”
“เธอนี่พิลึกจริง ว่าแต่ช่วงฝึกงานเธอจะเอาที่ไหนจ่ายค่าห้องล่ะ”
“……”
ฉันไม่กล้าตอบอะไรออกไปคือยังไงล่ะถ้าบอกว่ามีแล้วเดี๋ยวก็โดนซักอีกว่าเอามาจากไหน ถ้าบอกไม่มีเดี๋ยวเขาก็หาเงินมาให้อีก บอกตรง ๆ ว่าเกรงใจมากเพราะเราเป็นแค่เพื่อนกันไงเขาไม่ควรที่จะต้องมารับผิดชอบชีวิตฉัน
“งั้นเอาอย่างนี้มั้ย เธอมาอยู่กับฉันก่อนพอฝึกงานเสร็จค่อยหาที่อยู่ใหม่ ”
“เอ่อคือ…”
“ฉันจริงจังนะ แล้วอีกอย่างเรื่องแม่เธอ…”
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันพึ่งนายมามากแล้วนะ นายเป็นเพื่อนที่ดีมากนะแต่ต่อจากนี้ฉันจะจัดการเอง”
“ยังไง?”
“เออหน่า เดี๋ยวไว้ค่อยบอก แต่ตอนนี้กินก่อนดีมั้ยหิวละเนี่ย”
พนักงานเดินมาเสิร์ฟอาหารพอดีเลยเป็นโอกาสให้ฉันเลี่ยงไปได้ ฉันรู้ว่าในเร็ว ๆ นี้เขาคงต้องรู้อยู่ดีถ้าฉันขอเสี่ยให้เขาฝึกงานได้ แต่คือมันต้องขอทำใจนิดนึงเขาจะรู้สึกยังไงถ้าฉันบอกว่าเป็นเด็กเสี่ย!! ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาคงผิดหวังในตัวฉันชัวร์ ๆ
“แล้ววันนี้เธอต้องไปทำงานพิเศษรึเปล่า ให้ฉันไปส่งนะ” เขาถามขึ้นเมื่อเราสองคนกินเสร็จแล้ว
จักราเป็นคนเดียวจริง ๆ ที่เป็นห่วงเป็นใยฉันมาก คือมากเกินไปด้วยบางทีไม่รู้จะอะไรนักหนาจนคนอื่นเข้าใจผิดหมดแล้วว่าฉันเป็นแฟนเขา!!
“ฉันไม่ได้ทำแล้วล่ะ ฉันได้ที่ฝึกงานแล้วนะจะไปทำงานพิเศษอีกได้ยังไง”
“อืม งั้นเดี๋ยวฉันลองไปเซอร์เวย์แถวนี้ดูละกันเผื่อยังมีบางที่รับเด็กฝึกงาน เธอก็กลับดี ๆ ล่ะ”
ฉันพยักหน้าให้เขาพร้อมกับเดินไปรอเสี่ยวีที่หน้าคณะเหมือนเดิม ตอนเดินออกมาฉันแอบหันไปมองข้างหลังด้วยเผื่ออาจจะเจอเขานั่งอยู่แต่เปล่าเลยไม่เห็นหัวใครสักคนเก้าอี้บังหมด….