“ทำอะไรเป็นบ้างล่ะ?”
เสียงเธอดังขึ้นบริเวณด้านหลังทำเอาฉันใจหายวาบไม่รู้เพราะมาดเชิด ๆ ราวกับนางพญาของเธอรึเปล่าที่ทำให้ฉันรู้สึกหวาดหวั่นประหม่าอย่างบอกไม่ถูก
“ทะ ทำเป็นทุกอย่างค่ะ”
“อืมดี เดี๋ยวฉันให้คนจัดโต๊ะให้เธอนะ”
“ขอบคุณค่ะ คุณ….”
“เรียกฉันว่าพี่อันนาก็ได้” เธอพูดพร้อมกับก้มลงกดโทรศัพท์
แบบว่าท่ายืนของเธอมันโคตรจะเอ็กซ์เซ็กซี่เธอโค้งตัวลงตั้งฉากกับพื้น 80 องศาเพราะกระโปรงที่สั้นบวกกับขายาว ๆ ของเธอนั่นชวนมองมาก แม้ผู้หญิงอย่างฉันยังคิดว่าน่ามองเลย ถุงน่องสีดำนั้นยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้เธอมากขึ้นหลายเท่า
หลังสั่งงานทางโทรศัพท์เสร็จแล้วเธอก็หันมายืนกอดอกอยู่ข้างหน้า สายตาก็สำรวจฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าไปมาหลายรอบด้วยสีหน้าที่แสนจะเรียบเฉย
“เธอเป็นอะไรกับคุณปฐวี?”
เอ่อฉันดูละครมาก็มากคำถามแบบนี้มักใช้เวลาที่แฟนพระเอกเกิดความหึงหวงที่เห็นว่าคนรักของตนควงคนแปลกหน้ามาให้เห็น….แน่นอนว่าฉันควรจะตามก่อนที่จะตอบเพื่อไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรม!
“เอ่อ น้ำมนต์ขอถามก่อนได้มั้ยคะ พี่อันนาเป็นแฟนกับสะ เอ่อคุณวีรึเปล่า?” คำถามของฉันทำเอาเธอกลั้นหัวเราะแทบไม่อยู่
“ฉันเนี่ยนะเป็นแฟนนายวี เหอะไม่มีทางหรอก ฉันกับเขาเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว”
คำตอบของเธอทำให้ฉันโล่งใจเพราะหวั่น ๆ อยู่ว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์เหมือนในละครที่แฟนพระเอกเข้ามาตบนางเอกจนหน้าหงาย….เอ่อฉันแค่สมมตินะว่าตัวเองเป็นนางเอกน่ะ
“คือน้ำมนต์เป็นเด็กเสี่ยวีค่ะ” ฉันเข้าไปพูดเบา ๆ ให้เราได้ยินกันสองคน และทันทีที่ฉันพูดจบผลคือเธอทำหน้าตกตะลึงเหมือนเห็นผีอยู่ตรงหน้า!!
“อะ อะไรนะ เสี่ยวี เด็ก? เธอเป็นเด็กเขา ละเขาก็เป็นเสี่ย?” พี่อันนาถามด้วยสีหน้างุงงงแบบไม่ค่อยเชื่อในสิ่งที่ได้ยินเท่าไหร่
ดูเหมือนว่าเธอจะมีข้อสงสัยมากมายที่อยากจะถามต่อ แต่พอดีว่าพนักงานยกโต๊ะเข้ามาซะก่อนเธอเลยหันไปจัดการสิ่งต่าง ๆ ให้เรียบร้อย ท่าทางของพี่ดูคล่องแคล่วมากจนฉันอดที่จะอิจฉาไม่ได้เลยดูเธอเป็นเวิร์คกิ้งวูแมนตัวจริงทั้งทำงานเก่ง ทั้งสวยแบบว่าเพอร์เฟคมาก ๆ
“เธอ…น้ำมนต์ใช่มั้ย เดี๋ยวเธอมาเป็นผู้ช่วยฉันละกัน เริ่มฝึกงานวันไหนล่ะ?”
“วันมะรืนค่ะพี่ เอ่อพี่อันนาคะ ถ้าน้ำมีเพื่อนจะมาฝึกงานด้วย…”
“เรื่องนี้เธอต้องถามคุณวีนะ ฉันไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจแทน วันนี้เธอก็นั่งเล่นไปก่อนละกัน”
พี่อันนาพูดจบก็หันไปเขียนอะไรยุกยิกบนเอกสาร เดี๋ยวก็หยิบนู้นที่ นี่ทีคือเป็นคนที่ทำงานได้คล่องตัวมาก ๆ จะว่าไปแล้วงานเลขานี่ก็ไม่ง่ายเลยนะ แบบว่าเคยเห็นในละครไงเจ้านายชอบแกล้งเลขาให้ทำงานหนัก ๆ แล้วก็เห็นเลขาเป็นที่ระบายอารมณ์ด้วย!
“อะ เอาประวัติบริษัทไปอ่านดูแล้วกันเผื่อจะเข้าใจงานมากขึ้น” พี่อันนาลุกขึ้นมายืนแฟ้มให้ฉันที่โต๊ะ
ปฐวี อัครพงษ์สวัสดิ์! ลูกชายบุญธรรมของคุณกฤษณะ อัครพงษ์สวัสดิ์!! เสี่ยรวยขนาดนี้เลยหรอเนี่ยมิน่าถึงอยู่คอนโดหรูซะขนาดนั้นแถมรถที่ขับก็ไม่ธรรมดาซะด้วย ระดับเขานี่ไม่ต้องทำอะไรก็มีกินไปทั้งชาติแล้ว
PATRAWEE TALK
“ไงคะเสี่ย เดี๋ยวนี้ริอาจเลี้ยงเด็กแล้วหรอ” อยากเลี้ยงตายแหละ! ผมปิดแฟ้มลงอย่างเบื่อหน่าย ยัยอันนาเลขาคนสนิทเอาแต่ทำท่าล้อเลียนจนรู้สึกหงุดหงิดอยากเอาแฟ้มปาหน้าแม่ง! แต่เผอิญเป็นคนดีไง ไม่ทำร้ายหญิง
อันนาเป็นเพื่อนสนิทผมเอง เรารู้จักกันมาตั้งแต่ผมเรียนมหาวิทยาลัยปี 1 นิสัยเธอห้าว ๆ เหมือนผู้ชายอะไรก็ได้ ไม่ยุ่งยากเราจึงคบกันมาได้ถึงตอนนี้ แม้นิสัยเธอจะลุย ๆ แต่สไตล์การแต่งตัวเนี่ยเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดอย่าบอกใคร เห็นเซ็กซี่แบบนี้อย่าได้แหยมไปเล่นกับนางเชียว อาจเจอแตะก้านคอไม่รู้ตัว
อันนาแม้จะดูเซ็กซี่ในแบบที่ผมชอบ แต่สำหรับผมแล้วไม่เคยคิดเกินกว่าเพื่อน เธอก็ไม่เคยคิดกับผมเช่นกันทำให้ คบกันอย่างสะดวกใจไร้เรื่องชู้สาว ก็นะผมมันคนดีไม่กินเพื่อนตัวเองหรอก!
.”เรื่องมันยาวว่ะ เอาเป็นว่าฝากดูแลด้วยละกัน”
“ไม่ใช่เพราะว่ายัยนั่นเหมือน…..”
“ไม่ใช่! แกอย่ามาเซ้าซี้ว่ะ แล้วนี่นางแบบอ่ะมายังหา!” เรื่องสืบ ๆ เสือก ๆ เนี่ยยังนี่เก่งนักโดยเฉพาะเรื่องชาวบ้าน ถ้าได้ลองมันอยากรู้ละก็ ผมไม่ต้องบอกหรอกเดี๋ยวเธอก็สืบเอาจนได้
“โถ่เสี่ยก็ ใจร้อนไปได้” นี่มันจะแซวอีกนานมั้ยวะ แล้วยัยน้ำมนต์นั่นกลัวไม่มีใครรู้หรอไงว่าเป็นเด็กเสี่ย แม่งป่านนี้ประกาศไปทั่วออฟฟิตแล้วเปล่าก็ไม่รู้!
“มีเด็กใส ๆ น่ารัก ๆอยู่ทั้งคน ไม่พออีกหรอ?” ตรงไหนวะที่ว่าใส บอกผมที่เถอะว่ะ!
“เธอจะรู้ไร เด็กบ้านั่นโรคจิตจะตายวัน ๆ จ้องจะกินฉันให้ได้” พูดอีกก็เซ็งอีก ใช่ว่าผมไม่รู้ว่าน้ำมนต์คิดยังไง เสนอตัวให้ซะขนาดนั้นจนผมเองยังขยาด ดูไม่ออกจริง ๆ ว่าพฤติกรรมของเธอมันจริงหรือแกล้งแม่งโคตรจะสับสน