[น้อง]
หลายวันต่อมาหลังจากงานปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่จบไป วันรับน้องเข้าคณะก็เริ่มขึ้น เนื่องจากตอนนี้มหาวิทยาลัยหลายแห่ง หลายภาควิชา ได้ยกเลิกกิจกรรมรับน้องแบบเดิม ๆ ไปแล้ว วันนี้คณะของฉันจึงมีเพียงการพบปะและเล่นเกมสนุก ๆ ทำความรู้จักกับเพื่อน ๆ และรุ่นพี่เท่านั้น
“การเรียนในช่วงเทอมแรกของพวกน้อง ๆ ก็จะประมาณนี้ครับ มีใครสงสัยอะไรอีกไหมครับ หรือจะเป็นเรื่องอื่นก็ได้ พวกพี่จะได้ช่วยกันตอบ” ตัวแทนรุ่นพี่ที่ยืนอยู่กลางวงล้อมน้องปีหนึ่งถามขึ้น
“เรื่องการแต่งกายกายค่ะพี่” เพื่อนปีหนึ่งคนหนึ่งยกมือขึ้นถาม
“แต่งเครื่องแบบปกติเลยครับ เอาแค่สุภาพก็พอ นอกจากช่วงสอบอาจจะเนี๊ยบนิดหนึ่ง ส่วนสีผมก็ทำได้แต่อย่าแรงมาก เพราะเวลาฝึกงานหรือแม้แต่ตอนที่เราทำงานจริงก็ต้องศึกษาระเบียบขององค์กรอีกทีครับ”
“แล้วผู้หญิงใส่ทรงเอได้ตอนไหนคะ มีกำหนดไหมว่าปีไหนต้องใส่อะไร ห้ามอะไร”
“แต่งแบบไหนมาก็ได้ค่ะ สั้น ยาว หรือคลุมเข่า เอาที่เราสะดวกเลย แค่ช่วงสอบ ช่วงฝึกงาน ขอสุภาพหรือเป็นทางการนิดหนึ่ง เพราะเราเรียนบริหารเวลาไปพบลูกค้าหรือคู่ค้าในอนาคตก็ต้องแต่งตัวดูดีใช่ไหม การสอบหรือฝึกงานก็เช่นกันค่ะ เป็นตัวของตัวเองได้ในบางเวลา แต่ก็ต้องดูสถานที่ เวลา และบริบทอื่น ๆ ประกอบด้วย”
รุ่นพี่หลายคนทั้งหญิงและชายเริ่มเข้ามาแนะนำพวกเราเกี่ยวกับการเรียนการสอนของแต่ละชั้นปี การใช้ชีวิตในรั้วและนอกรั้ว รวมถึงแนะนำสถานที่เที่ยว ที่พักผ่อน ร้านอาหารอร่อย ร้านของกินของใช้ราคาประหยัด การวางแผนตารางเรียน ที่ทำงานพาร์ตไทม์ และสายรถเมล์ที่พวกเราต้องใช้กัน ฉันชอบการรับน้องแบบนี้ เพราะเหมือนได้ฟังคนที่เขาผ่านช่วงเวลาที่เรากำลังจะก้าวเข้าไปมาเล่าประสบการณ์และแลกเปลี่ยนให้เราฟัง อะไรที่ไม่ดีจะได้ระวังไว้ อะไรที่ดีจะได้จำและประยุกต์ใช้
“งั้นต่อไปเราจะแนะนำตัวกันนะครับ เมื่อกี้พวกพี่แนะนำตัวกันไปแล้วใช่ไหม ทีนี้ให้พวกน้อง ๆ แนะนำตัวกันบ้าง” รุ่นพี่หน้าหล่อที่ยืนถือไมค์อยู่พูดขึ้น “พี่จะให้น้อง ๆ แนะนำชื่อเล่นของตัวเองพร้อมกับท่าเต้นน่ารัก ๆ ให้พี่ ๆ เพื่อน ๆ ได้ชมกัน” พอพี่เขาพูดจบเท่านั้นแหละ เสียงฮือฮาของปีหนึ่งก็ดังขึ้น
“เดี๋ยวก่อนครับ ใจเย็น ๆ พี่ไม่บังคับให้เต้นกันทุกคนนะ เพราะบางคนอาจจะแบบเฮ้ยอายว่ะ เขินไรงี้ หรือบางคนอาจไม่ชอบเต้น แต่แค่อยากมานั่งฟังเฉย ๆ พวกพี่ก็เลยมีข้อเสนอมาให้ ยุคนี้มันยุคเสรีใช่ไหมล่ะ เดี๋ยวจะว่ารุ่นพี่แม่งใช้อำนาจว่ะไรงี้ แต่พวกพี่แบบคนดีไง เลยมีข้อเสนอมาให้” พี่เขาว่าติดตลกซึ่งพวกฉันหลายคนก็ขำตาม ตอนนั้นเองที่รุ่นพี่คนอื่น ๆ ช่วยกันถือกล่องกระดาษสามใบใหญ่ ๆ เข้ามา
“นี่คือคูปองโรงอาหาร คูปองร้านชานมไข่มุกเจ้าดังของมอเรา แล้วก็คูปองส่วนลดร้านหนังสือมือสองประจำมอเราครับ เจ้าของร้านเป็นรุ่นพี่ในคณะเรานี่แหละเขาให้มา คูปองหนึ่งใบใช้ซื้อของได้หนึ่งอย่าง เช่น คูปองโรงอาหารก็แลกข้าวได้หนึ่งจานไม่จำกัดราคา คูปองร้านชานมก็ได้เครื่องดื่มฟรีหนึ่งแก้ว คูปองร้านหนังสือก็ได้หนังสือฟรีหนึ่งเล่ม” รุ่นพี่คนเดิมชูคูปองใบเล็ก ๆ ขึ้นให้พวกเราดู ปีหนึ่งหลายคนเริ่มสนใจรวมถึงฉันด้วยเมื่อได้ยินคำว่าฟรี เราแค่เต้น ๆ อะไรสักท่าในเวลาสั้น ๆ ก็ได้มันมาแล้ว
“แต่พี่ไม่ได้ให้ทุกคนนะครับ ใครแนะนำชื่อแล้วเต้น พี่ให้คูปองหนึ่งใบ น้องเลือกได้เลยว่าเอาใบไหน ส่วนใครที่ไม่เต้นก็ลุกขึ้นแนะนำตัวแล้วนั่งลง แค่นั้นเองครับ ง่ายใช่ไหม”
“แก ฉันอยากได้คูปองร้านหนังสือ” เราสามคนหันไปมองหน้ากันแล้วกระตุกยิ้มพร้อมกันราวกับนัดไว้
“งั้นเราต้องเต้น” ยัยสาคูว่า ฉันกับยัยน้ำก็พยักหน้าให้ก่อนจะมองไปยังเป้าหมายที่รุ่นพี่ถืออยู่
คูปองพวกนั้นราคาอาจจะไม่มาก แต่สำหรับเด็กปีหนึ่งอย่างพวกเราแล้วมันก็ช่วยประหยัดได้ หลายคนที่มาเรียนไม่ได้เป็นลูกผู้ดีมีเงินทุกคน บางคนต้องทำงานส่งตัวเองเรียน บางคนพ่อแม่ให้ค่าขนมมาแบบจำกัด อย่างฉันกับพวกพี่ ๆ ถึงจะเป็นลูกเศรษฐีแต่พ่อกับแม่ไม่เคยให้บัตรเครดิตแบบไม่จำกัดวงเงินใช้เหมือนพระนางในนิยายหลายเรื่องที่เคยอ่าน ยิ่งไปกว่านั้นฉันต้องใช้เงินเดือนแค่ครึ่งเดียวมันก็ยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่
“เดี๋ยวพี่จะทำให้ดูก่อนว่าใครอยากได้คูปองนี้ต้องทำยังไง” พี่หน้าหล่อพูดขึ้นก่อนจะเริ่มแนะนำตัวเองอีกครั้ง “สวัสดีครับ พี่ชื่อหมู ชอบทำท่าอย่างนี้อย่างนี้” ท่าเต้นของพี่เขาที่เด้งหน้าเด้งหลังพร้อมกับจังหวะกลองที่รัวขึ้นทำให้พวกฉันหัวเราะร่วนทั้งหอประชุม
“แล้วถ้าคนที่ไม่อยากเต้นล่ะครับพี่หมู” ปีหนึ่งคนหนึ่งยกมือขึ้นถาม
“สำหรับคนที่ไม่อยากเต้นก็ไม่ยากเลยครับ น้องก็แค่แนะนำตัว สวัสดีครับ ผมชื่อหมูครับ แล้วก็นั่งลงครับ ทีนี้เพื่อน ๆ พี่ ๆ ก็จะปรบมือให้ เป็นไง ง่ายใช่ไหม”
“ครับ/ค่ะ”
“งั้นมาเริ่มกันเลยครับ เอาทางนี้ก่อนเลย วนไปจนครบทุกคน” พี่หน้าหล่อเดินมาทางที่ฉันนั่งอยู่ เขายื่นไมค์ให้เพื่อนคนหนึ่งแล้วทุกอย่างก็เริ่มขึ้น
“สวัสดีค่ะ หนูชื่อสาคู ชอบทำท่าอย่างนี้อย่างนี้”
“ฮ่า ฮ่า” / “วี๊ดวิ้ววว” ทันทีที่สาคูเริ่มแนะนำตัว บรรดาเพื่อน ๆ และพี่ ๆ ในหอประชุมก็เริ่มส่งเสียงฮาเหมือนกับที่เพื่อนคนอื่นโดนกัน ส่วนฉันก็นั่งปรบมือและหัวเราะร่วนไม่ต่างจากคนอื่น
“สวัสดีค่ะ หนูชื่อน้ำ ชอบทำท่าอย่างนี้อย่างนี้” ยัยน้ำลุกขึ้นเต้นท่าทางตลก ๆ ของนางบ้าง ในหอประชุมก็เริ่มหัวเราะร่วนด้วยความสนุก บ้างก็ปรบมือให้กันเหมือนทุก ๆ คนที่ผ่านมา
“สวัสดีค่ะ หนูชื่อน้อง ชอบทำท่าอย่างนี้อย่างนี้”
“อ๊ากก น่าร้ากก” / “ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
พวกเราแต่ละคนเรียกเสียงฮาให้กันและกัน ถึงจะอายหน่อย ๆ แต่พอได้ทำแล้วก็โล่ง มันทำให้มีคนรู้จักและจำเราได้ เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ที่สนุก ๆ และน่าจดจำ
“คิวต่อไปเลยครับ ใครเต้นแล้วออกมาเอาคูปองนะครับไม่งั้นพี่ยึดนะ” ฉันส่งไมค์ให้เพื่อนคนอื่นแล้วเดินออกไปรับคูปองด้วยความอายหน่อย ๆ ทว่ากำลังจะเข้าไปหยิบคูปองของร้านหนังสือ สายตาเจ้ากรรมก็ปะทะกับใครบางคนที่เดินยิ้มยกมุมปากมาทางนี้
เขามาตั้งแต่เมื่อไรกัน? ก่อนหน้านี้ฉันมองหาแล้วไม่เจอนี่นา...
“ชอบเต้นก็ไม่บอก สงสัยก่อนนอนต้องให้เธอเต้นให้ดูวันละรอบแล้วมั้ง” เขาโน้มลงมากระซิบก่อนจะหยิบคูปองส่งให้ฉัน ตอนนั้นเองที่ใบหน้าของฉันร้อนฉ่าขึ้น ไม่ได้เขินที่ได้อยู่ใกล้คนหล่อเพราะเห็นกันมาตั้งแต่เด็ก แต่อาย อายมาก อายท่าเต้น! พอกำลังจะหมุนตัวกลับไปก็เห็นพี่พระพายยืนโบกมือให้อยู่ข้างหลังยัยสาคู ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพี่เขาไปอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไร ในมือพี่เขาถือกล้องตัวใหญ่อยู่ ท่าทางของพี่ชายคนโตทำให้ฉันรู้ว่าไลน์กลุ่มบ้านใหญ่ต้องมีคลิปเต้นของฉันหลุดไปแน่ ๆ
“เดี๋ยวก่อนครับเดี๋ยวก่อน น้องอย่าเพิ่งไป” พี่คนหนึ่งเดินถือไมค์อีกอันฝ่าวงล้อมเข้ามาหาฉันพร้อมกับรอยยิ้มแปลก ๆ “น้องเป็นน้องสาวไอ้พระเพลิงใช่ไหมครับ” พี่เขาถามขึ้นก่อนจะหันไปอีกด้านที่มีพี่พระเพลิงนั่งไหวไหล่อยู่บนเก้าอี้พลาสติกสีน้ำเงิน
“...ใช่ค่ะ”
“เอาแล้ว ๆ”
“วู้ววว” ทันทีที่ฉันตอบรับรุ่นพี่คนนี้ รุ่นพี่หลายคนก็เฮกันลั่น พร้อมกันนั้นยังปรบมือด้วยความชอบอกชอบใจกันใหญ่ ว่าแต่ลางสังหรณ์แปลก ๆ นี่มันอะไรกัน...
“ปีที่แล้วพวกมึงจำได้ปะว่าไอ้เพลิงมันพูดอะไรไว้” พี่คนเดิมหันไปถามรุ่นพี่คนอื่น ซึ่งก็มีบางคนเป็นตัวแทนปีสอง ปีสามและปีสี่ “ไอ้เพลิงมันแกล้งน้องสาวกู มันบอกว่าถ้าปีหน้าน้องสาวมันสอบเข้าคณะนี้ได้มันจะให้กูแกล้งคืน” ตอนนั้นเองที่ทุกคนในหอประชุมส่งเสียงเฮกันลั่น ส่วนฉันหันไปหาพี่พระเพลิงก็เห็นว่าพี่เขาหลบอยู่หลังเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่ง
“ไอ้เหี้ยเพลิงอย่างเลวอะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” รุ่นพี่หลายคนตะโกนว่าพี่ชายฉัน ส่วนฉันยืนเหงื่อแตกพลั่ก หันไปมองยัยสองเพื่อนซี้ก็เห็นว่าพวกนางกำลังหัวเราะคิกคักกันและหยิบมือถือขึ้นมาอัดคลิปรอ
“น้องชื่อน้องใช่ปะ”
“ค่ะ”
“ไม่ต้องกลัวนะ พี่ไม่ทำอะไรพิเรนทร์แน่นอน” พี่คนเดิมว่าก่อนจะส่งสัญญาณมือให้พวกเดียวกันประจำที่ แน่นอนว่ามีมือกลองกับมือฉิ่ง
“เฮ้ยเดี๋ยวก่อน ถ้าน้องเขาไม่ชอบเต้นล่ะ” พี่คนที่เป็นพิธีกรอยู่ก่อนแล้วปรามเพื่อน
“ไม่หรอก คนที่ออกมารับคูปองก็คือคนที่โอเคกับการเต้นไง ใช่ไหมครับ” พอพี่เขาพูดจบเสียงเฮในหอประชุมก็ดังขึ้นอีก ฉันได้แต่ไว้อาลัยให้กับตัวเอง การเป็นน้องสาวที่มีพี่ชายแสบ ๆ แบบนี้ช่างน่าสงสาร
“เต้นเพลงเดียวแล้วพี่ให้คูปองเพิ่มอีกสองใบเลย” พี่คนเดิมว่า ฉันก็พยักหน้าให้ คิดว่ามันคือการเล่นสนุก ๆ ก็แล้วกัน
“พี่จะเต้นให้ดูก่อน แล้วเพลงต่อไปน้องน้องต้องเต้นเองคนเดียวนะ”
“ค่ะ”
“เอ้า เพลงมาเลยย!”
ตึง!!!!!
♪ ♬ ♫〜 “เสียงไก่ขันล่ะเมื่อตอนตีสี่ อาฮ้า อาฮ้า บ้านหลังนี้ทำไมถึงสั่น อาฮ้า อาฮ้า” ทันทีที่เสียงเพลงและเสียงกลองสลับกับเสียงฉิ่งดังขึ้น พี่คนหล่อก็เริ่มโยกย้ายส่ายเอวไปมาในท่วงท่าที่ฉันอยากจะเอาหน้ามุดดินหนี ขณะเดียวกันเพื่อน ๆ และรุ่นพี่ที่นั่งดูอยู่ก็หัวเราะกันใหญ่ บ้างก็ปรบมือรัว ๆ บ้างก็ขำค้างจนหน้าดำหน้าแดง หลังเพลงจบลงเสียงปรบมือของทุกคนก็ดังขึ้นเพื่อขอบคุณพี่เขา
“ต่อไปน้องน้องเต้นคนเดียวนะ เอาให้เหมือนพี่นะ ไม่งั้นไม่ให้กลับ” เสียงเพื่อน ๆ หลายคนร้องเฮกันอีกครั้ง ฉันหันไปมองพี่ชายทั้งสามก็เห็นว่าทุกคนไปนั่งรวมตัวกันตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ รู้แต่ว่าตั้งกล้องหันมาทางฉันกันหมด
อ๊ากก! อยากจะบ้าตาย
“เอ้าเพลงมา!”
ตึง!!!!!
♪ ♬ ♫〜 “เสียงไก่ขันล่ะเมื่อตอนตีสี่ อาฮ้า อาฮ้า บ้านหลังนี้ทำไมถึงสั่น อาฮ้า อาฮ้า อยากจะรู้เขาทำอะไรกัน อาฮ้า อาฮ้า บ้านมันสั่นเป็นเพราะอะไร อาฮ้า อาฮ้า” ♪ ♬ ♫〜
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
“วู้ววว”
พอเพลงจบ การทัวร์นรกพร้อมกับเสียงหัวเราะของฉันก็จบลงด้วย ฉันไม่กล้าเงยหน้ามองใครแล้วตอนนี้ แต่ก็ต้องทำเป็นหน้าด้านเข้าไว้เพราะเป้าหมายคือคูปองสองใบที่จะได้เพิ่ม
__________
>>> สงสารลูกสาววว 555
>>> เรื่องนี้ไรท์ไม่มีตอนในสต็อกนะคะ มีแค่ทรีตเมนต์ตอนละ 4-5 บรรทัด จากนั้นเอามาต่อยอดเป็นตอนยาวในวันนั้น ๆ เลยค่ะ จะพยายามมาอัปทุกวันนะคะ แต่บางวันอาจมาตอนเดียวหรือสองตอนเพราะไรท์ต้องปิดจบเรื่องเก่าไปด้วยค่ะ หากถูกอกถูกใจอย่าลืมกดไลก์ กดหัวใจ หรือคอมเมนต์พูดคุยกันน้าา
>>> เรื่องนี้หลังแต่งจบเดี๋ยวมีสุ่มเลือกคอมเมนต์เม้าท์มอยของ 3 ท่านเพื่อแจกโค้ดอีบุ๊กฟรีค่ะ จะเป็นคอมเมนต์อะไรก็ได้ เอาที่สะดวกเลย อย่าลืมแวะมาคุยกันนะคะ (ถึงไม่ค่อยได้ตอบแต่ส่องทุกวันเลยน้าา)